สธ.เตรียมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางความรู้เรื่องโรคอ้วนระดับภูมิภาค

สธ.เตรียมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางความรู้เรื่องโรคอ้วนระดับภูมิภาค

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กระทรวงสาธารณสุข เตรียมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางความรู้เรื่องโรคอ้วนระดับภูมิภาค สร้างแพทย์สมัยใหม่ช่วยคนไทยห่างไกลโรคอ้วนที่เป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังที่คุกคามคนไทยอยู่ในขณะนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดประชุมวิชาการระดับนานาชาติ เรื่องการลดน้ำหนักตัวจากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดสุดท้าย "Obesity Summit 2010 : Weight Reduction from A-Z ที่บางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอทเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพ ระหว่างวันนี้ไปจนถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ โดยมีแพทย์ และนักโภชนาการจากทุกภูมิภาคทั่วโลกกว่า 400 คนเข้าร่วม เพื่อช่วยกันหาทางยกระดับ เพิ่มทักษะของแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ให้มีความรู้ในการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคอ้วนและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้มาตรฐานคลินิกลดน้ำหนักในประเทศไทยดีขึ้น พร้อมส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านวิชาการ การดูแลรักษาผู้ป่วยภาวะอ้วนและอ้วนลงพุงในระดับภูมิภาค ซึ่งในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มรณรงค์โครงการแก้ปัญหาโรคอ้วนเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาส 84 พรรษา มุ่งเน้นในการดูแลเรื่องความดันโลหิต เบาหวาน ที่จะมีผลตามมาจากโรคอ้วนด้วย หลังองค์การอนามัยโลกมีรายงานว่า โรคอ้วน กำลังเป็นสาเหตุของการป่วยโรคเรื้อรังหลายโรค อาทิ โรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนในประเทศกำลังพัฒนาถึงร้อยละ 66 ของทุกสาเหตุการเสียชีวิต และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างน่าวิตก โดยสาเหตุที่ทำให้คนอ้วน เกิดจากการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม และขาดการออกกำลังกาย โดยในปีพ.ศ. 2548 ประชากรโลก อายุ 15 ปี ขึ้นไป มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานกว่า 1,600 ล้านคน และมีผู้ใหญ่อ้วนมากถึง 400 ล้านคน ส่วนในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี พบน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ถึง 20 ล้านคน โดยในปี พ.ศ. 2558 คาดว่าทั่วโลกจะมีผู้ใหญ่น้ำหนักตัวเกินมาตรฐานประมาณ 2,300 ล้านคน และมีคนอ้วนประมาณ 700 ล้านคน สำหรับประเทศไทยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาพบว่า ในกลุ่มอายุ 20-29 ปี มีภาวะโรคอ้วนเพิ่มเกือบ 7 เท่าตัว จากร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 21 ในกลุ่มอายุ 40-49 ปี อ้วนเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook