ชี้ช่องว่างกฎหมายเป็นเหตุรุกโบราณสถาน

ชี้ช่องว่างกฎหมายเป็นเหตุรุกโบราณสถาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับมอบหมายจากที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการและควบคุมการดำเนินโครงการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ให้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาปัญหาของนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาทั้งหมดนั้น ขณะนี้กรมศิลปากรได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการตลอดจนหน่วยงานท้องถิ่นจัดทำแผนงานแก้ไขปัญหาของตนเองเสนอมายังกรมศิลปากรแล้ว โดยปัญหาสำคัญที่พบ คือ การปลูกสร้างอาคารรุกล้ำแหล่งโบราณสถานซึ่งส่งผลต่อสภาพภูมิทัศน์และอาจถูกถอดจากการเป็นมรดกโลก ทั้งนี้เป็นเพราะในพื้นที่โบราณสถานจะมีกฎหมายของหลายหน่วยงานเกี่ยวเนื่องกันอยู่ อาทิ กฎหมายโบราณสถานของกรมศิลปากร และเทศบัญญัติของหน่วยงานปกครองท้องถิ่น ฯลฯ ซึ่งเมื่อมีการตรวจสอบก็มักพบว่าการก่อสร้างอาคารในพื้นที่มรดกโลกดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น

แนวทางแก้ปัญหาเพื่อลดช่องว่างของกฎหมายจะต้องยึดข้อกำหนดตามแผนแม่บทโครงการอนุรักษ์และพัฒนานครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นหลัก ซึ่งจะได้แจ้งต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาและขอให้มีมติเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี ก่อนออกเป็นคำสั่งให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องรับทราบและปฏิบัติ นอกจากนี้จะมีการสรุปขั้นตอนการดำเนินงานปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ และเสนอรายละเอียดการขอเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2554 ต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ ในวันที่ 10 ก.พ.นี้ด้วย นายเกรียงไกร กล่าว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook