สาธารณสุขปากน้ำ เตือนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่มี อย. อาจทำให้เสียชีวิตได้

สาธารณสุขปากน้ำ เตือนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่มี อย. อาจทำให้เสียชีวิตได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ เตือนผู้บริโภค ใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ไม่มี อย. อาจทำให้เกิดอันตรายถึงเสียชีวิตได้ นายแพทย์วีรพล นิธิพงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ขอเตือนผู้บริโภคให้ระมัดระวังในการซื้อสินค้า อย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่มี อย. และคำโฆษณาที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ประสิทธิผลและความปลอดภัยในการบริโภค เพราะอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีการอวดอ้างสรรพคุณว่ารักษาได้สารพัดโรค อ้างว่าเป็นสารอาหารช่วยทำให้เซลล์ของร่างกายปกติมีความแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งบนขวดมีฉลากระบุแค่ยี่ห้อ คำบรรยายวิธีการรับประทานและวันผลิต ไม่มีแหล่งผลิต ไม่มีวันหมดอายุ ไม่ระบุราคา มีลักษณะเป็นผงสมุนไพรบรรจุในแคปซูล ราคาแตกต่างกันไปตามแต่ละสูตร ไม่มีวางจำหน่ายทั่วไปตามท้องตลาด แต่อาจลักลอบผลิต ซึ่งถือเป็นการกระทำที่มีเจตนาปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งผลิต หรือการจัดจำหน่ายที่แท้จริงของสินค้า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีการโฆษณา โอ้อวดสรรพคุณเกินจริงในลักษณะดังกล่าว ไม่ได้ขออนุญาตจาก อย. และไม่ได้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาสูตร ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ เพื่อประเมินความปลอดภัยในการบริโภค อีกทั้งการไม่ระบุสถานที่ผลิตในฉลาก หากเกิดอันตรายจากการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว อาจไม่สามารถเอาผิดกับผู้ผลิตได้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ จึงขอเตือนผู้บริโภคไม่ให้หลงเชื่อการโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่เข้าข่ายโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงว่าสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ ซึ่งการกระทำลักษณะดังกล่าว จะมีโทษถึงจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคให้เกิดความเข้าใจผิด ทำให้เสียเงินและเสียโอกาสในการรักษาโรคให้หาย ทั้งนี้ หากผู้บริโภคพบผลิตภัณฑ์สุขภาพต้องสงสัย หรือต้องการร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ขอให้แจ้งที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ โทร 0 2389 5980 ต่อ 109 หรือโทรสายด่วน อย. 1556 เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ที่เอาเปรียบผู้บริโภคให้ถึงที่สุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook