บุญจงชี้หากเลิกถนนปลอดฝุ่นต้องมีคำตอบ

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. เกี่ยวกับ กรณีที่รัฐบาล เริ่มมีความเห็นค้านต่อโครงการใหญ่ๆ จากพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค รวมทั้งพรรคภูมิใจไทย ที่ รองนายกรัฐมนตรี ไตรรงค์ สุวรรณคีรีออกมาแสดงความเห็นค้าน ต่อโครงการถนนปลอดฝุ่น โดย นายบุญจง กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบว่า ความคิดดังกล่าว เป็นความคิดส่วนตัว หรือ ความคิดจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่ตนเองเชื่อว่า ความเป็นรัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลของประชาชนทุกจังหวัดไม่ใช่มุ่งหน้าจะทำเพียงแต่รถไฟฟ้าหลากสี เท่านั้น


อย่างไรก็ตาม นายบุญจง ยืนยันว่า โครงการถนนปลอดฝุ่น นั้น ถือเป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งหากว่า มีการพยายามระงับโครงการดังกล่าวจริง พรรคภูมิใจไทยคงต้องต่อสู้ และนำเสนอให้เห็นถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พรรคภูมิใจไทยค้านโครงการอื่นๆ แต่ถ้ารัฐบาลจะยับยั้งโครงการจริงๆ ก็ต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนให้ด้วย เช่นกัน ส่วนภาพที่ออกมานี้ จะส่งผลเรื่องการทำงานร่วมกันกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะในรัฐสภาเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ตนเองเชื่อว่า ไม่น่าเกี่ยวกัน เพราะเรื่องได้เข้าสู่สภาไปแล้ว ขั้นตอนก็ต้องเป็นไปตามระเบียบ และอยู่ที่ประธานในที่ประชุมมากกว่า

ด้าน นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงข่าวที่ระบุว่า ตนจะตัดงบประมาณ ในโครงการถนนไร้ฝุ่นของกระทรวงคมนาคม โดยยืนยันว่า ตนไม่ได้ตัดงบประมาณที่ใช้ในโครงการถนนไร้ฝุ่นแต่อย่างใด เพราะโครงการดังกล่าวนั้น เป็นโครงการที่ผ่านการอนุมัติตามงบประมาณ ตามพระราชกำหนดกู้เงินของรัฐบาลมาแล้ว ซึ่งตนก็เห็นว่า โครงการดังงกล่าวนั้น เป็นโครงการที่ดีและตนก็พร้อมที่จะสนับสนุน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามนั้นเห็นว่า ขณะนี้ เศรษฐกิจของประเทศกำลังดีขึ้น ซึ่งหาจะทำโครงการใด ที่ต้องใช้เงินกู้ในพระราชบัญญัติกู้เงิน 400,000 ล้านบาท ที่ยังค้างอยู่ในสภานั้น ตนไม่เห็นด้วย

ขณะที่ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม ระบุ โครงการถนนไร้ฝุ่นนั้น เป็นโครงการที่สำคัญในการพัฒนาเมืองชนบท โดยเห็นว่า จะไม่มีการตัดงบประมาณในโครงการนี้ ทั้งนี้ ตนจะชี้แจงให้ นายไตรรงค์ทราบว่า โครงการถนนไร้ฝุ่น ไม่ใช้เพียงการลาดยางในพื้นที่ชนบท เท่านั้น อาจเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายประชาชนและสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากจะมีการตัดงบประมาณจริง ก็ต้องเป็นการตัดงบประมาณที่มีเหตุผล