อ้างเป็นผู้กำกับซ้อมลูกลีน่าจัง การุณโทรเคลียร์

อ้างเป็นผู้กำกับซ้อมลูกลีน่าจัง การุณโทรเคลียร์

อ้างเป็นผู้กำกับซ้อมลูกลีน่าจัง การุณโทรเคลียร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มใหญ่อ้างเป็นผู้กำกับ ซ้อมลูกชาย ลีน่าจัง คาร้านแมคโดนัลด์ ตร.สอบปากคำชายลึกลับอ้าง ส.ส.เก่ง การุณ ขอเคลียร์ แม่เหยื่อกำปั้นไม่ยอมความ ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ จ.ส.ต.มนัส จีรังกูล ผบ.หมู่ จร.สน.สามเสน รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทภายในร้านแมคโดนัลด์ ตรงข้ามโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ถนนสามเสน แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.สามเสน อีก 1 นาย

ที่เกิดเหตุพบนายชัยรัตน์ เชิดชูสกุลชัย อายุ 43 ปี และนายวิชชุ แสงพรศรีอรุณ อายุ 27 ปี ลูกชายนางลีนา จังจรรจา หรือลีน่าจัง อดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในสภาพใบหน้าด้านซ้ายมีรอยถูกทำร้ายเป็นผื่นแดง ซึ่งทั้งคู่ยืนโต้เถียงกันอยู่หน้าร้านดังกล่าว จึงเชิญมาให้ ร.ต.ท.สมชาย เชาวนะ พนักงานสอบสวน สน.สามเสน สอบปากคำ

นายวิชชุ ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ได้นำแผ่นการ์ดยี่ห้อยูกิโอ ไปจำหน่ายที่ร้านแมคโดนัลด์ มีนักเรียนสนใจมุงดู ระหว่างนั้นมีเด็กคนหนึ่งมาบอกว่า "พ่อต้องการพบ" จึงไปที่ประตูหน้าร้าน เจอกับนายชัยรัตน์ พร้อมถามว่า "มาขายของอะไรให้ลูก แล้วลูกได้สั่งอะไรไว้หรือเปล่า" ตนตอบว่า "ลูกพี่ไม่ได้สั่งอะไรไว้นะครับ" นายชัยรัตน์บอกว่า "เอาเบอร์โทรศัพท์มึงมา" ตนถามกลับว่า "พี่จะขอไปทำอะไรครับ" นายชัยรัตน์บอกว่า "งั้นมึงเอาบัตรประชาชนของมึงมา" ตนตอบว่า "ผมไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้พี่นะครับ" แล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะภายในร้าน

จากนั้นนายชัยรัตน์เดินตามมาใช้มือจับไหล่กระชากอย่างแรง พร้อมกับบอกว่า "มึงกวนตีนกูเหรอ กูไม่มีสิทธิขอเบอร์โทรศัพท์กับบัตรประชาชนมึงใช่ไหม" ก่อนที่จะใช้มือขวาตบหน้าด้านซ้ายของตนอย่างแรงจนล้มลง นายชัยรัตน์กระชากคอเสื้อตนดึงขึ้น แล้วใช้มือตบที่หน้าอีก 3 ครั้ง

"ผมถามว่า ทำไมพี่ต้องทำรุนแรงขนาดนี้ครับ แต่นายชัยรัตน์ไม่ยอมฟังเสียง คว้าถาดพลาสติกใส่อาหารฟาดเข้าที่ศีรษะผมอีก 2 ครั้ง แล้วบีบต้นคอพาออกไปหน้าร้าน ผลักผมติดกับราวเหล็กอย่างแรง พร้อมกับพูดว่า เดี๋ยวกูจะเรียกตำรวจมา หลังจากนั้นไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน 2 นายเข้ามาที่เกิดเหตุ" นายวิชชุกล่าว

นายวิชชุ กล่าวอีกว่า เมื่อตำรวจมาถึงนายชัยรัตน์บอกตำรวจว่า "จับมันไปเลยมันมาหลอกขายของให้เด็ก ผมจึงโต้แย้งไปว่า ผมเป็นผู้เสียหาย เพราะผมถูกทำร้าย" จากนั้นจึงพยายามโทรศัพท์ไปหาแม่ ระหว่างนั้นนายชัยรัตน์ได้แสดงบัตร มีรูปติดอยู่และมีตราครุฑด้วย นายชัยรัตน์บอกว่า "มึงดูตำแหน่งกูก่อน" ตนพยายามเพ่งดูให้ชัด

ทันใดนั้น นายชัยรัตน์กลับพลิกบัตรด้านหลังให้ดูแทนพร้อมกับบอกว่า "กูเป็นผู้กำกับ รุ่น 38 มึงจะโทรไปหาใครก็โทรไป เพราะไม่มีใครใหญ่กว่ากูแน่นอน เพราะกูคือผู้กำกับรุ่น 38"

"ผมสังเกตเห็นตำรวจ 2 นาย ที่มาระงับเหตุเดินจากไป ภายหลังนายชัยรัตน์อ้างตัวเป็นผู้กำกับรุ่น 38 ก่อนที่ตำรวจทั้ง 2 นายจะกลับมาพร้อมกับตำรวจอีกคนหนึ่ง แล้วดูกระเป๋าผมจึงหยิบให้ดูและบอกว่า ขายของอย่างถูกต้อง เป็นตัวแทนจำหน่ายของลิขสิทธิ์ ผมย้อนถามว่า ผมทำอะไรผิด เขาเป็นคนทำร้ายร่างกาย ตำรวจกลับบอกว่า ไม่เห็นเหตุการณ์" นายวิชชุกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ ร.ต.ท.สมชาย กำลังสอบปากคำนายวิชชุ ปรากฏว่ามีโทรศัพท์มาที่โต๊ะทำงานของ ร.ต.ท.สมชาย อ้างตัวว่าชื่อ นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ว่า จะขอเจรจาเรื่องคดีความ แต่ ร.ต.ท.สมชาย ส่งโทรศัพท์ให้นางลีนาเป็นผู้เจรจาแทน โดยผู้ที่อ้างตัวว่าชื่อนายการุณขอไม่ให้ดำเนินคดีกับนายชัยรัตน์ เนื่องจากเป็นคนรู้จักกัน แต่นางลีนาปฏิเสธ พร้อมยืนยันที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และให้นายชัยรัตน์มาขอโทษลูกชายต่อหน้าสื่อมวลชนก่อนที่จะวางสาย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ระหว่างที่พนักงานสอบสวนแยกสอบปากคำคู่กรณีนั้น นายชัยรัตน์ขอตัวกลับไปส่งลูกที่บ้าน จากนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย ปล่อยให้นางลีนากับลูกชายให้ปากคำเพียงฝ่ายเดียว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook