บล.เคที ซีมิโก้: รายงานภาวะTFEX28/01/53

บล.เคที ซีมิโก้: รายงานภาวะTFEX28/01/53

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาด TFEX รายวัน 28/01/53  ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดปรับตัวลง 11.20 จุด อยู่ที่ระดับ 690.46 จุด ต่ำสุดในรอบ 2 เดือนหลุดแนวรับที่บริเวณ 700จุด หลังพยายามดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงแรก ก่อนที่จะมีแรงขายออกมาอีกครั้งหลังจากนั้น จนส่งผลทำให้ดัชนีไหลกลับเข้าไปซื้อขายในแดนลบ และได้ปรับตัวลดลงมากยิ่งขึ้นในการซื้อขายภาคบ่าย ตามทิศทางตลาดหุ้นโดยส่วนใหญ่ซึ่งยังมีการอ่อนตัวลง โดยยังคงได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ ในขณะที่ประเด็นทางการเมืองเริ่มมีความตึงเครียดจากความเห็นที่ไม่สอดคล้องกันในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แรงขายจึงยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มพลังงาน แบงค์ และอสังหาริมทรัพย์ การปรับตัวลงแรงของดัชนีจนหลุดเส้นแนวรับสำคัญทางเทคนิค ก็สร้างความไม่มั่นใจให้กับนักลงทุน และเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับการปรับตัวลงของดัชนีในช่วงต่อจากนี้มากยิ่งขึ้น ดัชนี Dow Jones ปรับตัวเพิ่มขึ้น 41.87 จุด มาปิดที่ระดับ 10,236.16 จุด หลังธนาคารกลางสหรัฐมีมติให้ทำการคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ระดับใกล้ 0% ต่อไป ตามที่ได้มีการคาดการณ์เอาไว้ในช่วงก่อนหน้า ในขณะที่ถ้อยแถลงของเฟดในเชิงบวกเกี่ยวกับแนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ ก็ได้มีผลช่วยทำให้บรรยากาศการลงทุนโดยรวมในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้เป็นไปด้วยความสดใส โดยหุ้นในกลุ่มการเงินได้รับผลดีจากถ้อยแถลงของเฟด ส่วนหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกันหลังจากที่บริษัทจิลีด ไซแอนเชส อิงค์หนึ่งในบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพได้ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ซึ่งออกมาดีมากกว่าที่คาด สอดคล้องกับหุ้นของบริษัทโบอิงค์ ที่ได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังได้รับผลดีจากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4 ที่แข็งแกร่ง แต่ปรากฏว่าหุ้นของคาร์เตอร์พิลลาร์และยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ อิงค์กลับปรับตัวลงแรงถ่วงดัชนี Dow Jones หลังเปิดเผยคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจที่ไม่สู้ดีนัก ถึงแม้ว่าภาพการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้จะเป็นบวก แต่ก็ไม่มากอะไรนัก ปริมาณการซื้อขายโดยรวมนั้นเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนโดยส่วนใหญ่รอประธานาธิปดีสหรัฐประกาศแถลงนโยบายประจำปีในเช้าวันนี้เวลาประมาณ 9 น.ตามเวลาในประเทศไทย รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ประกอบดัวย -- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. -- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ -- ธนาคารกลางสหรัฐสาขาชิคาโก เปิดเผยดัชนีอุตสาหกรรมทั่วประเทศเดือนธ.ค. ราคาน้ำมันดิบตลาด Nymex งวดส่งมอบเดือนมี.ค. ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยปรับตัวลงถึง 1.04 ดอลลาร์ มาปิดที่ระดับ 73.67 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังการประกาศตัวเลขสต็อกผลิตภัณฑ์น้ำมันประจำสัปดาห์ที่เพิ่มสูงขึ้น บดบังปัจจัยบวกที่เกิดจากการประกาศตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงครั้งใหญ่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะมีการขายตัดขาดทุนจากนักลงทุนบางส่วนมากขึ้น หลัง ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงอย่างต่อเนื่องจนหลุดแนวรับสำคัญทางเทคนิค ทำให้ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสอ่อนตัวลงต่อได้ ส่วนค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าสู่ระดับที่สูงที่สุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับเงินยูโรจากความเชื่อมั่นต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐที่มีมากขึ้นของนักลงทุน การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ณ เวลา 16.59 น. :Onshore อยู่ที่ระดับ 33.01/06 บาท/ดอลลาร์ Offshore 33.025/055 เงินบาททรงตัวใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงตามสกุลเงินสำคัญอื่นๆ ในภูมิภาค จากความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อมาตรการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ดัชนี SET50 ปรับตัวลดลง 7.99 จุด มาปิดที่ระดับ 484.40 จุด เราคาดว่าดัชนีSET50 ยังคงมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงต่อได้ ถึงแม้ว่าจะสามารถดีดตัวขึ้นได้บ้างในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายแต่คงไม่มากนัก เนื่องจากเหตุปัจจัยทั้งจากภายใน และนอกประเทศยังคงสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้อยู่ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีSET50 วันนี้คาดว่าอยู่ที่บริเวณ 475-495 จุด Technical CommentarySET50 Index: Close 484.40 (-7.99จุด) วานนี้ SET50 ปิดทรุด (-1.6%) โดยหุ้นกลุ่มพลังงาน (-2%) นำตลาดปรับตัวลงแรง ขณะที่หุ้นแทบทุกกลุ่มปรับตัวลดลงราว 1-2% แนวโน้มเทคนิค รูปแบบการปรับลงต่อเนื่องของCandle stick ที่เราบอกไว้ ยังมีรูปที่แบบต่อเนื่องที่แฝงความเสี่ยง เราคาดว่า SET50 ยังอ่อนตัวลงได้ต่อเพื่อปิด GAP ที่ได้เปิดไว้ในช่วงปลายเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาบริเวณ 481-476จุด อนึ่งการฟื้นตัวยังจำกัดที่แนวต้าน 490จุด Futures Trading StrategyS50H10: Settle 481.20 -5.30จุด Vol.9113, OI.18916 ปรับตัวลงถึงจุดทำกำไรที่เราให้ไว้แล้ว แต่ค่า basis ได้ดีดฟื้นขึ้นเหลือ -3.2จุด แต่ราคายังทำ low ที่ระดับเกือบ 480จุด ขณะที่กราฟราย 15นาทียังคงอ่อนแอ วันนี้อาจมีแรงรีบาว์ดช่วงต้นชั่วโมงแต่ยังคงจำกัดที่แนวต้าน 487-490จุด กลยุทธ์ : ตามที่แนะนำให้เปิดสถานะ Short ที่ 495-500จุด คนที่ทำกำไรที่แนวแรกไปแล้วที่ 485-480จุด และให้รอทำกำไรที่แนวถัดไปคือ 470จุด ตัดขาดทุนเมื่อ : ราคาปรับตัวถึงระดับ 515จุด S50M10: Settle 478.20 -5.50จุดVol.571, OI.2489 วอลุ่มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เรายังคงแนะนำเทรดใน S50H10เนื่องจากสภาพคล่องสูงกว่ามาก Spread Trading Strategy Spread : S50M10-S50H10 = -3.00จุด AVG 2weeks = -2.90จุด กลยุทธ์ : แนะให้ถือสถานะ Long S50H10M10 ต่อไปที่แนะนำไปบริเวณ -3 จุด เพื่อรอทำกำไร 2จุดขึ้นไป Options Tradingกลยุทธ์ออปชั่น: ระยะสั้น: ที่ได้เปิดสถานะ Long Put ในสัญญาสิ้นสุดเดือนมี.ค. ที่Strike Price 500 อาจทำการปิดสถานะทำกำไรไปก่อนที่บริเวณ480-485 จุด ของดัชนี SET50 หรือถือสถานะต่อเพื่อรอทำกำไรที่บริเวณ 475 จุด ของดัชนี SET50    

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook