พ่อค้าสนามหลวงขวางจับนกพิราบโวยทำขาดรายได้!

พ่อค้าอาหารนกจุดประทัดด้านปรับภูมิทัศน์สนามหลวงป่วนโวยกแหลก กทม.ไม่ยอมแจ้งล่วงหน้าทำให้ขาดรายได้ป่วนเดือดร้อนหนักเพราะกู้เงินเจ้าหนี้นอกระบบมาลงทุน ด้านนายกสมาคมมิตรภาพกีฬาแข่งนกฯ จี้เจ้าหน้าที่เคลียร์ด่วน เพราะจับนกไม่สะดวก วอนประชาชนอย่าซื้ออาหารเลี้ยงนกอีก ขณะที่ ชาวบ้านหวั่นลูกนกพิราบนับพันอดตาย เพราะไร้พ่อแม่นกคอยหาอาหารป้อน ส่วนชาวราชบุรีตั้งป้อมสกัด ไม่เอานกพิราบสนามหลวง หวั่นทำสกปรก กัดกินไร่นา ทำระบบนิเวศเสีย ส.ส.เมืองโอ่ง เตรียมร่อนหนังสือถึงนายกฯ แสดงเจตจำนงคัดค้าน

ที่บริเวณท้องสนามหลวง เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.พ. นายธีระชน มโน มัยพิบูลย์ นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ และนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะ และ พล.ต.ต. ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. พล.ต.ต. วิมล เปาอินทร์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.วิชาญญ์ วัชร์ บริรักษ์กุล รอง ผบก. น.1 และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงภูมิทัศน์สนามหลวงอย่างเป็นทางการ โดยนายธีระชน ในฐานะประธานคณะกรรมการปรับปรุงภูมิทัศน์สภาพแวดล้อมบริเวณท้องสนามหลวง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ กทม. ได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบล่วงหน้า ทั้งเรื่องการห้ามนำรถมาจอด และการให้อาหารนกพิราบ โดยมีการเตรียมความพร้อมเบื้องต้นในการแก้ปัญหาไว้ด้วย โดยเฉพาะรถทัวร์ของกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งเราได้จัดเตรียมสถานที่ให้รถทัวร์รับ-ส่งนักท่องเที่ยวสามารถจอดได้ที่บริเวณสายใต้ ถนนเจ้าฟ้า ถนน ท้ายวัง และพระราม 8 ระยะแรกอาจจะ ไม่สะดวกบ้าง

นายธีระชน ยังกล่าวถึงการจับนกพิราบ บริเวณสนามหลวงว่า กทม.จะเริ่มดักจับนกพิราบในพื้นที่ที่มีกว่า 10,000 ตัว ไปเลี้ยงในพื้นที่ปิดใน จ.ราชบุรี และ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเครือข่ายนกพิราบที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาคม มิตรภาพกีฬาแข่งนกฯ สมาคมพัฒนานกพิราบสื่อสารไทย จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในการดักจับนกพิราบ และจะนำนกพิราบ ที่จับได้ไปฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับตัว และให้ยาถ่ายพยาธิ ก่อนที่จะนำไปเลี้ยง ซึ่งระหว่างการดักจับนกนั้น มีกลุ่มผู้ค้าอาหารนกทำการจุดประทัดเพื่อแสดงความคัดค้านการจับนก เพราะทำให้ขาดรายได้ในการขายอาหารนก โดยอ้างวา กทม.ไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ค้าทราบก่อนแต่เนิ่น ๆ ว่าจะจับนก ทำให้ผู้ค้าเดือดร้อน เพราะที่ไปกู้เงินนอกระบบมาจึงขาดรายได้ที่จะส่งให้เจ้าหนี้

ขณะที่ นายเนติ ตันติมนตรี นายกสมาคมมิตรภาพกีฬาแข่งนกฯ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่จะใช้เวลา 10 วันในการทำความคุ้นเคยกับนกด้วยการให้อาหารเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-15.00 น. ซึ่งอาหารที่ให้ ได้แก่ เมล็ดทานตะวันรัสเซีย, เมล็ดคานาวิสซานติว่า ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศและเมล็ดข้าวโพด โดยจะให้อาหารช่วงเวลา 12.00-15.00 น. ทุกวัน ก่อนจะจับไปตรวจหาโรคที่ซอยลาดพร้าว 87 และส่งต่อไปยังพื้นที่เลี้ยงใน จ.ปราจีนบุรี และ จ.ราชบุรี ต่อไป ส่วนการขัดขวางการจับนกของผู้ค้าอาหารนกที่นำประทัดมาจุด หรือส่งเสียงดังนั้น ตนมองว่าจะเป็นอุปสรรคในการทำโครงการอย่างมาก จึงอยากขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ กทม. ช่วยดูแลไม่ให้ผู้ต่อต้านทำการขัดขวาง เบื้องต้นอยากขอความร่วมมือประชาชนงดซื้อและให้อาหารนกพิราบด้วย

ด้าน นายพรเทพ กล่าวถึงการแก้ปัญหาประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สนามหลวงว่า ความจริงแล้ว กทม.ไม่ได้ให้สิทธิใครในการพักในพื้นที่สนามหลวงและผู้ใช้เป็นพื้นที่ชุมนุมทางการเมือง แต่เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายคงต้องใช้วิธีเจรจากันไปก่อน ซึ่งในวันที่ 1 มี.ค.นี้ กทม.จะส่งมอบพื้นที่สนามหลวงให้กับหน่วยงานทหารให้เข้ามาพัฒนา คงต้องให้หน่วยงานดังกล่าวพิจารณาอีกครั้งว่าจะยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ต่อไปหรือไม่ ทั้งนี้ในส่วนของผู้ค้านั้นขณะนี้ กทม.ได้เตรียมพื้นที่คลองหลอดเป็นพื้นที่ค้าขายของผู้ค้า เบื้องต้นได้ขอให้สำนักงานเขตพระนคร เป็นตัวกลางประสานไปยังผู้ค้าที่ต้องการ ซึ่งหากพื้นที่คลองหลอดมีไม่เพียงพอ หรือต้องเสียค่าเช่า กทม.จะเป็นผู้ที่ดูแลให้

ขณะที่ นางทยา กล่าวถึงการแก้ปัญหาคนเร่ร่อนว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในการหาบ้านพักอาศัยชั่วคราวให้ เบื้องต้นอาจจะต้องมีการผ่อนปรนกฎระเบียบให้ความเป็นอยู่อิสระขึ้น สำหรับคนเร่ร่อนที่ต้องการที่พัก นั้น กทม.จะใช้เวลา 28 วันในการให้กลุ่มคนดังกล่าวได้รับที่อยู่อาศัยชั่วคราว ส่วนคนเร่ร่อนที่ต้องการหาอาชีพใหม่ทำนั้น ตนจะให้โรงเรียนฝึกอาชีพของ กทม.เข้ามาแจกแผ่นประชาสัมพันธ์และเชิญชวนผู้ค้าที่ต้องการเข้าไปเรียน เพื่อสร้างแหล่งหารายได้และอาชีพในอนาคตต่อไป

อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านหลายรายร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า การจับนกพิราบจากสนามหลวงไปปล่อยหรือเลี้ยงไว้ที่อื่น อาจทำให้วงจรชีวิตได้รับการกระทบกระเทือน ลูกนกเชื่อว่ามีอยู่นับพันตัวที่อยู่ตามรังบนต้นไม้และตามอาคารในบริเวณนั้น หรือบริเวณอื่น อาจไร้พ่อแม่นกคอยหาอาหารมาให้ และต้องอดตายอย่างทรมาน รวมทั้งไข่นกที่ยังไม่ได้ฟักอาจเน่าตายด้วย

ทางด้าน นายสุเทพ โกมลภมร ผวจ. ราชบุรี กล่าวถึงการนำนกพิราบมาเลี้ยงใน จ.ราชบุรี ว่า ยังไม่ได้รับการประสานจาก กทม. แต่ฟังกระแสชาวบ้านแล้วไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะวิตกว่าจะพาเชื้อโรคร้ายต่าง ๆ มาด้วย และอาจทำให้ระบบนิเวศมีปัญหา แต่หากจะนำมาเลี้ยงไว้ที่ จ.ราชบุรี จริง ๆ คงต้องพูดคุยกันถึงหลักการและผลดีผลเสีย แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีวิธีที่ดีกว่าเอามาเลี้ยงที่นี่ เพราะที่นี่ก็มีนกพิราบมากพออยู่แล้ว

ขณะที่ นายสามารถ พิริยะปัญญาพร ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ชาวราชบุรีจำนวนมากไม่เห็นด้วยที่จะเอานกพิราบมาเลี้ยงไว้ที่นี่ เพราะกลัวจะมาสร้างความเดือดร้อน โดยเฉพาะมูลนกจะทำให้บ้านเรือนสกปรก นาข้าวอาจถูกนกกัดกิน วัดบางแห่งที่นี่ยังต้องทำตาข่ายมาปิดล้อมอุโบสถ ศาลาการเปรียญ เพื่อป้องกันนกพิราบมาเกาะอาศัยหรือทำรัง ดังนั้นตนจะแสดงความจำนงแทนชาวราชบุรี ผ่านไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าชาวราชบุรี ไม่เอานกพิราบสนามหลวง.