ใครจับยิงตาหลุดเสธ.แดงขู่พบป.สอบปากคำ

ใครจับยิงตาหลุดเสธ.แดงขู่พบป.สอบปากคำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
มาร์คจี้เช็กบิล-ปลุกสังคมต้าน นปช.เตือนระวัง10วันอันตราย

นายกฯอภิสิทธิ์ ลิงค์ข้ามทวีป จวกพวกพูดจาข่มขู่ไม่ใช่นักประชาธิปไตย ยันไม่มีปฏิวัติไม่มีเงื่อนไขทำไปก็ไร้ประโยชน์ เรียกร้องสังคมต่อต้านคำพูดเสธ.แดง ด้าน สุเทพ ยัน ไม่จำเป็นส่งทีมอารักขาพิเศษผู้พิพากษา หวั่นครหารัฐบาล-ศาลพวกเดียวกัน แค่ให้เจ้าหน้าที่ดูแลอารักขาตามปกติ สั่งหาช่องดำเนินคดีเสธ.คนดังพูดข่มขู่ศาล ปชป.อัด แม้ว ไม่อหิงสาตามที่พูด เทพไท ตอกหน้า ประชา ข้อมูลผิด ทหารคิดปฏิวัติ อัดวิทยุเสื้อแดงปลุกปั่นวุ่นวาย ขณะที่ นปช. เปิดโรงเรียนยุทธการต้านรัฐประหารฯ ปูดเตรียมปฏิวัติ ช่วง 10 วันอันตราย ผบ.ทบ. ไปนอก 4-14 ก.พ. ด้าน เพื่อไทย บีบผบ.ทบ.แสดงความบริสุทธิ์ใจ ก.ม.ม. เชื่อ เสธ.แดง เป็นเป้าหลอกแต่คนลงมือเป็นคนระบอบทักษิณ หวังให้เกิดรัฐประหาร เตือนชอบปูดข่าวระวังอันตราย เสธ.แดง เข้าพบพงส.บก.ป. วันนี้ พร้อม พัลลภ-สมชาย ตั้งท่าฟ้องกลับ อนุพงษ์ สั่งค้นบ้านไม่เป็นธรรม ระบุ ไปพบตำรวจแล้วมีจับกุม ขอชักปืนสู้แบบนักรบ

* จวกพวกใช้ความรุนแรง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธิ์ ผ่านระบบเทเลพรีเซ็นต์ จากนครซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ว่าตนยืนยันมาตลอดว่าการเคลื่อนไหวเป็นสิทธิที่ทำได้แต่ต้องอยู่ในขอบเขต แต่ในระยะหลังนี้มีคนบางกลุ่มพูดถึงความรุนแรง ข่มขู่ ตนคิดว่าพฤติกรรมอย่างนี้เราไม่ควรจะยอมรับในสังคมซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปดูว่าเข้าข่ายคุกคามหรือไม่ เพราะอย่างนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้ว

ไม่มีนักประชาธิปไตยที่ไหนใช้วิธีการข่มขู่ คุกคาม เอาความรุนแรงมากดดันบีบคั้นในเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญคือพาดพิงไปถึงเรื่องผู้พิพากษาและองค์กรต่าง ๆ ยืนยันว่าทุกคนที่มีหน้าที่คงจะต้องมีความหนักแน่น ถ้าหากว่าบ้านเมืองของเราปล่อยให้เรื่องของการที่มีคนมาข่มขู่ คุกคาม เพื่อต้องการสิ่งใดสิ่งหนึ่งและก็ทำให้เป็นอย่างนั้นได้ วันข้างหน้าบ้านเมืองจะอยู่ไม่ได้และรัฐบาลยินดีให้การสนับสนุนดูแลท่านใดตกอยู่ในภาวะอันตราย อย่างที่บอกว่า 2 เดือนแรกนี้คงจะหนักหน่อย แต่รัฐบาลก็มีหน้าที่ในการดูแลให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย

* ให้สังคมบีบเสธ.แดงหยุด

เมื่อถามว่าพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก มีการพูดจาข่มขู่หลายครั้งและล่าสุดออกมาขู่ว่าอาจจะมีการลอบสังหารผู้นำ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พฤติกรรมอย่างนี้ที่สังคมต้องช่วยกันคิดว่าจะยอมรับลักษณะการพูดจาที่เสมือนกับการข่มขู่คุกคามได้หรือไม่ ถ้าเรายอมรับให้ทำกันอย่างนี้ต่อไปบ้านเมืองก็ไม่มีทางสงบ ที่สำคัญมีการพูดในทำนองซึ่งไปกดดันคนที่มีหน้าที่ในการที่จะต้องรักษาความยุติธรรม ความถูกต้องในบ้านเมือง ฉะนั้นตรงนี้เราไม่ควรยอมรับลักษณะของการกระทำแบบนี้

* ยันไม่มีปฏิวัติไม่มีเงื่อนไข

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของทหารแสดงพลังปกป้องสถาบันและผู้บังคับบัญชา เป็นการแสดงออกที่ทำได้ แต่ว่าตนคิดว่าไม่อยากให้มันเกิดความขัดแย้งในองค์กรต่าง ๆ สิ่งสำคัญคือทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรในกองทัพ นักการเมือง ข้าราชการประจำมีหน้าที่อยู่แล้ว และถ้าปฏิบัติหน้าที่นั้นโดยยึดประโยชน์ส่วนรวมด้วยความซื่อสัตย์ บ้านเมืองก็ไปได้ ส่วนกระแสข่าวการปฏิวัติรัฐประหารนั้นวันนี้ตนยังไม่เห็นเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับเรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร ระบบการเมืองของเราก็มีระบบรัฐสภา ทำงานกันตามปกติ รัฐบาลก็เดินหน้าแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เศรษฐกิจก็ฟื้นตัวโดยลำดับ มองไม่เห็นว่าการปฏิวัติรัฐประหารจะทำไปเพื่ออะไรและที่มั่นใจคือว่าทำไปแล้วคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้

* จ้อสื่อนอกไม่มีปฏิวัติ

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเอพีรายงานจากเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอพีว่า ตนยังมองไม่เห็นว่ามีภัยคุกคามต่อรัฐบาลไทยชุดนี้ด้วยการก่อรัฐประหาร แม้มีข่าวลือออกมาในช่วงนี้ พร้อมกับยืนยันว่า การปกครองด้วยหลักนิติธรรมจะสามารถเอาชนะภัยคุกคามได้ทั้งปวง การปล่อยข่าวว่ารัฐบาลไทยกำลังจะถูกโค่นลงจากอำนาจเพราะเกี่ยวพันกับการตัดสินคดีอายัดทรัพย์สินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกลุ่มผู้สนับสนุนนั้นถือเป็นการพยายามบ่อนทำลายประเทศชาติ ซึ่งตนก็ยังมองไม่เห็นเหตุผลใด ๆ ที่จะมีการรัฐประหารขึ้น อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ถือเป็นสิทธิเสรีภาพของการแสดง ออกแต่ยังไม่จำเป็นที่จะมีการเปลี่ยนแปลง ในทางการเมืองนอกเหนือจากการเลือกตั้ง และหากมีการเลือกตั้งก่อนกำหนดก็ต่อเมื่อมีหลักประกันว่าสามารถหลีกเลี่ยงการใช้กลยุทธ์ข่มขู่คุกคามและความรุนแรงได้

* จ้องเอาผิดเสธ.แดงข่มขู่

ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุจะต้องมีการขยายผลดำเนินคดีกับพล.ต.ขัตติยะ ที่ออกมาพูดจาข่มขู่ว่าจะมีการลอบสังหารองค์คณะผู้พิพากษาว่า ไม่ทราบ ตนยังไม่ได้ฟังนายกฯพูด เมื่อถามว่า หาก เสธ.แดงเพียงแต่พูดข้อความว่าจะมีคนไปลอบสังหารบุคคลต่าง ๆ จะเข้าข่ายดำเนินคดีตามกฎหมายได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องดูว่าถ้าเป็นการพูดจาในลักษณะที่เป็นการข่มขู่ก็น่าที่จะเข้าข่าย ตนไม่ใช่นักกฎหมายจะต้องไปตรวจสอบ สำคัญว่าเจ้าหน้าที่ต้องติดตามคำพูดที่แท้จริงที่เขาพูดว่าเป็นอย่างไร ถ้าเป็นการพูดข่มขู่จริงเราก็ยอมไม่ได้ เพราะท่านผู้พิพากษาเหล่านั้นท่านก็ทำหน้าที่ของท่าน เรายอมให้ใครมาข่มขู่ศาลหรือผู้พิพากษาไม่ได้

ผมยังตอบไม่ได้ว่าจะเอาผิด เสธ.แดงได้หรือไม่ เพราะบางคนพูดจามีเจตนา แต่ว่าลักษณะการพูดหรือตัวคำพูดเมื่อถอดออกมาไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายเราก็ต้องอดทนเอา ถ้าเข้าข่ายก็ต้องดำเนินคดี อย่างไรก็ตามเราคงไปปรามไม่ให้ เสธ.แดงพูดจาเช่นนี้ในที่สาธารณะได้ เพราะเขาไม่ใช่คนที่จะไปเชื่อฟังใคร โดยเฉพาะเรา แต่เขารู้อยู่แล้วว่าถ้าทำผิดกฎหมายเราดำเนินคดีแน่นอนไม่ว่าจะเป็นใคร นายสุเทพ กล่าว และเมื่อถามว่า เสธ.แดงระบุว่าเชื่อถือนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ จะขอให้นายไตรรงค์ไปคุยกับ เสธ.แดงหรือไม่นั้น นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า พรุ่งนี้เจอนายไตรรงค์ก็ถามท่านดูก็แล้วกัน

* สั่งดูแลผู้พิพากษาเต็มที่

เมื่อถามว่าฝ่ายความมั่นคงจะเพิ่มการอารักขาองค์คณะผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์เป็นพิเศษหรือไม่ ตามที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา เรียกร้อง นายสุเทพ กล่าวว่า ฝ่ายความมั่นคงก็ตรวจสอบติดตามเรื่องเหล่านี้และพยายามดูแลความปลอดภัยบรรดาผู้ที่อยู่ในข่ายที่ปรากฏเป็นข่าว แต่จะไปทำอะไรที่เป็นพิเศษคงไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกพวกไม่หวังดีกล่าวหาอีกว่าไปอยู่พวกเดียวกัน ทั้งนี้เพราะระบบศาลต้องเป็นอิสระ ผู้พิพากษาต้องรักษาความเป็นกลางและอิสระของท่าน เราเข้าไปใกล้ชิดท่านเกินไปก็เป็นอันตรายถูกวิพากษ์วิจารณ์ท่านก็เสียหาย แต่อยู่ห่างออกไปก็เป็นห่วง ดังนั้นต้องรักษาความพอดี

เราไม่ประมาท จัดให้มีเวรยามผ่านไปที่บ้านพักของท่านเป็นระยะ ๆ และคอยตรวจสอบระแวดระวัง แต่จะถึงกับเอาคนขับรถประกบไปมากับท่านเหมือนผม ท่านคงไม่ยอม ทั้งนี้ผมยังใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตามปกติ ไม่ได้ใช้เจ้าหน้าที่จากหน่วยพิเศษ ให้ ผบช.ส.กวดขันดูแล เรื่องนี้สั่งการไว้นานแล้ว ผบช.ส.ก็ดูแลอย่างเต็มที่ โดยจะดูแลไปเรื่อยจนกว่าจะไม่มีข่าวไม่มีปัญหา นายสุเทพ กล่าว

* ปชป.อัดแม้วไม่อหิงสา

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลง ว่า ขณะนี้มีเหตุการณ์ที่ส่งสัญญาณในหลายส่วน ซึ่งจะบ่งบอกถึงความวุ่นวายและความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในสังคม และ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังทวิตเตอร์ด้วยข้อความที่ตรงกันข้ามกับการเคลื่อนไหวของเครือข่ายของตัวเอง โดยอ้างว่าเป็นผู้นำที่นำประเทศไปสู่ประชาธิปไตยและยึดแนว ทางการไม่ใช้ความรุนแรงของมหาตมะคานธี แต่พฤติกรรมที่หนีคดีไปต่างประเทศ และชักใยให้บ้านเมืองวุ่นวาย เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ขณะเดียวกันก็สนับสุนให้ประชาชนทำผิดกฎหมายก่อการจลาจลเผาบ้านเมืองนั้น อยากถามว่าเป็นการกระทำของคนที่เชื่อในอหิงสาจริงหรือไม่ และพฤติกรรม เหล่านี้ก็ไม่เกี่ยวกับการทวงคืนประชาธิปไตยเลย ดังนั้นสังคมควรใช้วิจารณญาณในการพิจารณา

* จี้รัฐเล่นงานเสธ.คนดัง

ส่วนการที่ พล.ต.ขัตติยะ ออกมาพูดพาดพิงถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่าควรเอาเอ็ม 79 ไปรดน้ำบูชานั้น นอกจากจะสร้างความหวาดกลัวให้สังคมแล้ว ยังแสดงให้เห็นชัดว่าบุคคลนี้ขาดการยับยั้งสติ มีพฤติกรรมนิยมความรุนแรง ซึ่งรัฐไม่ควรให้บุคคลที่อาจทำอันตรายต่อผู้อื่นอยู่ร่วมในสังคมตามปกติ แต่ควรจะต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยด่วน นอกจากนี้รัฐก็ควรมีมาตรการสร้างความมั่นใจให้ประชาชนโดยขยายผลไปสู่กลุ่มบุคคลอื่นที่ชักนำให้คนทำผิดกฎหมายในรูปแบบอื่นด้วย เช่นที่ จ.อุดรธานี ซึ่งมีวิทยุชุมชนพูดชักจูงให้นำน้ำมันไปเผาศาลากลางจังหวัด อยากให้รัฐเร่งดำเนินการต่อกลุ่มบุคคลที่ใช้วิทยุชุมชนปลุกระดมด้วย โฆษกฯ กล่าว

* เทพไทอัดวิทยุเสื้อแดง

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การเปิดสถานีวิทยุแห่งหนึ่งมีการประกาศยุทธ ศาสตร์ความเคลื่อนไหวเหมือนพรรคคอม มิวนิสต์ในอดีต มีการประกาศสงคราม 3 ประสาน ใช้พรรคชี้นำ ใช้มวลชนสนับสนุน และใช้กองกำลังติดอาวุธยึดอำนาจรัฐ โดยอธิบายว่าขบวนการเสื้อแดงเวลานี้ มีพรรคเพื่อไทยเป็นธงนำ มีคนเสื้อแดงเป็นมวลชน และมีนักรบดำ ทหารพราน และการ์ดเสื้อแดง เป็นกองกำลังติดอาวุธ เรื่องนี้น่ากังวลหากคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวโดยใช้กองกำลังติดอาวุธเข้ามายึดอำนาจรัฐ ฝ่ายความมั่นคงจึงไม่ควรชะล่าใจ น่าจะเข้าไปติดตาม เรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

นายเทพไท กล่าวถึงการทวีตของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ช่วงหลังมีการทวีตรายวันโดยเฉพาะกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศว่าจะยึดแนวทางต่อสู้แบบอหิงสา เหมือนมหาตมะคานธี ซึ่งอยากถามกลับ พ.ต.ท. ทักษิณคำว่าอหิงสาหมายถึงอะไร การปลุกระดมตายเป็นตาย เราจะสู้ไม่ถอยไม่กลับบ้านมือเปล่า หรือหากได้ยินเสียงปืนนัดเดียว จะกลับมานำม็อบด้วยตัวเอง ยิ่งไม่ใช่การต่อ สู้แบบมหาตมะคานธีแต่เป็นการต่อสู้แบบทักษิณ ชินวัตร โมเดล ส่วนที่พ.ต.ท. ทักษิณ จะไปฟ้องต่อศาลโลกนั้นถือเป็นการพูดแบบไม่รู้กฎหมาย เพราะศาลโลกมีขอบเขตอำนาจตัดสินคดีความเพียง 2 เรื่อง 1.คดีความที่มีข้อพิพาทระหว่างรัฐกับรัฐ และ 2.ให้คำปรึกษาด้านข้อกฎหมายกับหน่วยงานระหว่างประเทศ ส่วนคดี พ.ต.ท.ทักษิณเป็นเพียงคดีอาญาธรรมดาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

* ตอกหน้าประชาข้อมูลผิด

นายเทพไท กล่าวถึงกรณีที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย อ้างว่ารัฐบาลมีแผนทำรัฐประหารตัวเองว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนอกรัฐธรรมนูญและไม่มีเหตุผลใด ที่รัฐบาลจะปฏิวัติตัวเอง ส่วนกรณีที่นายประชาอ้างว่า พล.อ. ว เตรียมทหารรุ่น 11 ที่มีอายุ54 ปี ซึ่งเป็นคนคุมกำลังหลักจะเป็นผู้ทำ รัฐประหาร ตนได้สอบถามและศึกษาเรื่องนี้พบว่าเตรียมทหารรุ่น 11 ขณะนี้เหลืออายุราชการ 1-2 ปี เป็นอย่างมาก คนที่อายุ 54 ปี ต้องเป็นเตรียมทหารรุ่น 15-16 ที่สำคัญนายทหารที่อายุ 54 ปี ยังไม่มีใครเป็น พล.อ. สักคน ส่วนใหญ่มียศ พล.ต.ทั้งสิ้น เรื่องดังกล่าวจึงเป็นการยกเมฆสร้างข่าว

* บีบป๊อกแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค กล่าวถึงกรณียิงเอ็ม 79 บก.ทบ. ว่า พรรคตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กลับปิดเรื่องไม่แจ้งความ แต่พอเรื่องได้รับการเปิดเผยขึ้นมา พล.อ.อนุพงษ์ กลับอนุญาตให้ตำรวจและทหารเข้าไปตรวจค้นบ้าน พล.ต.ขัตติยะ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีพยานหลักฐานแต่กลับไม่อนุญาตให้ พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ประธาน กมธ.ทหาร เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทั้ง ๆ ที่ได้มีการทำเรื่องร้องขอไป ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมาก เรื่องดังกล่าวทำให้ พล.ต.ขัตติยะ ตกเป็นจำเลยของกองทัพ รวมทั้งมีการขยายผลสร้างกระแสตบเท้าของเหล่าทัพเป็นภาพที่สร้างความไม่สบายใจให้กับประชาชนจนเกิดกระแสปฏิวัติ ในเรื่องนี้ขอให้ ผบ.ทบ.แสดงความบริสุทธิ์ใจร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเข้าไปหาข้อเท็จจริงและตรวจสอบหลักฐาน

* นปช.เปิดรร.ต้านปฏิวัติ

ที่ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ชั้น 6 ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ร่วมเปิดโรงเรียนยุทธการต้านรัฐประหาร นปช. แดงทั้งแผ่นดิน โดยนายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส. ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ผอ.โรงเรียนฯ เปิดเผยว่า นปช.ได้เชิญแกนนำแต่ละองค์กรให้ส่งตัวแทนองค์กรละ 2 คน ทั้ง 76 จังหวัด มาประชุมทำความเข้าใจแนวทาง ต่อต้าน รัฐประหารอย่างสันติวิธี เพื่อให้เป็นนโยบาย และทิศทางเดียวกัน

นายวีระ ในฐานะประธาน นปช. แดงทั้งแผ่นดิน กล่าวบรรยายช่วงหนึ่งว่า รัฐบาลสรุปความเคลื่อนไหวคนเสื้อแดงว่าทำเพื่อไม่ให้ยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ วันที่ 26 ก.พ.นี้ ทำให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายจนตัดสินคดีไม่ได้ และยังจะเคลื่อนไหวหลังการตัดสิน เพื่อแสดงการไม่ยอมรับ ซึ่งการที่รัฐบาลออกมาระบุเช่นนี้เพราะรู้ล่วงหน้าแล้วใช่หรือไม่ว่าจะมีการยึดทรัพย์อดีตนายกฯ อย่างไรก็ดีวันนี้คนเสื้อแดงเปลี่ยนสถานะจากผู้ชุมนุมมาเป็นผู้รักษากฎหมาย เราต้องการให้มีการบังคับใช้อย่างยุติธรรม ศักดิ์สิทธิ์และเสมอภาค

* อัดประยุทธ์-จัดทัพแดงลุย

นายจตุพร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. ได้รับสัญญาณให้ทำรัฐประหาร โดยจะใช้ข้ออ้างเดิม ๆ ว่าคนเสื้อแดงทำลายสถาบัน แต่คนที่ทำลายตัวจริงคือพวกที่แอบอ้างสถาบัน หากเกิดรัฐประหารจริงเราต้องพร้อมต่อสู้ หากเกิดรัฐประหารครั้งนี้จะมีทหารออกมารบกับทหาร ถ้ายึดอำนาจพี่น้องต่างจังหวัดให้นำรถสิบล้อไปปิดค่ายทหารทุกค่าย รัฐบาลมักอ้างถึงความสมานฉันท์ ซึ่งเป็นคำที่หลอกล่อประชาชนยามที่ตัวเองเสียเปรียบ เมื่อเกิดเหตุการณ์พี่น้องเสื้อแดงกว่า 300 กลุ่มทั่วประเทศ จะต้องส่งหน่วยการ์ดมาประสานงานร่วมกันต้องเคียงบ่าสู้รบในสมรภูมิเราต้องเอาชีวิตเดินเข้าไปใช้หัวใจเป็นเดิมพันประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต้องสะอาดไม่ใช่ให้อำมาตย์มาแทรกแซง

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ในสงคราม ยกสุดท้ายหัวใจสีแดงทุกดวงเป็นคำตอบ พี่น้องอย่ารอดูทีวีเพื่อรอฉลองความสำเร็จ ออก มาครั้งนี้ไม่มีรอบสองแล้ว เราได้ไปเขายายเที่ยง เขาสอยดาว ไป บก.ทบ.มาแล้ว และวันที่ 2 ก.พ.นี้ จะไปกองทัพอากาศ ทวงถามท่าที ผบ.ทอ. เห็นด้วยกับรัฐประหารหรือไม่ จุดสุดท้ายที่เราจะไปคือ กกต. เพื่อดูว่า 2 มาตรฐานจริงหรือไม่ ทั้งนี้รัฐบาลปูนบำเหน็จแต่งตั้งภรรยา กกต.บางคน เป็นอธิบดีในหน่วยงานหนึ่ง ตนจึงไม่แปลกใจที่ผลการตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์จะออกมาแบบนี้ เมื่อเสร็จศึกจาก กกต. จะ ประกาศชุมนุมใหญ่ ยกเดียวครั้งเดียว เดิม พันชีวิตเดิมพันประเทศไทย

* จับตา4-14ก.พ.มีเหตุใหญ่

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ปรากฏการณ์นายทหารออกมาตบเท้าให้กำลังใจนาย คือการเช็กขุมกำลังว่าหน่วยไหน สังกัดใดสั่งได้บ้าง เท่าที่รู้พวกที่ออกมามีทั้งเต็มใจ เอาใจนายและจำใจออกมาแต่หัวใจอยู่กับประชาชนเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จบโรงเรียนเสนาธิการจากไหน แต่อยากให้รู้ว่าวันนี้เสนาธิการหลายคนมานั่งจิบเบียร์กับพวกตน รอบนี้ถ้ามีการรัฐประหารจะได้เห็นการต้มครั้งใหญ่ ขณะนี้พบสัญญาณที่ไม่ปกติ วันที่ 4-14 ก.พ. พล.อ.อนุพงษ์ จะเดินทางไปต่างประเทศ ดังนั้นอำนาจทั้งหมดจะอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะฉะนั้นช่วง 10 วันเป็นที่น่าติดตาม หากเขาจะลงมือก็คงทำช่วงนี้ หากไม่ทำ คนเสื้อแดงยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป

นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงวันชุมนุมใหญ่ว่าอาจเป็นหลังวันตรุษจีนไปแล้วเพื่อให้พี่ น้องเสื้อแดงกลับไปเฉลิมฉลองให้เสร็จสิ้นก่อน ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.พ.แน่นอน ส่วนกรณี พล.ต.ขัตติยะ ระบุว่ามีความพยายามลอบสังหารผู้พิพากษา คตส. นั้น ตนไม่ทราบว่า พล.ต.ขัตติยะ ไปได้ยินอะไรมาจากไหน แต่แนวทางคนเสื้อแดงคือต่อสู้อย่างสันติวิธี ไม่เคยประสงค์จะเอาชีวิตผู้ใดหรือไปทำลายทรัพย์สินราชการ การขู่จะเอาชีวิตไม่ว่าเป็นฝ่ายไหนควรได้รับการดูแลอย่างเท่าทียมซึ่งเป็นหน้าที่รัฐบาล หากจะเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นแกนนำคนเสื้อแดงก็ถูกขู่เอาชีวิตทุกวันเหมือนกัน โดยวันที่ 2 ก.พ. คนเสื้อแดงจะไปกระทรวงกลาโหม เพื่อทวงถามความคืบหน้ากรณีนายอภิสิทธิ์ หนีเกณฑ์ทหาร จากนั้นวันที่ 4 ก.พ. เวลา 10.00 น. คนเสื้อแดงทั้งแผ่นดิน จะออกไปตบเท้าพบทหารทุกค่ายทั่วประเทศพร้อม ๆกัน พร้อมทั้งอ่านแถลงการณ์

* แจกเอกสารต้านรัฐประหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานมีการแจกจ่ายเอกสาร โรงเรียนยุทธการต้านรัฐประหารของ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ระบุถึงวัตถุประสงค์เป้าหมาย ส่วนเนื้อหาอื่นมุ่งเน้นให้คนเสื้อแดงพร้อมรบในทุกสถานการณ์ พร้อมทั้งยุทธศาสตร์ต่อต้านรัฐประหาร 3 ระยะ 1.ก่อนเกิดรัฐประหาร 2.เกิดรัฐประหารลุกขึ้นสู้ล้มรัฐประหารทันที โดยการปิดล้อมบ้านทหาร อำมาตย์ ขวางการเคลื่อนกำลังทุกวิธี 3.เมื่อเกิดรัฐประหารยึดอำนาจได้แล้ว รุกรบต่อเนื่องเพื่อชัยชนะของประชาชน ทั้ง นี้นางธิดา ถาวรเศรษฐ หรือสหายปูน ภริยา นพ.เหวง โตจิราการ หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง ได้เขียนหลักการในยุทธการต้านรัฐประหาร แยกเป็นรายหัวข้อทั้งความคิดใน การต่อต้านรัฐประหาร แนวทางนโยบาย ยุทธ ศาสตร์ ยุทธวิธี ระบุเป็นรายข้อด้วย

* ระวังคำพูดเสธ.แดงเป็นจริง

ที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคฯ กล่าวถึงกรณีที่นายทหารแสดงพลังปกป้อง พล.อ. อนุพงษ์ ว่า แม้เหตุผลข้อเท็จจริงจะยังไม่กระจ่างชัด แต่เรื่องนี้ควรชื่นชมมากกว่า ตำหนิ เรื่องนี้พรรคมองว่าต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้เป็นเพราะผู้บั งคับบัญชาระดับสูงของกองทัพขาดความเด็ดขาดและเป็นเอกภาพกับทหารนอกรีตบางรายจนเกิดปัญหาสะสม ดังนั้นจากนี้ไปผู้นำกองทัพต้องแสดงแบบอย่างที่ดีในทุกด้านและเพิ่มความเด็ดขาดให้มากกว่านี้

นายสำราญ กล่าวต่อว่า กรณีที่พล.ต.ขัตติยะ ให้สัมภาษณ์ว่าอาจมีการทำร้ายลอบสังหารผู้พิพากษา เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเพราะมีโอกาสเป็นไปได้ เนื่องจากที่ผ่านมา พล.ต.ขัตติยะได้ให้สัมภาษณ์ในลักษณะเช่นนี้ก่อนเกิดเหตุการณ์ลอบยิง ระเบิดเอ็ม 79 ใส่กลุ่มพันธมิตรฯมาแล้ว ทั้งนี้การออกมาให้ข่าวของ พล.ต.ขัตติยะ ไม่ได้หมายความว่า พล.ต.ขัตติยะ จะเป็นผู้ลงมือกระทำเอง แต่เชื่อว่า พล.ต.ขัตติยะ คือเป้าหลอก และเป็นเพียงหนึ่งในผู้รู้สถาน การณ์ แต่ผู้ที่ลงมือจริงอาจจะเป็นกลุ่มคนในกองทัพที่อยู่ในระบอบทักษิณ ซึ่งต้องการสร้างความปั่นป่วนและความหวาดกลัวต่อสังคมอันนำไปสู่เงื่อนไขในการรัฐประหาร ที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้ประโยชน์

* จี้ให้พูดข้อมูลทั้งหมด

เสธ.แดงออกมาให้ข่าวว่าจะมีการทำร้ายผู้พิพากษา-องค์กรอิสระ รวมถึงมีพฤติกรรมที่หลุดโลก ไม่ให้ความเคารพ ไม่เห็นหัวไม่ให้คุณค่าต่อผู้บังคับบัญชา พฤติกรรมของเขาเองก็เป็นสัญญาณที่จะเรียกอันตรายมาสู่ตัวเอง เพราะ เสธ.แดงเสมือนเป็นจุดอ่อนที่ต้องกำจัด ดังนั้นพรรคจึงขอเตือน เสธ.แดงกลับไปว่า ท่านก็อาจตกอยู่ในอันตรายเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามหาก พล.ต.ขัตติยะ ทราบข้อมูลจริงถึงสถานการณ์อันตรายในสังคมและมีความเป็นลูกผู้ชายพอ ควรจะออกมาให้ข้อมูลให้หมด ให้สังคมคลายความสงสัย มิเช่นนั้น พล.ต. ขัตติยะ จะกลายเป็นเพียงนักแบล็กเมล์ นักต่อรองโดยใช้เครื่องแบบทหารเป็นเครื่องมือเท่านั้น นายสำราญ กล่าว

โฆษกพรรคฯ กล่าวถึงกรณี นปช. จะเคลื่อนขบวนดาวกระจายชุมนุมที่หน้ากองทัพต่าง ๆ เพื่อต่อต้านการรัฐประหารว่าเป็นเรื่องที่น่าตลก เพราะแท้จริงแล้วฝ่ายระบอบทักษิณต่างหากที่ต้องการสร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองปั่นป่วนเพื่อจะได้เกิดการรัฐประหาร กรณีดังกล่าวจึงเป็นการยั่วยุกองทัพให้สติแตก เพื่อเข้าทางการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ซึ่งรัฐบาล-กองทัพได้รับทราบเป็นอย่างดีจึงไม่ตกหลุมพราง ทั้งนี้สถานการณ์การเมืองในขณะนี้มีความเป็นไปได้หลายทาง ทั้งการยุบสภา พลิกขั้วรัฐบาลหรือตั้งรัฐบาลแห่งชาติ การพยายามป่วนเมืองให้เกิดจลาจลอันนำไปสู่การรัฐประหาร

* สวนมาร์คพูดจริงครึ่งเดียว

นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรค กล่าวว่า เงื่อนไขที่จะให้เกิดการรัฐประหารมีอยู่ 4 ข้อ คือ 1.ขบวนการล้มสถาบันที่นับวันยิ่งขยายตัวและเปิดเผยมากขึ้น 2.วิกฤติความมั่นคง ความลงตัวในกองทัพบกที่มีการแบ่งแยกฝักฝ่าย 3.สถาบันตุลาการและกระบวนการยุติธรรมถูกท้าทาย และ 4.เงื่อน ไขในตัวรัฐบาลเองที่มีการขัดกันของผลประโยชน์ ทั้งนี้การที่นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในสถาน การณ์ที่ดีขึ้นเป็นการพูดความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะการที่สถานการณ์การเมืองในประเทศยังอยู่ในช่วงวิกฤติมีกระแส การปฏิวัติอยู่เช่นนี้ ไม่น่าจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีไปกว่านี้ได้อีกดังนั้นรัฐบาลต้องหยุดกระบวนการทำลายความมั่นคงตรงจุดนี้ไปให้ได้

* เสธ.แดงพร้อมพบพงส.

วันเดียวกัน พล.ต.ขัตติยะ เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น. ตน พร้อม พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย พ.ต.ท.สมชาย จะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเพื่อให้ปากคำพร้อมกับ รับทราบข้อกล่าวหากรณีที่ตำรวจและทหารจำนวนหนึ่งเข้าไปตรวจค้นบ้านพักของตนทั้ง ๆ ที่ตนไม่ได้กระทำความผิดไม่ว่าจะเป็น กรณีใด ๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้จะดำเนินการฟ้องกลับ พล.อ.อนุพงษ์ ในกรณีที่อนุญาตให้ทหารและตำรวจเข้าไปค้นบ้านพักของตนด้วย ทั้งนี้หากในวันเวลาดังกล่าวมีการจับกุมตน จะขอสู้ในฐานะนักรบด้วยการใช้ปืนยิงคนที่จะมาจับให้ตาหลุด ส่วนกรณีข่าวการลอบทำร้ายผู้พิพากษาและองค์กรอิสระนั้นเป็นเรื่องที่ น.ต.ประสงค์ และนายสมชาย เคยพูดไว้แล้ว ซึ่งตนก็ได้ข้อมูลมาเช่นเดียวกัน

* แดงอีสานชุมนุมขอนแก่น

ที่ลานคนเสื้อแดง ตรงข้ามห้างโลตัส สาขาขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น นาย สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ นายจักริน พัฒน์ดำรงจิตร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร กลุ่มแกนนำคนเสื้อแดงขอนแก่น ชมรมเสื้อแดงขอนแก่น 51 ร่วมทวงคืนประชาธิปไตยและสถานีวิทยุคนเสื้อแดง เทิดทูนสถาบันต่อต้านเผด็จการ จ.ขอนแก่น ร่วมกันจัด งานรวมพลคนเสื้อแดงอีสาน เช็กกำลังพล เตรียมความพร้อม ร่วมสู้ศึกครั้งสุดท้าย เพื่อเอาคนดีกลับเมืองไทย และทวงคืนประชาธิปไตยกลับคืนมา โดยมี พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท. นพเก้า โสมนัส รองผกก.ป. พ.ต.ท.วีระวุฒ เสียงใส สวป. นำกำลังตำรวจกว่า 300 นาย มาดูแลความสงบเรียบร้อย โดยการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบมีการกล่าวโจมตีเรื่องการเตรียมก่อรัฐประหาร ซึ่งทางกลุ่มเสื้อแดงจะต่อต้านการกระทำดังกล่าว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook