บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะหุ้น 04/02/53

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะหุ้น 04/02/53

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 04/02/53หลังจากขายทำกำไรไปแล้ว จากนี้ไปก็รอจังหวะตลาดปรับลง... หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปดีดตัวขึ้นได้ดีในช่วง 2 วันที่ผ่านมา เมื่อคืนนี้เริ่มกลับมาปรับตัวลงอีกครั้ง จากความกังวลต่อการยืนยันของ ปธน.สหรัฐที่จะดำเนินการปฎิรูปกฏระเบียบที่เข้มงวดขึ้นต่อตลาดวอลล์สตรีท ขณะที่บริษัทไฟเซอร์ประกาศแนวโน้มผลประกอบการที่น่าผิดหวัง รวมถึงตัวเลขดัชนีภาคบริการของสหรัฐขยายตัวน้อยกว่าคาดในเดือน ม.ค. ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์เริ่มแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตลาดหุ้น โดยตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้แม้ส่วนใหญ่จะเปิดทำการด้วยการบวกขึ้นก่อน แต่หลังจากนั้นก็เริ่มปรับพักตัวลงมาเป็นลบด้วยเช่นกัน ทำให้เรายังคงคาดว่าการดีดตัวเป็นบวกเกือบ 2% ของ SET วานนี้จะเป็นการแกว่งบวกได้เพียงระยะสั้นๆ และสุดท้ายจะกลับไปไหลลงต่อเนื่องอีกครั้ง โดยยังมีโอกาสที่ดัชนีจะไหลลงไปต่ำกว่า 680 จุดได้ในที่สุด ซึ่งในบ้านเรายังมีประเด็นการเมืองที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในช่วงครึ่งหลังของเดือน ก.พ.นี้ด้วย ดังนั้น FSS จึงยังแนะนำให้ขายทำกำไรเพื่อรอเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อใหม่ในจังหวะตลาดปรับลง โดยในจังหวะแรกของการเลือกหุ้นเข้ารับ แนะนำให้เลี่ยงไปยังหุ้นปันผลสูงไว้ก่อน เพราะเริ่มเข้าใกล้ช่วงประกาศจ่ายปันผลงวดปี 52 แล้ว ซึ่งหุ้นที่เราคาดว่าจะจ่ายปันผลสูงได้แก่ AIT, AP, ADVANC, DELTA, TRT, SPALI, GFPT, TMT, TVO เป็นต้น ประเด็นสำคัญวันนี้ ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องและมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอีก เพราะเงินยูโรอ่อนค่าลงจากความกังวลเรื่องฐานะหนี้สินของโปรตุเกสและสเปน หลังจากที่กรีซมีปัญหา และจากแนวโน้มที่ประเทศในกลุ่มยูโรโซนยังประสบปัญหา ทำให้อาจฟื้นตัวได้ช้ากว่าสหรัฐฯ ก็อาจยิ่งส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้อีก นอกจากนี้ ตัวเลขการจ้างงานที่รายงานโดยบริษัท ADP รายงานว่ามีการเลิกจ้างงาน 2.2 หมื่นตำแหน่งในเดือน ม.ค. ถือว่าน้อยลงมากและน้อยกว่าที่ตลาดคาด รวมถึง ISM ภาคบริการเดือน ม.ค. ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ Expansion คือ 50.5 ถือเป็นข่าวดีของตลาด หนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นด้วย และเช้านี้ยังแข็งค่าต่อ ตลาดวันนี้ให้ความสนใจที่การประชุมของ ECB และ BOE โดยคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม และในวันศุกร์นี้ รอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรทั่วประเทศ พร้อมอัตราการว่างงาน ราคาทองและน้ำมันร่วง ดอลลาร์ที่แข็งค่าส่งผลให้ราคาทองลดลง US$6 ส่วนราคาน้ำมันถูกซ้ำเติมด้วยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเกินคาด โดยเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล ‘กรณ์’ ส่งสัญญาณดอกเบี้ยปรับขึ้นปลายปีหากเศรษฐกิจเติบโตตามที่คาดไว้ ซึ่งฝ่ายกลยุทธ์ของเราคาดการณ์ว่า ธปท. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน 3Q10 นอกจากนี้ ธปท. ยืนยันไม่ห่วงเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ที่ขยับขึ้น 4.1% Y-Y มั่นใจยังอยู่ในกรอบ โดยระบุว่าขยับขึ้นแค่ชั่วคราว   IVL: ตลาดฯ แจ้งว่า IVL ได้ปรับโครงสร้างการถือหุ้นเสร็จแล้วและ IVL จะเริ่มซื้อขายตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. อยู่ในกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ (ราคา IPO 10.20 บาท) รวมทั้งจะนำ IVL เข้ามาคำนวณใน SET100 ตั้งแต่สิ้นวันแรกที่ซื้อขาย (มี Market cap ประมาณ 4.4 หมื่นล้านบาท) ส่วน IRP จะซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 4 ก.พ. และจะนำออกจาก SET100 ตั้งแต่สิ้นวันที่ 4 เช่นกัน เราประเมินราคาเป้าหมายของ IVL ไว้ที่ 13 - 16 บาท CEN-W2: เข้าตลาดวันนี้ CEN-W2 เป็นวอร์แรนท์ที่แจกฟรีให้ผู้ถือหุ้นเดิม 4 หุ้นได้ 1 CEN-W2 โดยมีอายุ 3 ปี (วันครบกำหนดและใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 17 ม.ค. 2556) ใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2553 ใช้สิทธิได้ทุกๆ สิ้นเดือน มี.ค. มิ.ย. ก.ย. ธ.ค. สัดส่วนการใช้สิทธิคือ 1 CEN-W2 ซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 2.20 บาท เราประเมินมูลค่า CEN-W2 ตาม Black-Scholes ได้ 0.45 บาทTechnical View : “แม้จะลุ้นขึ้นหา 710-715 จุดได้ แต่ไม่เหมาะจะตามเข้าเทรดดิ้งแล้ว แนะนำให้เน้นขาย และถ้าย้อนหลุด 698 จุดยิ่งควรขาย โดยจังหวะซื้อเพื่อเทรดดิ้งรอบใหม่คาดว่าจะอยู่ที่ 669-666 จุดเป็นอย่างน้อย...” แนวรับ    :   703-698*** , 669-666*     แนวต้าน  :   710** , 713-715***Technical Picks: TSTH (Bt 1.83 เป้าเทคนิค 1.95 cut loss ถ้าหลุด 1.78) LANNA (Bt 14.80 เป้าเทคนิค 15.50 cut loss ถ้าหลุด 14.40) KASET (Bt 6.10 เป้าเทคนิค 6.60 cut loss ถ้าหลุด 5.90)               

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook