การเคหะแห่งชาติ กำหนดทิศทาง ปี 53 มุ่งเน้นพัฒนาชุมชนเก่าแก่

การเคหะแห่งชาติ กำหนดทิศทาง ปี 2553 มุ่งเน้นพัฒนาชุมชนเก่าแก่พร้อมทั้งสนับสนุนแหล่งที่อยู่อาศัย ผู้ที่มีรายได้น้อยและปานกลางควบคู่กัน นายเรืองยุทธ์ ตีระวนิช รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการพัฒนาที่อยู่อาศัย การเคหะแห่งชาติ กล่าวภายหลังการเสวนา เรื่องเล่าที่เราอยากบอก เรื่องจากเพื่อนภายนอกที่เราอยากฟัง เรื่องความหวังที่เราอยากเห็น ว่า ที่ผ่านมาการเคหะแห่งชาติ ไม่เป็นที่รู้จักมากนักในสังคม เรื่องการพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งในปี 2553 การเคหะได้มีโครงการฟื้นฟูชุมชน ในเชิงที่จะให้ชุมชนเก่าแก่กลับกลายมาเป็นที่อยู่อาศัย เนื่องจากปัจจุบันที่อยู่อาศัยในชุมชนเก่าแก่จะเป็นที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุเป็นส่วนมาก ซึ่งหนุ่มสาวในชุมชน มักจะออกไปหางานทำในเมืองจึงทำให้ชุมชนถูกทิ้งร้าง เป็นสังคมที่ทรุดโทรม ทางเคหะแห่งชาติ จึงพยายามจะฟื้นวิถีชีวิตเหล่านี้เพื่อให้ผู้ที่ไปทำงานในเมืองกลับมาอยู่ที่บ้าน และสามารถมีเศรษฐกิจ สังคมที่ดีในชุมชนได้ โดยในด้านการฟื้นฟู ได้มีการสำรวจทั่วทั้งประเทศเกือบ 200 แห่ง ซึ่งในประเทศไทยมีชุมชนเหล่านี้จำนวนมาก ทั้งนี้ด้านการดำเนินงานการเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการในโครงการเสริม สร้าง สมรรถนะ ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาที่อยู่อาศัย ในระดับเมืองกับการแก้ไขปัญหา และป้องกันชุมชนแออัด โดยมีการดำเนินการแล้วในบางจังหวัด เช่น จังหวัดพิจิตร จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งพบว่าพื้นที่เหล่านี้มีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ ทั้งนี้ในปัจจุบันชุมชนเก่าแก่เหล่านี้มีอยู่มากมายทั่วทั้งประเทศ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการพัฒนาที่อยู่อาศัย การเคหะแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ทางเคหะแห่งชาติอาจจะลดการสร้างลง แต่จะเน้นเรื่องของกระบวนการดูแลท้องถิ่นว่าจะสามารถบูรณาการชุมชนได้เองหรือไม่ แต่การเคหะคงไม่ทิ้งในเรื่องของการสร้างที่อยู่อาศัย เนื่องจากยังมีประชาชนบางส่วน ยังต้องการที่อยู่อาศัย ที่เป็นสวัสดิการของรัฐ แต่การเคหะจะดูแลให้เหมาะสมกับความต้องการของประชนที่แท้จริงก่อน แล้วจึงจัดทำเป็นโครงการ โดยจุดประสงค์หลักคือการตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้ที่มีรายได้น้อย และปานกลาง ให้มีที่อยู่อาศัยที่มีมาตรฐาน เป็นของตนเอง