มทภ.4 และขรก.ชั้นผู้ใหญ่ เข้าร่วมงานพิธีฝังศพพี่ชาย ส.ส.อารีเพ็ญ ที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ

มทภ.4 และขรก.ชั้นผู้ใหญ่ เข้าร่วมงานพิธีฝังศพพี่ชาย ส.ส.อารีเพ็ญ ที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แม่ทัพภาคที่ 4 และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เดินทางเข้าร่วมในการประกอบพิธีฝังศพพี่ชาย ส.ส.อารีเพ็ญ ที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ หลังหลบหนีไปตั้งรกรากในประเทศมาเลเซีย จากข้อหาแกนนำป่วนใต้ (11 ม.ค.53) ที่สุสานบ้านต้นไม้สูง (กูโบร์) ม.2 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยนายประมุข ละมุล รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส เข้าร่วมการประกอบพิธีฝังศพ นายรอมลี อุตรสินธุ์ อายุ 61 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ที่โรงพยาบาลกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2553 ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัวและญาติที่มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก สำหรับนายรอมลี อุตรสินธุ์ เป็นพี่ชายของนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคมาตุภูมิ จ.นราธิวาส และนายเฟาซี อุตรสินธุ์ นายกเทศมนตรีตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี มีพี่น้องที่อยู่ในประเทศไทยและมาเลเซียรวมกว่า 10 คน มีบุตรชาย 3 คน และบุตรสาว 1 คน จบการศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ จากเมืองจากาต้า ประเทศอินโดนีเซีย มีอาชีพเป็นเกษตรกรทำสวนผลไม้ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี ต่อมาเมื่อถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ตั้งข้อหาว่าเป็นแกนนำคนสำคัญเครือข่ายป่วนใต้ และมีการออกหมายจับ โดยมีรางวัลนำจับสูงถึง 2 ล้านบาท จึงได้หลบหนีไปอยู่ในประเทศมาเลเซีย และได้ประกอบกิจการค้าไม้ระหว่างประเทศ จากนั้นก็ไม่ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยจนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุด ด้านนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคมาตุภูมิ จ.นราธิวาส ยืนยันว่า พี่ชายเป็นผู้บริสุทธิ์ ที่ผ่านมาได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้พี่ชายกลับมาสู่คดี แต่เนื่องจากนายรอมลีไม่เชื่อมั่นว่าภาครัฐจะสามารถคุ้มครองชีวิตให้ปลอดภัยได้ แม้ว่าเมื่อคดีถึงที่สุดจะแพ้หรือชนะก็ตาม นอกจากนี้พี่ชายของตนเองก็ยืนยันถึงจุดมุ่งหมายเดิม ที่จะตั้งรกรากในประเทศมาเลเซีย และไม่คิดจะกลับมาประเทศไทยอีก ส่วนข้อหาร้ายแรงที่ถูกเจ้าหน้าที่กล่าวหานั้น เชื่อมั่นว่าสังคมจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook