สรุปข่าวภาค 07.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553

สรุปข่าวภาค 07.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายกรัฐมนตรีขอให้รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสอบสวนการซื้อขายตำแหน่งนายตำรวจอย่างจริงจัง และพร้อมพิจารณายกเลิกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายเป็นกรณี หากไม่มีความชอบธรรม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการสอบสวนการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เสนอให้แก้ไขคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าวแล้ว โดยตนเองได้ขอให้นำข้อมูลจากการสอบสวนไปประกอบด้วย และให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนการเรียกรับผลประโยชน์ โดยให้เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)เป็นประธาน พร้อมมอบหมายให้รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติดำเนินการและเสนอกลับมาโดยเร็วที่สุด และยืนยันว่า ไม่มีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 แต่ในภาคอื่นต้องรอผลการสอบสวนในสัปดาห์หน้า ส่วนจะมีการรื้อคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายทั้งหมดหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากพบความไม่เหมาะสมจะต้องพิจารณาเป็นรายกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีคำสั่งจากสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีให้นายตำรวจ 3 นายที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง จากเหตุสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 กลับเข้ารับราชการ โดยยืนยันว่าไม่มีการออกคำสั่งแต่อย่างใด พร้อมระบุว่าจะทำทุกอย่างตามกฎหมาย ส่วนการจับกุมคนร้ายปาสิ่งปฏิกูลเข้ามาบริเวณบ้านพักนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงจับไม่ผิดตัวแน่นอน เพราะมีภาพยืนยันอย่างชัดเจน ส่วนจะมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้นตนเองไม่ทราบ และจากกรณีที่ พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล แสดงความเห็นว่า อาจมีคนเสื้อแดงไปที่บ้านผู้นำทางการเมืองในช่วงนี้ ทำให้ตำรวจวางมาตรการดูแลอย่างเข้มงวด พลตำรวจตรีอนุชัย เล็กบำรุง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยว่า ได้ปรับเพิ่มกำลังการรักษาความปลอดภัยบริเวณบ้านพักนายกรัฐมนตรี โดยสนธิกำลังจากหลายฝ่าย ประกอบด้วย ตำรวจสันติบาล สารวัตรทหาร ตำรวจนอกเครื่องแบบ รวมถึงประสานข้อมูลกับคณะติดตามนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังกรุงเทพมหานครให้ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวด้วยว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญอื่นๆ นั้น พลตำรวจโทสัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่ นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีไม่รู้สึกหวั่นไหวกับการข่มขู่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ระบุ หากภาครัฐใช้จ่ายลงทุนตามโครงการไทยเข้มแข็งได้ร้อยละ 80 ของวงเงินงบประมาณ เศรษฐกิจไทยปีนี้จะกลับมาขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้ว่า จะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ที่ร้อยละ 3.5 โดยมีปัจจัยจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว ทำให้การส่งออกที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยกลับมาขยายตัวได้ดีอีกครั้ง ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นไปอย่างเปราะบางและมีความผันผวน จึงต้องจับตาทิศทางของอัตราเงินเฟ้อที่จะเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว รวมถึงการแข่งขันทางเศรษฐกิจและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย นายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ยังคงส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนของภาคเอกชน และกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยประมาณร้อยละ 0.2 0.5 แต่หากรัฐบาลสร้างความชัดเจนของกรอบหลักเกณฑ์ของการลงทุนกับสิ่งแวดล้อมได้เร็ว ก็สามารถบรรเทาปัญหานี้ลงได้ ขณะที่ปัญหาการเมืองภายในประเทศในช่วงระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่องเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลสามารถเบิกจ่ายงบประมาณตามโครงการไทยเข้มแข็งได้ร้อยละ 80 ของวงเงินงบประมาณ อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย หรือ จีดีพี จะกลับมาขยายตัวตามศักยภาพได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่าจะมีการปรับขึ้นร้อยละ 0.25 - 0.50 ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คณะกรรมการบริหารโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน ตั้งคณะอนุกรรมการติดตามโครงการชุมชนพอเพียง ทั้งที่จัดซื้อเครื่องจักรไปแล้วและโครงการที่เสนอมาใหม่ คาดว่าจะได้รับเงินภายในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริต จินตนา เครือสังข์ รายงานค่ะ นายมีชัย วีระไวทยะ ประธานกรรมการบริหารโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน หรือ โครงการชุมชนพอเพียง เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการบริหารโครงการชุมชนพอเพียง ได้เปิดโอกาสให้ชุมชนทั่วประเทศจัดทำประชาคมครั้งใหญ่เพื่อเสนอของบประมาณไปบริหารโครงการที่คิดว่าเป็นประโยชน์ก่อให้เกิดรายได้ต่อคนในชุมชนไปแล้วเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา คาดว่าจะพิจารณาอนุมัติงบประมาณให้กับโครงการที่เข้าหลักปรัชญาได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ไม่มีปัญหาการทุจริตเหมือนที่ผ่านมา จะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อทำหน้าที่ลงไปติดตามความคืบหน้าและประเมินผลของโครงการ ทั้งที่ได้จัดซื้อเครื่องมือเครื่องจักรไปแล้วก่อนหน้านี้ และตรวจสอบการบริหารงานในโครงการใหม่ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประธานกรรมการบริหารโครงการชุมชนพอเพียง กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ จะลงพื้นที่ติดตาม สอบถามความคิดเห็นและความพอใจของชุมชน ตลอดจนประเมินถึงภาพรวมการเข้ามามีส่วนร่วมของชุมชนทั่วประเทศ เชื่อว่า จะลดปัญหาการทุจริตได้ และเมื่อค่ำวานนี้ รัฐบาลไทยจัดงานเลี้ยงต้อนรับนาย หลี่ ฮง เฟิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะนักแสดงและสื่อมวลชนที่เดินทางเข้ามาร่วมงานเทศกาลตรุษจีนในประเทศไทย เนื่องในโอกาสการฉลองการสถาปนาทางการทูตระหว่างไทย - จีน ครบรอบ 35 ปี นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จีนได้ส่งคณะนักแสดงทางวัฒนธรรม 180 คนจาก 10 มณฑล มาร่วมจัดแสดงทางวัฒนธรรมในเทศกาลตรุษจีนตามจังหวัดต่างๆ ของไทยเป็นปีแรก คาดว่าการจัดงานร่วมกันครั้งนี้จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น สำหรับการแสดงทั้ง 17 วัน จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศและส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจีนเป็นนักท่องเที่ยวหลักของไทย และในวันนี้นักแสดงทั้งหมดจะร่วมการแสดงในงานตรุษจีน ไชน่าทาวน์ 2553 ที่ถนนเยาวราชด้วย ทางด้านนายหลี่ ฮง เฟิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า การจัดงานร่วมกันจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและจีนให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเชื่อว่าชาวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยไม่ได้รู้สึกว่าห่างไกลจากบ้านของตนเองเลย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเรียกร้องทุกฝ่ายช่วยกันลบคำว่าวันเสียตัวแห่งชาติในวันวาเลนไทน์ พร้อมขอให้ดาราและนักแสดงเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชน นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า วันวาเลนไทน์เป็นวัฒนธรรมของชาวตะวันตกที่สังคมไทยรับมาแต่ขัดกับจารีต วัฒนธรรมและประเพณี เพราะหญิงไทยควรมีความรักนวลสงวนตัว สำหรับคำพูดในหมู่เยาวชนที่ว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันเสียตัวแห่งชาตินั้น ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันลบคำนี้ไปจากสังคมไทย แต่ควรอธิบายคำว่าความรักในรูปแบบของคนไทยที่เป็นความรักแบบวิถีไทยคือความรักที่สร้างสรรค์และเสียสละ สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาคือ การสนับสนุนสื่อสีขาว ทั้งร้านเกม-อินเทอร์เน็ต รายการโทรทัศน์ รวมทั้งนักแสดง ดารา ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชน เพื่อให้เยาวชนอยู่ภายใต้กรอบจารีตประเพณีที่ดีงาม ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติสำรวจพบพฤติกรรมวัยรุ่นเรื่องเพศสัมพันธ์อย่างไม่ถูกต้องยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะช่วงวันแห่งความรักที่วัยหนุ่มสาวส่วนใหญ่ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่หน่วยงานต่าง ๆ ต้องเร่งสร้างความเข้าใจ นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ หรือ สสช. เปิดเผยข้อมูลสถิติจากการสำรวจที่น่าสนใจเกี่ยวกับสังคมไทยในปัจจุบัน โดยพบว่า ขณะนี้ 1 ใน 4 ของคนไทยที่อายุ 13 ปีขึ้นไป หรือร้อยละ 26.8 ยอมรับการอยู่ด้วยกันโดยไม่แต่งงาน ซึ่งในอดีตยังไม่เป็นที่ยอมรับ และร้อยละ 23.7 ยอมรับการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานของชาย ขณะที่ร้อยละ 19 ยอมรับการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงานของหญิง นอกจากนี้ยังพบว่า วัยรุ่นอายุ 13-24 ปี ยังชอบเที่ยวกลางคืน ถึงร้อยละ 28.0 และที่นิยมเที่ยวผับ/สถานเริงรมย์ มีถึงร้อยละ 15.2 ในขณะที่สังคมปัจจุบันมีความห่วงใยเยาวชนที่หันมาดื่มสุรากันมากขึ้น และทุกคนยังเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการป้องกันโรคเอดส์ เนื่องจากพบว่า มีเพียงร้อยละ 68.9 เท่านั้น ที่เข้าใจถูกต้องว่า คนที่สุขภาพดีก็มีโอกาสเป็นเอดส์ได้ ส่วนความเข้าใจของวัยรุ่นที่ยังไม่ถูกต้องนักในเรื่องดังกล่าวอาจจะนำไปสู่การละเลยที่จะป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคร้าย โดยเฉพาะเพศหญิงที่อ่อนแอจะเสี่ยงมากกว่าเพศชาย ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวว่า ในยุคเสรีที่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างไร้ขอบเขต ทำให้วัฒนธรรมตะวันตกเข้ามามีอิทธิพลกับวัยรุ่นไทยอย่างมาก วัยรุ่นจึงกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ตกเป็นเหยื่อของปัญหาสังคม ดังนั้นในโอกาสวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรักวันนี้ (14 ก.พ.53) หน่วยงานต่าง ๆ จึงรณรงค์สร้างความเข้าใจกับวัยรุ่นกลุ่มเสี่ยง ให้ตระหนักถึงการปฏิบัติตัวและใช้ชีวิตในวันวาเลนไทน์ให้ถูกต้องปลอดภัย ทางด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งเพิ่มกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ดูแลความปลอดภัยประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีนและวันวาเลนไทน์อย่างเต็มที่ พลตำรวจโท พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ (14 ก.พ. ) เป็นวันตรุษจีนและวันวาเลนไทน์ ตามประเพณีของชาวไทยเชื้อสายจีนจะมีการเดินทางไปเยี่ยมญาติ หรือท่องเที่ยวจำนวนมาก ขณะที่วันเลนไทน์มีการจัดงานรื่นเริงตามสถานบันเทิงและโรงแรมต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเพิ่มความเข้มงวดรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรเป็นพิเศษ โดยสั่งเพิ่มการตั้งด่านตรวจค้น รวมทั้งกำลังสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ออกตรวจตราด้วยความถี่มากกว่าปกติ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ตามเส้นทางเปลี่ยวและพื้นที่ล่อแหลม เฝ้าระวังกลุ่มคนร้ายฉวยโอกาสประทุษร้ายต่อทรัพย์ ตลอดจนคดีอาชญากรรมเกี่ยวกับชีวิต ร่างกายและเพศ นอกจากนี้ ยังประสานผู้ประกอบการสถานบริการ และโรงแรมช่วยเฝ้าระวัง หากพบเด็กอายุต่ำกว่ากำหนดเข้าไปใช้บริการ หรือมีลักษณะถูกล่อลวงให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ทางด้าน พลตำรวจตรีวิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 คาดว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีน จะมีผู้เดินทางเข้า-ออกประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 60,000 คน จึงสั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ประจำช่องตรวจหนังสือเดินทางให้เพียงพอ และสอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสารในแต่ละช่วงเวลา รวมทั้งจัดเวรยามให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับภาวะเศรษฐกิจช่วงวันตรุษจีนและวันวาเลนไทน์จะเป็นไปในทิศทางใด ติดตามรายละเอียดจากการสัมภาษณ์สด ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในข่าวช่วง 07.30 น. สวนดุสิตโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจปัญหาอากาศเป็นพิษ ขาดพื้นที่สีเขียว ขาดพื้นที่สาธารณะและพักผ่อน เป็นปัญหาสำคัญของชุมชน สวนดุสิตโพลล์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ เรื่อง คนไทยจะร่วมกันสร้างเมืองน่าอยู่ได้อย่างไร พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อเมืองที่อาศัยอยู่ในขณะนี้ในระดับปานกลาง และปัญหาสำคัญที่พบ คือ อากาศเป็นพิษ ขาดพื้นที่สีเขียว ขาดพื้นที่สาธารณะและพักผ่อน ซึ่งสาเหตุของปัญหาเกิดจากการบังคับใช้กฎหมายไม่เด็ดขาด ผลสำรวจยังพบว่า ประชาชนร้อยละ 67.10 ต้องการเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับการขอความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมของเมือง ขณะที่ร้อยละ 43.53 เห็นว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นหน้าที่ของทุกคน วันนี้ (14 ก.พ.) โครงการทันตกรรมเคลื่อนที่เพื่อประชาชนด้อยโอกาสในเขตท้องถิ่นทุรกันดาร จะออกให้บริการประชาชนในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ ที่โรงเรียนปางหินฝน ตำบลปางหินฝน อำเภอแม่แจ่ม จึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวไปรับบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook