โยนชั่วใส่พรรคร่วม! พผ.เดือด

โยนชั่วใส่พรรคร่วม! พผ.เดือด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พร้อมรับศึกเลือกตั้ง ยื่นแก้ รธน.สัปดาห์หน้าถกกระทู้ดุ ส.ส.ขู่เอาชีวิต

เพื่อแผ่นดินเดือดฉะมาร์คโยนเรื่องชั่วให้พรรคร่วมมีหวังรัฐนาวาจบเห่แน่ ครวญวันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก ส่วนภูมิใจไทยกบดานนิ่งไม่เผยกระกายแค้น ด้านมาร์คทำเป็นทองไม่รู้ร้อน อ้างไม่เคยสัญญาท่าเดียว แจงไม่ใช้เท้าลบเขตใหญ่จากสารบบ เหตุเป็นคนชงให้ปิศาจคาบไปป์เอง ลั่นเสถียรภาพรัฐบาลยังดี ไม่มีสัญญาณยุบสภา ฝ่าย เทือก ไม่กล้าเจรจาต้าอวย เติ้ง เชื่อยังอารมณ์ค้าง สั่งลูกทีมเดินสายเคลียร์ใจก่อนนัดเจอวงใหญ่ บ่นอุบ ผจก. เครดิตลดอื้อ เผยจดหมาย เสี่ยตือ มีทั้งจริง-เท็จผสมปนเป ฟาก พรรคร่วม เดินหน้ายื่นญัตติแก้ รธน. สัปดาห์หน้า เสี่ยชูวิทย์ โผล่ถล่ม เติ้ง เป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ ด้าน เพื่อไทย เชื่อพรรคร่วมไม่เปลี่ยนขั้ว ซัดรัฐบาลจังโก้ปล่อยผีใบอนุญาตขายปืนมากที่สุด จองกฐินซักฟอก-ถอดถอน มท.1 เป็นรายที่สาม เล็งเชือด คมนาคม-พาณิชย์ ด้วย ปูดฟาดหัวคิวถนนไร้ฝุ่น 35% ขณะที่กระทู้สภาร้อนฉ่า ขู่เอาชีวิต ตุ๊ดตู่...สู้แล้วรวย ส่วน กัลยา ให้ เหลิม รอหมายศาลได้เลย

* มาร์ค-ชาญชัยทำหมางเมิน

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน Thaila*d SME Expo 2010 พร้อมปาฐกถาพิเศษ เรื่อง SME หัวใจของไทยเข้มแข็ง โดยมีนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ให้การต้อนรับ และถือเป็นการพบหน้ากันครั้งแรกหลังจากพรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา เป็นที่น่าสังเกตว่าทั้งนายอภิสิทธิ์ และนายชาญชัย มีท่าทีหมางเมินอย่างเห็นได้ชัด และหลังปาฐกถาเสร็จ นายกฯ ได้เยี่ยมชมบริเวณงาน แต่นายชาญชัยได้เดินแยกออกมาอีกทางหนึ่ง

นายชาญชัย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ส่งรอยยิ้มและสายตาอันน่ารักให้นายกฯ ส่วนเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญวันนี้ต้องร้องเพลงรอ ของสุเทพ วงศ์กำแหง แต่ยังไม่เชื่อว่าเราจะไม่ร้องเพลงเดียวกัน แต่เราจะไม่ กดดันใครทั้งสิ้น วันพรุ่งนี้จะคิดอย่างไรค่อยว่ากัน อย่างไรก็ตามวันนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะแยกวง

* พผ.ว้ากเลิกพูดเอาดีใส่ตัว

ผมเชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องสำเร็จ ความจริงไม่ใช่แค่ 2 มาตรา มันมีอีกหลายมาตราที่ต้องแก้ไขด้วยซ้ำไป ที่เชื่อว่าจะสำเร็จ เพราะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน อยู่ด้วยกันเหมือนลิ้นกับฟัน แต่วันนี้เสียความรู้สึก ซึ่งคุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์) ที่เป็นผู้จัดการก็บอกว่าไม่ต้องเสียใจ และเขาได้ทำหน้าที่ประสานงานดีที่สุดแล้ว หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ระบุ และว่า ไม่เคยคิดกลัวการยุบสภา เพราะเลือกตั้งมา 12 ครั้งแล้ว ถ้าจะยุบสภาก็เลือกตั้งมีเวทีให้เล่นดีกว่าถูกล้มกระดาน

มื่อถามว่าแค่งอนยังไม่ขั้นหย่าใช่หรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า ถ้าเสียหายมาก พูดเอาดีใส่ตัว พูดเอาชั่วให้คนอื่น แก้ไขรัฐธรรมนูญ 5 พรรคเป็นโจรเป็นผู้ร้าย ดูถูกดูแคลนกันมาก คุณคือใคร คุณก็คือคน แก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น เอาความดีใส่ตัวเอาความชั่วให้พรรคอื่นอย่าพูดอีก จะพูดทำไม และวันนี้ทั้ง 5 พรรคกำลังซ้อมร้องเพลง วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก

* อภิสิทธิ์ไม่รู้ไม่ชี้ตามเคย

นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายชาญชัย ออกมาตำหนิพรรคประชาธิปัตย์ว่าชอบเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นว่า ยังไม่มีใครว่าอะไรเลย เพียงแต่บอกว่าจุดยืนและความคิดของเราไม่เหมือนกันในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า นายชาญชัยระบุว่าขณะนี้ยังร้องเพลง รอ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เสียงยังดีอยู่ร้องได้อีก ส่วนการนัดหมายพรรคร่วมรัฐบาล นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคกิจสังคม ในฐานะเจ้าภาพจะเป็นคนนัดหมาย

ส่วนจดหมายเปิดผนึกของนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายกฯ กล่าวว่า เห็นจากข่าวแต่ยังไม่ได้รับจดหมายดังกล่าว ตนยังแปลกใจที่ระบุว่าเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า เพราะตนเป็นคนที่เขียนเรื่องเขตใหญ่ไว้แล้วจะไปลบด้วยเท้าได้อย่างไร เมื่อถามถึงสัญญาที่ให้ไว้กับพรรคร่วมรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนพูดตรงกันว่า เรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภา แต่ละพรรคสามารถที่จะมีจุดยืนได้

* ไม่ใช้เท้าลบข้อเสนอปชป.

ตอนที่มีการจัดตั้งรัฐบาลมีการหยิบยกประเด็นเรื่องรัฐธรรมนูญขึ้นมา ซึ่งผมแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน ส่วนแรกที่พูดกันไว้ว่าไม่ควรแก้ คือ การแก้รัฐธรรมนูญในลักษณะที่นำไปสู่การนิรโทษกรรม เนื่องจากเป็นประเด็นที่จะก่อให้เกิดความแตกแยก ในสังคม ประเด็นที่สองบอกว่าแก้ได้ คือ ประเด็นที่คิดว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหาในเรื่องของความไม่เป็นประชาธิปไตย และประเด็นที่สาม คือ ประเด็นเรื่องเทคนิค เช่น เรื่องของเขตเลือกตั้งซึ่งไม่เข้าข่ายที่จะไปเกี่ยว กับเรื่องนิรโทษกรรมและไม่เข้าข่ายว่าจะเป็นหรือไม่เป็นประชาธิปไตย ก็บอกกันว่าประเด็น อย่างนี้ต้องมาคุยกัน ตรงนี้คือสิ่งที่ตกลงกันไว้ นายอภิสิทธิ์ ระบุ

เมื่อถามย้ำว่า นายกฯ ไม่เคยรับปากแก้รัฐธรรมนูญในเรื่องเขตเลือกตั้งใช่หรือ ไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี เพราะวันที่ร่างรัฐ ธรรมนูญมีการเชิญตัวแทนพรรคการเมืองต่าง ๆ ไป ตนไปในนามพรรคประชาธิปัตย์และเป็นคนเสนอว่าพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าเขตใหญ่นั้นดีกว่า เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะเปลี่ยนแปลงก็ต้องมาคุยกัน

* ยอมแก้ถ้าเพื่อแม้วเอาด้วย

ผมยังไม่เคยไปกล่าวหาว่าใครเป็นประโยชน์ของใคร แต่ไปดูคำอภิปรายของผมเรื่องเขตใหญ่ที่แสดงต่อคณะกรรมาธิการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญได้ว่าไม่มีเรื่องประโยชน์พรรค และพูดตรง ๆ สำหรับผมวันนี้ไม่ว่าจะเป็นเขตเล็กหรือเขตใหญ่ ผมไม่ได้คิดว่ามีผลต่อการเลือกตั้งเท่าใด หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่ กังวลกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะมีแนวทางการทำงานทางการเมืองที่ถือว่าเราทำในสิ่งที่เชื่อว่าเป็นประโยชน์สูงสุดเราก็ต้องยืนยัน ส่วนการเมืองจะมีปัญหาอุปสรรคก็แก้ไขกันไป แต่บางคนก็เอาเรื่องหนึ่งไปปนกับอีกเรื่องหนึ่งก็ทำให้เกิดความสับสน เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ทบทวนมติเรื่องแก้รัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราลงมติกันไปแล้วและยังมองไม่เห็นเรื่องการทบทวน แต่ถ้ามีเรื่องอื่น เช่น สามารถชวนฝ่ายค้านร่วมกันทำกรอบสมานฉันท์ซึ่งมีเรื่องเขตเล็กด้วย เราก็ไม่ขัดข้อง เพราะถือว่าจะได้มีคำตอบให้กับสังคมได้

* เกาเหลาไม่บานปลายยุบสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนอายุของรัฐบาลจะไม่ยาวหลังพรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นอย่างนี้ นายอภิสิทธิ์ ย้อนถามว่า ใครบอกครับ เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่าพรรคร่วมรัฐบาลบอกเช่นนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คนวิเคราะห์กันไปได้ทั้งนั้น แต่สิ่งที่สนใจในตอนนี้คือไม่ให้กระทบต่อการทำงาน ซึ่งการทำงานก็เดินหน้าต่อ ตนต้องขอบคุณรัฐมนตรี ของพรรคร่วมที่ไม่ได้เสียสมาธิ

นายกฯ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองและความเคลื่อนไหวนอกสภาว่า ยังไม่มีใครบอกได้ว่าจะเป็นสัญญาณไปสู่การยุบสภาหรือไม่ ยังไม่มีใครบอกได้ แต่ผมก็ ถือว่าการทำงานก็เป็นไปตามปกติ ความรู้สึก ผิดหวัง ความรู้สึกที่เห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องธรรมดา วันนี้ยังถือว่าทุกอย่างปกติและไม่ มีเหตุผลอะไรที่จะยุบสภา ทั้งนี้ความวุ่นวายต่าง ๆ อาจจะเลยไปถึงเดือน มี.ค. บ้าง ส่วนการปฏิวัติก็ต้องช่วยกันไม่ให้เกิด เพราะไม่เป็นผลดีต่อประเทศ

* แจง จม.ตือจริง-เท็จปนกัน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ทำจดหมายเปิดผนึกตัดพ้อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ทำนองเขียนด้วยมือแล้วลบด้วยเท้าว่า เข้าใจความรู้สึกของนายสมศักดิ์ และไม่ได้รู้สึกติดใจ แต่ตั้งใจว่าอะไรที่สามารถทำให้พรรค ร่วมรัฐบาลสบายใจขึ้นได้ในเรื่องอื่นที่นอกเหนือจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะพยายาม เพราะคนอยู่ร่วมกันต้องเอาใจกันบ้าง

เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับว่า เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกมีจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง เพราะการประสานงานจัดตั้งรัฐบาลได้พูดคุยกันหลายครั้ง ในส่วนที่นายกฯ บอกกับสาธารณชนก็เป็นความจริงในมุมที่นายกฯ ได้ทราบ ทั้งนี้วันที่ไปคุยที่บ้านนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคประชา ธิปัตย์นั้น นายกฯ ไม่ได้ไปด้วย และตนไม่เคยทราบว่าต้องไปสรุปประเด็น ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับมาภายใน 1 สัปดาห์

* เตือนความจำลูกพรรคปชป.

นายสุเทพ เปิดเผยว่า ตอนที่ไปเจรจาตั้งรัฐบาล ตนได้ขอมติจากพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งวันนั้นสมาชิกพรรคคิดว่าคงทำไม่สำเร็จ ทุกคนจึงอนุญาตให้ไปเจรจาได้ทุกเรื่อง และประเด็นที่พูดกันก็ไม่ใช่เรื่องที่กระทบต่อชีวิตของประชาชนหรืออุดมการณ์พรรค ตนจึงตัดสินใจรับเงื่อนไขของเพื่อน ๆ เพราะขณะนั้นคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่เห็นว่าความอยู่รอดของบ้านเมืองสำคัญกว่า ดังนั้นเมื่อเรามาถึงวันนี้ ถ้าหันกลับไปพูดเรื่อง อดีตคงยาก เพราะหลายคนก็ลืมไปแล้ว หลายคนจำไม่ได้แล้วว่ากว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้ มันมีความเป็นมาอย่างไร

ส่วนที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่ตายนั้น เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การตั้งพรรคการเมืองขึ้น มามีจุดมุ่งหวังเพื่อจะได้นำนโยบายพรรคซึ่งคิด ว่าดีไปปฏิบัติแก้ปัญหาของบ้านเมือง เพื่อให้ ประชาชนได้ประโยชน์ ดังนั้นเป้าหมายจริง ๆ ของพรรคการเมืองคือการเป็นรัฐบาล

* รับสภาพเครดิตผจก.ลดลง

ต่อข้อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะ หาเพื่อนมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลยากขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ยาก เพราะเงื่อนไขและสถานการณ์เปลี่ยนไปก็มาปรึกษาพูดคุยกันใหม่ได้ อย่างไรก็ตามการคบกับพรรคประชาธิปัตย์นั้นยาก เพราะมีวัฒนธรรมองค์กรต่างจากพรรคอื่น เมื่อถามย้ำว่า จะต้องฟังหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรค นายสุเทพ ตอบว่า แล้วแต่ใครจะฟัง วันนี้ตนมีเครดิตลดลงไปบ้างก็ต้องรับสภาพ แต่ไม่ได้แตกคอกับหัวหน้าพรรค เพียงแค่ความคิดไม่ตรงกันบ้าง

เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว ถึงการนัดเคลียร์ใจกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า อนาคตคงต้องมี แต่ตอนนี้อยู่เฉย ๆ ก่อนสัก 1-2 วัน ตอนนี้เหนื่อย ร้อน ต้องให้ลมโชยไปสักพักหนึ่งจะได้เบาลง เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยระบุว่าได้รับการติดต่อจากพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อขอให้ร่วมแก้รัฐธรรมนูญ นายสุเทพ หัวเราะก่อนกล่าวว่า ฝ่ายค้านจด ๆ จ้อง ๆ อยู่แล้ว เห็นสามีภรรยาทะเลาะกันก็รอลุ้นว่าเมื่อใดจะหย่ากัน พยายามยุส่ง

* เดินสายเคลียร์ก่อนนัดวงใหญ่

รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์แจ้งว่า นายสุเทพ ได้ต่อสายโทรศัพท์กับแกนนำพรรคร่วมคนอื่น ๆ บ้าง เช่น นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ซึ่งได้เสียงตอบรับที่ดีและเข้าใจในวัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ยังไม่ได้พูดคุยกับนายบรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติ ไทยพัฒนา เนื่องจากนายบรรหารยังติดใจอยู่ สังเกตได้จากที่นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล คนสนิทนายบรรหาร ออกแถลงการณ์โจมตีนายกฯ

นอกจากนี้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์สายนายสุเทพ ยังได้นัดรับประทานอาหารกับแกนนำพรรคเพื่อแผ่นดินเมื่อคืนวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมาเพื่อปรับความเข้าใจในระดับหนึ่งก่อน และคาดว่าจะมีการทยอยเดินสายนัดกินข้าวกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่น ๆ ต่อไป ก่อนที่จะถึงเวทีการรับประทานอาหารระหว่างนายกฯ และแกนนำพรรคร่วมอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้นายสุเทพ ยังได้ขอให้ ส.ส. หยุดวิจารณ์พรรคร่วมในช่วงนี้เพื่อให้สถานการณ์นิ่งที่สุด

* 5 พรรคเล็งยื่นแก้สัปดาห์หน้า

ที่รัฐสภา นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ขณะนี้ได้แจกญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคพิจารณาแล้ว หากไม่มีการแก้ไขก็จะนัดหมายเพื่อยื่นญัตติดังกล่าวต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา คาดว่าคงเป็นสัปดาห์หน้า

หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยอีกว่า ญัตติดังกล่าวจะเป็นการแก้ไข 2 ประเด็น คือ มาตรา 90 และเขตเลือกตั้ง มาตรา 94 โดยจะต้องแก้มาตรา 103 เพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และที่มา ส.ว. ให้สอดคล้องกันไปด้วย หากสภาดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วัน จากนั้นให้วุฒิสภาพิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน ถ้าวุฒิสภาแก้ไขจนต้องมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกันก็กำหนดให้พิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน ถ้าไม่เสร็จให้ถือว่าใช้บังคับได้เลย

* ภูมิใจไทยยังไม่เคลื่อนไหว

ส่วนจดหมายเปิดผนึกของนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคที่กล่าวหานายกฯ หักหลังเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายชุมพล กล่าวว่า เห็นใจนายสมศักดิ์ แต่ต้องเข้าใจธรรมชาติของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย ยืนยันว่าพรรค ชาติไทยพัฒนาวางจุดยืนในการร่วมรัฐบาลกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นคนละกติกา ซึ่งกติกาการร่วมรัฐบาลครอบคลุมไปถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ ส.ส. ฟรีโหวตในการอภิปราย ไม่ไว้วางใจ เพราะถ้าไม่ไว้วางใจนายกฯ เท่ากับไม่ไว้วางใจตัวเอง ครม.ทั้งคณะต้องหลุดไปด้วย ทั้งนี้จดหมายเปิดผนึกของนายสมศักดิ์อาจเป็นการนับเวลารัฐบาลเดินหน้าต่อไปก็ได้

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคชาติไทยพัฒนาออกมาต่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ร่วมแก้รัฐธรรมนูญ เหมือนฉีกสัญญาที่เจรจากันไว้ก่อนตั้งรัฐบาลว่า สถานการณ์ของพรรค ภูมิใจไทยยังดีอยู่ ไม่มีอะไร รอดูเหตุการณ์ไปก่อน

* เสี่ยชูวิทย์โผล่ถล่มเติ้งยับ

ขณะเดียวกัน ที่หน้ารัฐสภา นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย อ่านจดหมายเปิดผนึกถึงนายสมศักดิ์ โดยระบุว่านายสมศักดิ์และนายบรรหาร ถูกพิพากษาให้เว้นวรรคการเมืองจึงไม่ควรออกมาเคลื่อนไหว และขอเรียกนายบรรหารว่าสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมานายบรรหารผิดสัญญากับคนอื่นมามาก แต่วันนี้เจอกับตัวเองจึงไม่น่าเดือดร้อน

สวนดุสิตโพลเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,356 คน กรณีความคิดเห็นที่แตกต่างในการแก้ไขรัฐธรรมนูญระหว่างพรรคประชา ธิปัตย์กับพรรคร่วมรัฐบาล โดย 78.26% เห็น ว่าจะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และ 57.61% เห็นว่าปัญหาอาจบานปลาย อย่างไรก็ดี 61.95% ไม่เห็นด้วยกับทั้งสองฝ่าย เพราะไม่รู้ว่าการเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ มีนัยแอบแฝงหรือไม่

* กระทู้เดือดตุ๊ดตู่...สู้แล้วรวย

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณากระทู้ถามสดของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เรื่องการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม กรณีนายกฯ ใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นเหยื่อในการเสียคำพูดที่ให้ไว้กับพรรคร่วมเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จะต้องไม่มีการนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท. ทักษิณ และต้องไม่มีการคืนทรัพย์สินให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ

บรรยากาศการประชุมเริ่มตึงเครียดเมื่อนายอรรถพร พลบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นประท้วงนายจตุพรใช้คำพูดไม่เหมาะสมและไม่ควรทำตัวเป็นทาสรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ หรืออยากจะเป็น ตุ๊ดตู่...สู้แล้วรวย ทำให้นายจตุพรไม่พอใจ และขอให้นายอรรถพรถอนคำพูด แต่นายอรรถพรไม่ยอมถอน ทำให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธาน ในที่ประชุมเชิญให้นายอรรถพรออกจากห้องประชุมทันที

* เล็ก100ศพขู่กลางสภา

จากนั้นนายอภิชาต สุภาแพ่ง ส.ส. เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงนายจตุพรเคยนำเสื้อแดงไปอภิปรายถึง จ.เพชรบุรี อยากบอกว่าที่คนเรียกตนว่า ส.จ. 100 ศพ อยากบอกว่ายังขาดอีก 3 ศพจะปิดบัญชีเหมือนกัน เพราะคนเมืองเพชรฯ รับจ้างเอาชีวิตคน ถึงช่วงนี้นายจตุพรและ ส.ส.พรรคเพื่อไทยต่างลุกขึ้นประท้วงว่าเป็นการขู่เอาชีวิต แต่นายอภิชาตแก้ว่า ไม่ใช่ขู่ยิง แต่หมายถึงต้องตระเวนไปงานศพอีก 3 ศพจึงจะครบร้อย

ด้านนายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ตนพูดส่วนตัวและต่อที่สาธารณะทุกกรณีเหมือนกันหมด คือ อะไรมีสิทธิที่จะได้ก็ต้องคืนและอะไรที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่ควรได้ก็ต้องยึด และตนไม่เคยก้าวล่วงอำนาจศาล ส่วนการนิรโทษกรรมเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติที่จะออกกฎหมาย ส่วนเอกสารของนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ที่ส่งมาถึงตนให้เร่งรัดคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นก็ได้เซ็นคำว่า ทราบ ไปแล้ว

ในช่วงท้ายนายอรรถพรได้กลับเข้ามานั่งในห้องประชุมสภาอีกครั้ง ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยฟ้องประธานให้ไล่ออกจากห้องประชุมอีกครั้งจนกว่าการถามตอบ กระทู้นี้เสร็จสิ้น

* เหลิมเสี้ยมปู่ชัย-มาร์ค

ถัดมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสด นายกฯ เรื่องการตรวจสอบที่ดินบริเวณเขากระโดง อ.เมือง และที่ดินริมหนองน้ำ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ว่าในการอภิปรายไม่ไววางใจนายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ ขณะนั้นนายอภิสิทธิ์ เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจตนสมัยเป็น รมว.มหาดไทย และกล่าวหารัฐบาลในขณะนั้นว่าไม่ให้มีการตรวจสอบที่ดินดังกล่าว จึงอยากถามว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลมา 1 ปีเศษได้ดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ซึ่งประธานและภรรยาที่ตนเคารพนับถือเป็นอา ถูก กล่าวหาจากนายกฯ และ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่ามีการสมคบระหว่างกลุ่มนายทุน ราชการ และนักการเมือง เข้าไปบุกรุก ทราบว่าวันนี้อัยการสั่งไม่ฟ้องแล้ว พนักงานสอบสวนและพยานบุคคลยืนยันว่าแม้จะมีการล้อมรั้วในที่ดิน แต่บุคคลทั่วไปสามารถสัญจรไปมาได้และที่ดินได้ครอบครองถูกต้อง ไม่ได้บุกรุกป่าสงวนแต่อย่างใด แสดงว่าลูกพรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยการนั่งเทียน กล่าวหาประธานให้เสียหาย

* กัลยาให้เหลิมรอสู้คดี

ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการบุกรุกที่ดินเขาสอยดาว จ.จันทบุรี ว่า สมัยเป็น รมว.มหาดไทยได้ติดตามพบว่า คดีติดอยู่ที่อัยการ เมื่อถาม ผวจ.จันทบุรี ขณะนั้นก็อ้ำอึ้ง ไม่มีความค ืบหน้า ลือกันว่ามีธนาคารและบริษัทน้ำเมาแห่งหนึ่งสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้เอาอำนาจไปจากพวกตน ออกเงินให้เยอะแยะเพื่อมาล้มพวกตน กรณีนี้มีหลักฐานชัดว่าคนในตระกูลใหญ่ผู้ครอบครองที่ดินกว่า 4 พันไร่ และกว่า 400 ไร่บุกรุกป่าสงวน มีข้อมูลยืนยันว่าประธานธนาคารแห่งหนึ่ง เอาโฉนดที่ดินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายมาจำนองแบงก์เพื่อเอามาซื้อที่ดินในบริเวณนี้

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า เมื่อมาเป็นนายกฯ ก็ได้ให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตรงไปตรงมาเหมือนกรณีเขายายเที่ยง กรณีที่ดินเขาสอยดาวรัฐบาลยืนยันจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาเช่นเดียวกัน ขอให้มั่นใจว่าการตรวจสอบและการพิจารณาในเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นที่ดินของใครหรือนามสกุลอะไร

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ชี้แจงว่า ร.ต.อ.เฉลิม ได้พาดพิงถึงบุคคลที่ 3 ที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมแห่งนี้ ดังนั้นขอให้ ร.ต.อ. เฉลิม เตรียมตัวสู้คดีได้เลย

* พท.จองกฐินปู่จิ้น2 เด้ง

ด้านนายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ฝ่ายค้านขอเวลาอีก 15 วัน เพื่อรวบรวมข้อมูลให้เสร็จ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน และประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย แถลงว่า จากที่ประชุมพรรคเพื่อไทยมีมติให้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจพร้อมถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศไปก่อนหน้านี้ ในการประชุมพรรคเพื่อไทยวันที่ 2 ก.พ. นี้ ตนจะนำเสนอข้อมูลเพื่อขอมติอภิปรายไม่ไว้วางใจพร้อมยื่นถอดถอนนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เพิ่มอีกหนึ่งคน เพราะมีการกระทำส่อทุจริตประพฤติมิชอบ ส่วนกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างพิจารณาข้อมูล ส่วนวันเวลาในการยื่นญัตติขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป

* แฉฟาดหัวคิวถนนไร้ฝุ่น 35%

มีรัฐบาลไหนบ้างที่มีข้อกล่าวหาทุจริตมากมายขนาดนี้แล้วยังอยู่ได้ อย่างประมูลก่อสร้างในกระทรวงคมนาคมลือกันให้แซดว่า หากเป็นถนนสร้างใหม่ 25% สะพานสร้างใหม่ 25% แต่ถ้าเป็นงานซ่อมสะพาน 30% ส่วนก่อสร้างถนนไร้ฝุ่น 35% ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุและว่า สำหรับผู้ที่จะเสนอชื่อเป็นนายกฯ คนใหม่ขึ้นอยู่กับมติพรรค แต่ไม่เห็นด้วยหากจะเสนอคนนอกพรรค อย่างไรก็ตาม จะเปิดอภิปรายรัฐมนตรีให้น้อยคนและไม่เลือกพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าระหว่างการตั้งกระทู้ถามสด ร.ต.อ.เฉลิม ได้อภิปรายในสภาว่า การบริหารในกระทรวงมหาดไทยยุคนี้มีการอนุมัติให้ซื้อปืนมากที่สุดตั้งแต่มีการตั้งกระทรวงมหาดไทยมา ผมขอเรียกนายอภิสิทธิ์ว่าเป็นรัฐบาลจังโก้และได้ใส่ชื่อนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในบัญชียื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ส่วนนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ในวันอภิปรายขอให้ลาป่วย เพราะผมไม่ได้ยื่นญัตติ

* มั่นใจพรรคร่วม รบ.ไม่พลิกขั้ว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า คนที่จะสู้กับนายอภิสิทธิ์ได้ในระยะยาวคือ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ฉะนั้นจึงกำหนด ยุทธศาสตร์ด้วยการนำเสนอต่อประชาชนว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปหากเลือกพรรคเพื่อไทยเกินครึ่ง ตนจะออก พ.ร.บ.อภัยโทษให้กับคดีที่ตัดสินแล้ว เช่น คดีที่ดินรัชดาที่ตัดสินจำคุก 2 ปี และ พ.ร.ก.นิรโทษกรรมในคดีที่ยังอยู่ระหว่างพิจารณา อีกทั้งจะนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 กลับมาใช้ ทั้งนี้ไม่เคยคิดว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะพลิกขั้วมาร่วมกับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลในสมัยนี้ แต่การเลือกตั้งครั้งต่อไปมีความเป็นไปได้

อีกด้านหนึ่ง ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. แถลงว่า ที่ประชุม กกต. มีมติประกาศรับรองนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ เป็น ส.ส.มหาสารคาม เขต 1 พรรคเพื่อไทย โดยยกคำร้องที่ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ร้องว่าหาเสียงหลอกลวงด้วยการใส่ร้ายให้เข้าใจผิด รวมไปถึงการหาเสียงด้วยความรื่นเริง

* คดียุบปชป.คืบหน้าทีละนิด

นายสุทธิพล แถลงกรณีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาสำนวนกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทและการใช้เงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ผิดวัตถุประ สงค์ และต่อมาได้หารือที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. ล่าสุดที่ปรึกษากฎหมายได้มี ความเห็น 3 ประการ คือ 1.การเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุบพรรคการเมืองเป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมืองที่จะมีความเห็นก่อน จากนั้นจึงเสนอต่อ กกต. เพื่อขอความเห็นชอบต่อไป 2.เมื่อนายทะเบียนฯ ตรวจสอบและเห็นว่าพรรคการเมืองไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมาย ก็ไม่ต้องเสนอขอ ความเห็นชอบต่อ กกต. เพื่อยุบพรรคแต่อย่างใด และ 3.กรณีนี้สามารถนำ พ.ร.บ. พรรคการเมืองปี 2550 มาเทียบเคียงประกอบ การพิจารณาได้ หลังจากนี้ประธาน กกต. จะได้นำผลการหารือดังกล่าวเสนอให้คณะทำงานพิจารณาต่อไป

* ชวนป่วยติดเชื้อกระแสเลือด

นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ มีอาการป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเป็นโรคเดิมที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ ขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์แล้วซึ่งไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง โดยแพทย์แนะนำให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อรับยาให้ครบตามที่แพทย์สั่ง ทั้งนี้นายชวนขอไม่ให้เปิดเผยชื่อโรงพยาบาล เพราะไม่อยากรบกวนให้ใครต้องมาเยี่ยมเยียน.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook