ทีมไทยฉลองชัยคว้าถ้วย โปโล คิง''ส คัพ
อากาศที่ร้อนอบอวลจากแสงแดดเจิดจ้ายามบ่ายมิได้เป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันและกองเชียร์สาว ๆ แม้แต่น้อย ต่างแต่งกายด้วยชุดเดรสพร้อมหมวกใบเก๋ตามธรรมเนียมปฏิบัติของการแข่งขันขี่ม้าโปโล สีสันของกองเชียร์คึกคักพอ ๆ กับกิจกรรมในสนาม ทั้งการโชว์ขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง, การประลองความเร็วในการขี่ม้า โดยจ๊อกิตติมศักดิ์ อาทิ เจิดจันทร์ เหล่าวนิช, ณัฐนาฏ ปิ่นแสง, พ.ต.วันชนะ สวัสดี เป็นต้น ก่อนเข้าสู่การแข่งขันอย่างเป็นทางการโดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธานเปิดงาน ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้พิเศษและเข้มข้นขึ้นด้วยการกำหนดเงื่อนไขแต้มต่อรวมสูงขึ้น เมื่อถึงรอบชิงชนะเลิศทำให้แต้มต่อรวมของแต่ละทีมสูงถึง 20 โกล ซึ่งถือเป็นการแข่งขันขี่ม้าโปโลด้วยแต้มต่อสูงที่สุดเป็นครั้งแรกของไทยและภูมิภาคเอเชีย ไม่เพียงเท่านี้ยังได้รับเกียรติจากนักกีฬาขี่ม้าโปโลมือวางอันดับ 2 ของโลก อย่าง มร.ฟากุนโด เปอเรส มาร่วมแข่งขันในทีมไทยด้วย
การแข่งขันชวนตื่นเต้นแบ่งเป็น 6 ชักก้าด้วยกัน ซึ่งระหว่างพักครึ่งการแข่งขัน 3 ชักก้า ทางสมาคม ขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย ได้ทำพิธีมอบเงินรายได้ทั้งหมดจากการประมูลสินค้าและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากบูธ คิง เพาเวอร์, เอส แอนด์ พี และฮาเก้น ดาส ให้แก่มูลนิธิราชชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์จำนวน 2 ล้านบาท จากนั้นได้เชิญเซเลบริตี้ร่วมลงไปย่ำสนามซึ่งเป็นประเพณีอย่างหนึ่งเพื่อให้สนามเรียบ ก่อนที่ทั้งสองทีมจะเปิดศึกกันอีกใน 3 ชักก้าที่เหลือ
ทั้งสองทีมต่างควบม้าผลัดกันทำคะแนนอย่างเข้มข้น ผลปรากฏว่าทีมไทย เอ สามารถคว้าชัยชนะมาครองได้สำเร็จติดต่อกันเป็นสมัยที่ 7 ด้วยคะแนน 12 ต่อ 10 ปิดท้ายการแข่งขันด้วยดินเนอร์กระชับมิตรยามค่ำคืน พร้อมประกาศรางวัลแต่งกายงาม เบสท์ เดรส อวอร์ด ได้แก่ รัญชา บริบาลบุรีภัณฑ์, โมสท์ เอเลแกนท์ ได้แก่ สินิทธา บุญยศักดิ์ และ โมสท์ สไตลิสต์ เฮด แวร์ ได้แก่ รพีพรรณ เหลืองอร่ามรัตน์ ทั้งหมดรับรางวัลหอบใหญ่กลับบ้าน ก่อนโบกมืออำลาพบกันใหม่ในศึกครั้งหน้า.
