ญี่ปุ่นยังรั้งตำแหน่งศก.อันดับ 2 เหนือจีน

ญี่ปุ่นยังรั้งตำแหน่งศก.อันดับ 2 เหนือจีน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ญี่ปุ่นยังคงรักษาตำแหน่งประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกในปี 2552 เอาไว้ได้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจเหนือจีนฉิวเฉียด โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งเลวร้ายในรอบหลายสิบปี ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 แต่จีนก็ขยับเข้าใกล้ตำแหน่งนี้ ลุ้นสิ้นปี ผงาดแซงญี่ปุ่น ที่ครองตำแหน่งนี้มากว่า 40 ปี

เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 ในเดือน ต.ค.-ธ.ค. ปีก่อน เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ แต่หดตัวร้อยละ 5 ตลอดทั้งปี 2552 ญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อวันจันทร์พบว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.6 ในไตรมาสที่ 4 ของปีก่อน ซึ่งถือว่าเป็นการค่อย ๆ ฟื้นตัวจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี ส่วนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศทั้งปี 2552 อยู่ที่ 5.085 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 168 ล้านล้านบาท (คิดตามอัตราแลกเปลี่ยนเยน-ดอลลาร์สหรัฐในปี 2552) ยังคงเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกต่อไป ขณะที่จีนมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเมื่อปีก่อนมูลค่า 4.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 161.7 ล้านล้านบาท หลังจากเศรษฐกิจเติบโตร้อยละ 8.7 ในปี 2552

การส่งออกของญี่ปุ่นในเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับแต่เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ล้มละลายเมื่อปลายปี 2551 โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 จากเดือน พ.ย. อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจภายในประเทศยังคงล้มลุกคลุกคลานจากภาวะเงินเฟ้อรุนแรง และค่าจ้างที่ลดลง ธุรกิจต่าง ๆ ยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย และการจ้างงาน

นักวิเคราะห์กล่าวว่า จีนหวังว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ ส่วนญี่ปุ่นเองก็เสี่ยงที่จะตกลงมาอยู่อันดับ 3 ของโลกภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ดิ้นรนแก้ปัญหาภาวะเงินฝืดและ ประชากรลดลง ทั้งนี้ประชากรจีนมีมากกว่าญี่ปุ่นถึง 10 เท่า มีทรัพยากรธรรมชาติเหลือเฟือ พร้อม ที่จะแซงหน้าญี่ปุ่นในการโลกยุคโลกาภิวัตน์

อย่างไรก็ตาม การเปรียบเทียบระหว่าง 2 ประเทศ ก็มีความยุ่งยากซับซ้อนจากอัตราการแลกเปลี่ยนที่ไม่คงที่ หากค่าเงินเยนยังอ่อนต่อไป ก็อาจจะเร่งให้จีนแซงญี่ปุ่นขึ้นมาเป็นมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลกตามหลังสหรัฐเร็วขึ้น.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook