เสริมกำลังเข้มสถานที่-บุคคลสำคัญป้องกันเกิดเหตุซ้ำรอย

เสริมกำลังเข้มสถานที่-บุคคลสำคัญป้องกันเกิดเหตุซ้ำรอย

เสริมกำลังเข้มสถานที่-บุคคลสำคัญป้องกันเกิดเหตุซ้ำรอย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจเสริมกำลังเข้มสถานที่และบุคคลสำคัญ ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยที่พณิชยการพระนครและศาลฎีกา ส่วนความคืบหน้าคดีคาดว่า ภายใน 2 วันนี้ จะชัดเจนขึ้น ซึ่งล่าสุด ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เรียกประชุมด่วนชุดสืบสวน

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตพระนคร และลอบวางระเบิดศาลฎีกา ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าทั้ง 2 เหตุการณ์ จะเป็นฝีมือกลุ่มเดียวกันหรือไม่ โดยตั้งข้อสังเกตว่าระยะเวลาเกิดเหตุใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม ได้ตั้งชุดสืบสวนและสอบสวน ขึ้นมา 2 ชุด โดยให้รองผู้บังคับการนครบาล 1 เป็นหัวหน้าทีม เพื่อเร่งคลี่คลายคดี หลังสอบปากคำพยานไปแล้ว รวม 9 ปาก พร้อมเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสและบุคคลต้องสงสัย คาดไม่เกิน 1 - 2 วันนี้ น่าจะรู้กลุ่มผู้ลงมือและสาเหตุ

ส่วนการรักษาความปลอดภัยสั่งเพิ่มความเข้มขึ้นเป็น 2 เท่า เน้นช่วงเวลา 19.00 - 06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยเพิ่มกำลังสายตรวจชุดปะฉะดะ ตระเวนตรวจทุกพื้นที่นครบาล 1 อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน เสริมตำรวจนอกเครื่องแบบประมาณ 80 นาย ซุ่มตามจุดเสี่ยง ส่วนชุดปราบจลาจลจะเข้าประจำการตามสถานที่สำคัญและบุคคลสำคัญทางการเมือง

ส่วนบรรยากาศที่ศาลฎีกา มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่คุมเข้มรักษาความปลอดภัยทั่วพื้นที่ ผลัดละ 35 คน จากเดิม 29 คน และให้เดินตรวจสอบบริเวณสำคัญทุก 30 นาที ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ประจำประตูทางเข้า-ออก ทั้งหมด 5 ประตู ประตูละ 4 นาย พร้อมตำรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 อีก 1 นาย เน้นตรวจสอบวัตถุระเบิดและวัตถุต้องสงสัยในรถที่ผ่านเข้า-ออกศาล สำหรับประตูด้านหลัง ฝั่งที่ติดกับคลองหลอด อนุญาตให้รถผ่านเข้าได้อย่างเดียวและให้ไปออกที่ประตูหน้าแทน

ทั้งนี้ ในวันที่ 25 - 26 กุมภาพันธ์ ศาลฎีกาจะขอกำลังตำรวจและทหารมาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัย และเสริมกำลัง รปภ. ของศาลเอง ด้วยการให้ผลัดกลางคืนมาทำงานเสริมผลัดกลางวัน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องประกาศใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราช อาณาจักร หรือบานปลายเหมือนช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว ทั้งนี้ หน่วยงานด้านความมั่นคงและสำนักข่าวกรองแห่งชาติกำลังรวบรวมข้อมูลในภาพรวม ของเหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อดูแลบ้านเมืองในช่วงนี้ จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันสอดส่อง หากเห็นสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook