งานวิจัยเผยเด็กแอดมิชชั่นแพ้รับตรง

รศ.ดร.เสริมเกียรติ จอมจันทร์ยอง คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ในฐานะประธานที่ประชุมสภาคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย เปิดเผยความคืบหน้าการทำวิจัยเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาที่เข้าศึกษาต่อโดยผ่านระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อ ในสถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบกลางหรือแอดมิชชั่น กับวิธีรับตรง เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนค่าน้ำหนัก และองค์ประกอบที่เหมาะสมสำหรับคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่จะใช้แอดมิชชั่นในปี 2555 ว่า การวิจัยคืบหน้าไป 70% แล้ว คาดว่าภายในเดือนมีนาคมจะแล้วเสร็จ

รศ.ดร.เสริมเกียรติ กล่าวต่อไปว่า การแอดมิชชั่นของณะวิศวกรรมศาสตร์ปี 2555 จะมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน เพราะจากผลวิจัยในเบื้องต้นของคณะก็ชี้ชัดว่าผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาที่ผ่านแอดมิชชั่นมีคุณภาพด้อยกว่าเด็กที่ผ่านเข้ามาด้วยวิธีรับตรง แต่การที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ยังต้องทำวิจัยต่อ เพราะต้องการรวบรวมข้อมูลของทุกมหาวิทยาลัยเพื่อให้ผลวิจัยมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด

ด้าน ดร.ปกรณ์ วัฒนจตุพร รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอม เกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า จากผลการเปรียบเทียบของ สจล.พบว่าเด็กรับตรงมีคุณภาพมากกว่าเด็กที่เข้ามาด้วยระบบแอดมิชชั่น โดยดูได้จากผลสัมฤทธิ์ารเรียนที่เด็กแอดมิชชั่นมีผลการเรียนเฉลี่ย 2.3 ขณะที่เด็กผ่านระบบรับตรงอยู่ที่ 2.6 อีกทั้งเมื่อเปรียบเทียบข้อสอบรับตรงกับแอดมิชชั่นพบว่าข้อสอบรับตรงจะวัดพื้นฐานทางวิศวะของเด็ก ส่วนข้อสอบแอดมิชชั่นวัดความรู้กว้าง ๆ ของเด็ก อีกทั้งเมื่อกลับไปดูเกรดเฉลี่ยของเด็กในช่วงเรียนโรงเรียนมัธยมพบว่าจะได้เกรดสูงเฉลี่ย 3.00 และบางคนได้ถึง 4.00 แต่เมื่อมาเรียนมหาวิทยาลัยกลับมีเกรดเฉลี่ยตกลงมาก แสดงว่ามีปัญหาการปล่อยเกรดในโรงเรียนที่ต้องแก้ไขด่วน.