ลูกบิ๊กจ๊อดลั่นเสธ.แดงหยุดหยามอนุพงษ์-กองทัพ

ลูกบิ๊กจ๊อดลั่นเสธ.แดงหยุดหยามอนุพงษ์-กองทัพ

ลูกบิ๊กจ๊อดลั่นเสธ.แดงหยุดหยามอนุพงษ์-กองทัพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบ.หน่วยรบ กทม.-ปริมณฑล ถล่มประณาม เสธ.แดง หยุดหยามเกียรติ อนุพงษ์-กองทัพ อย่ากินบนเรือนขี้รดบนหลังคา อัดควรทำตัวให้สมชั้นยศบนบ่า

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 ม.ค.ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11รอ.) พร้อมด้วยนายทหารระดับผู้บังคับหน่วยของกองทัพบก ประกอบด้วย พ.อ.นัฐวัฒน์ อัครนิบุตร ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.1 รอ.) พ.อ.กฤษณ์ดนัย อิทธิมณฑล ผู้บังคับการกรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.ป.1 รอ.) พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ พ.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.31 รอ.) พ.อ.บรรยง ทองน่วม ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 13 และ พ.ท. ชินสรณ์ เรืองสุข ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ผบ.ม.พัน.4 รอ.) แถลงข่าวตอบโต้พฤติกรรมของ พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เพื่อปกป้อง พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และปกป้องศักดิ์ศรีของกองทัพบก โดยได้เชิญผู้บังคับกองพันและทหารในสังกัดบางส่วนมานั่งรับฟังการแถลงข่าว รวม 17 กองพัน

พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ช่วงเช้าของวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมาใน ร.11 รอ. มีการจัดสัมมนาในหัวข้อแนวทางกวดขันวินัยกำลังพล โดยมีทหารระดับผู้บังคับกองพันและผู้บังคับกองร้อยในกรุงเทพและปริมณฑลกว่า 17 กองพันเข้าร่วมสัมมนา ถือเป็นระดับคุมกำลังทั้งหมด ซึ่งมีการถกแถลงกันในทุกประเด็น ซึ่งเป็นการมากวดขันตามปกติพูดความเห็นว่าสมควรเป็นอย่างไร โดยเป็นการสัมมนาตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาชั้นสูงที่ห่วงใยผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระดับ เราไม่ใช่เรื่องรุ่น แต่เป็นเรื่องสถาบันทหารหรือกองทัพบก เราจัดสัมมนาเพราะความแตกแยกในสังคม ทำให้เกิดความบอบบาง

พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมานั้น กองทัพบกปกป้องศักดิ์ศรีจากบุคคลภายนอก แต่ในขณะนี้ในทางกลับกัน เราต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของกองทัพ โดยการย่ำยีของคนในกองทัพบกเอง เป็นเรื่องที่น่าละอายใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนเชื่อว่าการกระทำใด ๆ ของนายพลผู้นี้มีนัยทางการเมืองแอบแฝง มีความพยายามสร้างสถานการณ์ ทั้งที่ประเทศชาติต้องการสร้างความสมัครสมานสามัคคี และประเทศอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ไม่คิดจะให้โอกาส กลับสร้างความแตกแยก สิ่งที่สำคัญคือการแสดงความไม่พอใจสามารถแสดงได้ มีนายทหารหลายท่านไม่พอใจกองทัพ และ ไม่พอใจหน่วยงานต่าง ๆ ก็สามารถพลิกผันตัวเองไปสู่เวทีการเมือง ใช้เวทีการเมืองต่อสู้ และตอบโต้กองทัพ แต่ไม่ใช่แสดงการย่ำยี โดยใส่เครื่องแบบของกองทัพบกและมาย่ำยีกันเองเช่นนี้

พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ทหารได้ปฏิญาณต่อหน้าธงชัยเฉลิมพลว่าจะประพฤติและปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด ซึ่งคิดว่านายพลผู้นั้นก็เคยปฏิญาณตนไม่รู้กี่ครั้งแต่ทำไมไม่ปฏิบัติตาม ซึ่งการแสดงออกของพวกเราวันนี้ ต้องการให้ทุกคนเห็นถึงความสมัครสมานสามัคคีของกองทัพบกและเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนว่ากองทัพไม่มีความแตกแยกอย่างที่หลายท่านเข้าใจ ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ยืนยันว่ากองทัพมีความเป็นปึกแผ่น เหนียวแน่น เราไม่ได้พูดแทนผู้บังคับบัญชาชั้นสูง แต่การที่เราได้มารวมตัวกันวันนี้ล้วนแต่เป็นผู้บังคับหน่วยคุมกำลังหลักของกองทัพบก ที่มาจากปราจีนบุรี ลพบุรี มีความรักใคร่ สามัคคี กลมเกลียวกัน เป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน ขอยืนยันเราเป็นปึกแผ่นภายใต้การบังคับบัญชาของ ผู้บัญชาการทหารบก

"สุดท้ายอยากขอความกรุณาให้พี่แดง หรือ พล.ต.ขัตติยะ ให้ยุติบทบาทที่แสดงออกมาทั้งหมด ผมได้หารือและคุยกันว่า ผมเชื่อว่าพี่แดงไม่ได้มีเจตนาพูดหรือโจมตีกองทัพในลักษณะนั้น อาจจะทำด้วยอารมณ์โกรธและอารมณ์โมโห เพราะถูกพักราชการ ผมเชื่อว่าหากพี่แดงยุติบทบาท หรือหยุดกระทำก้าวร้าวเช่นนั้น ก็ยังสามารถเป็นรุ่นพี่ที่ดีเป็นฮีโร่ หรือเป็นนักรบอย่างที่ท่านชอบพูดไว้กับกลุ่มคนบางคนได้ต่อไป ส่วนการนำเสนอข่าวนั้น อยากเรียนว่าควรจะนำเสนอในประเด็นที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองมากกว่าเรื่องของ พล.ต.ขัตติยะ ขณะนี้คนจ้องกฐินพล.ต.ขัตติยะมาก หากยังดื้อดึงทำเช่นนี้อยู่ คนที่ไม่พอใจคงไม่ใช่แค่พวกเราที่จบจาก รร.จปร. คงมีกำลังพลหลายคนไม่พอใจ หากเกิดอะไรขึ้นตรงไหน แล้วโทษเป็นฝีมือคนในกองทัพคงไม่ใช่" พ.อ.อภิรัชต์ กล่าว

พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า พวกเรายังได้ปฏิญาณตนแน่วแน่แล้วว่า ต่อไปนี้หากมีสิ่งใด หรือการกระทำจากบุคคลใดก็ตามที่จะกระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะออกมาตอบโต้ทันที เป็นสิ่งเดียวที่เราซึ่งที่เราไม่ยอมโดยเด็ดขาด ในฐานะของทหารรักษาพระองค์ ในฐานะทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวกเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นนายทหาร นายสิบ และพลทหารว่า อย่ามีสิ่งใดระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เราจะไม่ยอมเด็ดขาด

พ.อ.ณัฐวัฒน์ กล่าวว่า พวกตนคือตัวแทนกองทัพในกรุงเทพและปริมณฑล ทุกคนต่างผ่านการศึกษาในสถาบันของชาติในระดับต่าง ๆ โดยเฉพาะจบจากโรงเรียนพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รร.จปร.) ทุกคนล้วนปลูกฝังให้มีระเบียบวินัยให้เคารพเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา โรงเรียนทหารสอนให้เรามีระบบเกียรติศักดิ์ ระบบอาวุโส เคารพรุ่นพี่รุ่นน้องมาแต่อดีตถึงปัจจุบัน เชื่อฟังเคารพผู้บังคับบัญชา กำลังพลทุกระดับล้วนเสียสละทำคุณประโยชน์ให้ชาติต่อเนื่อง ไม่เคยมีผู้ใดลบหลู่หรือหยามเกียรติผู้บังคับบัญชาในหน่วยของตนมาก่อน เชื่อว่าในหลายหน่วยงานหรือองค์กร คงไม่มีใครในองค์กรตัวเองกล่าวให้ร้ายลบหลู่เหยียดหยามผู้บังคับบัญชาตัวเอง

"เราขอเป็นตัวแทนออกมาแสดงความไม่พอใจ และรู้สึกละอายใจในการกระทำของนายพลบางท่าน เชื่อว่าคนไทยที่รับฟังคงเอื่อมระอากับการกระทำที่พบเห็น พวกเราสรุปผลการสัมมนาว่า บุคคลท่านนั้นขาดจิตสำนึกผิดขนบธรรมเนียม ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง และถือเป็นตัวอย่างไม่ดีของผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนในกองทัพ สิ่งที่พล.ต.ขัตติยะ ทำท่านรู้อยู่แก่ใจ ที่เรามาคุยวันนี้ เพราะความไม่สบายใจและไม่พอใจ ท่านเป็นถึงนายพลแต่ขาดจิตสำนึกและวินัยหย่อนยาน แต่เชื่อว่าจิตสำนึกของทหารระดับนายพล เมื่อมีน้อง ๆ มาพูดขนาดนี้ท่านน่าจะคิดได้" ผบ.ร.1 รอ. กล่าว

พ.อ.กฤษณ์ดนัย กล่าวว่า เรามาอยู่ที่นี่ผ่านสถาบันการศึกษาทุกระดับ ผ่านการบังคับบัญชาหน่วยตั้งแต่ระดับผู้บังคับหมู่ ผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับกองพัน ถึงผู้บังคับการกรม ทุกคนล้วนได้รับการสั่งสอนจากครูบาอาจารย์ ตนเห็นว่าการที่มีคนพูดว่าเคยเป็นอาจารย์ เคยเป็นนักรบ และผู้บังคับหน่วย แต่พฤติกรรมปัจจุบันไม่ใช่มีการให้ร้ายผู้บังคับบัญชา ถือว่า เป็นสิ่งที่ใช้ไม่ได้ ในฐานะที่เป็นทหารอาชีพอย่างพวกเรา ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นผู้บังคับบัญชา เราต้องให้เกียรติในทุกสถานะ แม้ผู้บังคับบัญชาจะเป็นรุ่นน้องก็ตาม และผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุดของกองทัพบก แต่กลับถูกโจมตีเป็นสิ่งที่พวกเราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นเป็นอันขาด

พ.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า การดำรงไว้ของทหารที่มีระเบียบวินัยเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการปฏิบัติตามสายการบังคับบัญชาที่ต้องเชื่อฟังอย่างเคร่งครัด ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการปกครองทหาร หากมีตัวอย่างไม่ดีหรือไม่ถูกต้อง นับว่าเป็นการบ่อนทำลายกองทัพมากกว่าถูกบ่อนทำลายจากฝ่ายตรงข้าม และการกระทำใดมีความมุ่งหมายทำลายหรือหมิ่นศักดิ์ศรีกองทัพ อย่างที่เกิดขึ้นในกองทัพบกที่ผ่านมา ขอให้ทราบว่าทหารไม่ว่าผู้ใดที่เข้าไปเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะผู้สำเร็จการศึกษาจาก รร.จปร. ได้สำนึกทบทวนใหม่

"ไม่ว่าท่านจะทำด้วยจุดประสงค์ใด เพราะ รร.จปร. ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และมีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จปู่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5 อยู่ ผมไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เกี่ยวข้องจะจบมาจากสถาบันนั้น และคนที่ทำต้องกลับไปทบทวนใคร่ครวญว่าสมควรหรือไม่ ทั้งนี้ เราคงไม่ต้องสนใจ พล.ต.ขัตติยะ บุคคลเพียงคนเดียวจะมาทำให้กองทัพและบ้านเมืองวุ่นว่าย คิดว่าอย่าไปสนใจและบอยคอตในทุกเรื่อง อย่าไปคิดว่าชั้นยศติดบนบ่าแสดงถึงอำนาจ หากเขายังทำตัวไม่สมกับชั้นยศที่ได้รับอยู่ ก็ไม่ต้องไปแสดงความเคารพ ไม่ต้องสนใจปล่อยให้พูดไปเหมือนเป็นคนๆหนึ่ง เชื่อว่าวันหนึ่งประชาชนจะเอือมระอา เบื่อหน่ายไปเอง" ผบ.ร.31 รอ.

พ.อ.กู้เกียรติ กล่าวว่า กองทัพบกให้อะไรเรามากมายทั้งเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ฐานะความเป็นอยู่ การที่เราไม่รู้จักบุญคุณกองทัพบก คิดว่าคงยอมไม่ได้ และอยากยกสุภาษิตของไทยว่า อย่ากินบนเรือนแล้วขี้รดบนหลังคา อยากฝากไปถึงบุคคลที่กระทำต่อความไม่สงบ เราทุกคนคงยอมไม่ได้

พ.อ.บรรยงค์ กล่าวว่า ได้หารือกับพี่น้องทหารพรานถึงทหารที่ขาดวินัย พวกเรารู้สึกไม่สบายใจกับการกระทำดังกล่าว และขอยืนยันกับผู้บังคับบัญชาว่า พวกเราทหารพราน นักรบประชาชน เป็นผู้ที่มีวินัย และพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด

พ.ท.ชินสรณ์ กล่าวว่า การตรวจค้นบ้าน พล.ต. ขัตติยะ เป็นไปตามขั้นตอน และอาวุธสงครามที่ได้ตรวจพบแม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่อานุภาพในการทำลายล้างรุนแรง อีกทั้ง ม.พัน. 4 รอ. มีบ้านพักของครอบครัวของกำลังพลของ ม.พัน 4 รอ. และ กองร้อยทหารม้าลาดตระเวน พล. 1 รอ. อยู่ในบริเวณนั้น จึงต้องระมัดระวัง เพราะไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุอะไรในอนาคต อาจสร้างความสูญเสียให้กำลังพล และ ครอบครัวได้ ทาง พล. 1 รอ.จึงออกมาตรการในการรักษาความปลอดภัยเข้มข้นขึ้น จากปกติที่มีการตรวจตรายานพาหนะเข้าออกอยู่แล้ว

"แต่เมื่อมีคำสั่งผู้บังคับบัญชา เราก็ต้องปฏิบัติการคำสั่งอย่างเคร่งครัด มีการเพิ่มสารวัตรทหารมากขึ้น ในส่วนการปฏิบัติของพล.ต.ขัตติยะที่ผ่านมา อาจมีคนชอบหรือไม่ชอบ ดังนั้น ต้องรักษาความปลอดภัยท่านด้วยในระดับหนึ่ง เพราะท่านเป็นทหารชั้นผู้ใหญ่ หากเกิดอะไรในพื้นที่ ตนก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนท่านพูดว่ามีร้อยเอกจากสำนักงาน ผบ.ทบ.นำของไปใส่ไว้ในรถยนต์นั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะมีทหารสัญญาบัตรเพียง 4 นายเข้าไปในพื้นที่ ซึ่งไม่มีนายทหารยศร้อยเอก จากสำนักงาน ผบ.ทบ.เข้าไปยุ่งเกี่ยวเลย" ผบ.ม.พัน 4 รอ. กล่าว

เมื่อถามว่า การออกมาแสดงแอ็คชั่นครั้งนี้มีไฟเขียวจากผู้บังคับบัญชาให้มาเช็คกระแสกำลังพลหรือไม่ พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ไม่ใช่ประเด็นนั้น ซึ่งการสัมมนานี้เพราะกรมกำลังพลทหารบกเป็นห่วง เนื่องจากการประชุมระดับของกองทัพบกค่อนข้างห่วงข่าวสารที่เกิดขึ้น จึงกำชับทุกหน่วยประชุมหารือและจัดสัมมนากัน เพื่อได้จบเสียทีให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และหากเป็นทหารอาชีพไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง ทั้งนี้ ไม่ใช่ไฟเขียวจากใคร แต่เป็นการกวดขันวินัยกำลังพล

เมื่อถามว่า ถือเป็นการแสดง 2 มาตรฐานของกองทัพหรือไม่ เพราะกรณีของ พล.อ. ปฐมพงศ์ เกสรสุข ประธานที่ปรึกษากองวบัญชาการทหารสูงสด ขึ้นเวทีพันธมิตรโจมตีกองทัพ แต่ไม่มีทหารออกมาปกป้อง พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ที่นั่งอยู่นี้เราสังกัดกองทัพบก แต่ พล.อ.ปฐมพงษ์ ท่านเป็นทหารในสังกัดของกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งต้นสังกัดก็มีวิธีการโต้ตอบเขา ซึ่งเราแยกออกกัน แต่หากคนในกองทัพบกทำแบบนั้นก็ต้องออกมาตอบโต้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกมาของผู้บังคับหน่วยเพื่อต้องการปราบผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับกองทัพหรือไม่ พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า การเป็นปึกแผ่นของกองทัพภายใต้บังคับบัญชาของ ผบ.ทบ. การออกมารวมตัววันนี้ไม่มีนัยยะการเมือง เรามีความรักและเป้นทหารที่มีวินัย เราต้องการจุดยืนชัดเจนไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองทหารเป็นของประชาชน ตนยืนยันว่ากองทัพเป็นของประชาชนและทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้น ใครดึงกองทัพเขจ้าไปเกี่ยวพันทางการเมือง เราก็ไม่พอใจเช่นกัน

ต่อข้อถามที่ว่า การแสดงพลังไม่ใช่เพื่อต้องการเช็คกำลังหากจะทำรัฐประหารหรือไม่ พ.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เป็นการออกมากวดขัดวินัยกำลังพล ไม่เกี่ยวข้องการกับการออกมาเช็คกำลังหรืออะไร และที่ผ่านมาแต่ละหน่วยมีการพูดคุยกันถึงการกวดขัน แต่ละหน่วยอยู่แล้ว เมื่อเห็นตรงกันก็มาจัดสัมมนา เพื่อให้กำลังพลมีความเข้าใจและเห็นตรงกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้แสดงความคิดเห็น ซึ่งส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว เพราะจะทำให้เสียการปกครองบังคับบัญชา และไม่สบายใจที่มีทหารชั้นนายพลของกองทัพออกมาแสดงออกเช่นนี้ เพราะทำให้กองทัพบกเสียเกียรติยศ อีกทั้งยังเห็นว่า ถ้าทหารขาดวินัยก็เปรียบเหมือนกองโจรที่ถืออาวุธ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook