''มาร์ค''ผวาปองร้ายเปลี่ยนรถ-ปรับ รปภ.

''มาร์ค''ผวาปองร้ายเปลี่ยนรถ-ปรับ รปภ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำชับทุกหน่วยให้ระวังเสื้อแดง

ขวัญผวา!โดนเบียดขบวนรถมาร์คเพิ่มรถรักษาความปลอดภัยโดดไปนั่งแลนด์โรเลอร์กันกระสุนแทนสั่งกำชับทุกหน่วยราชการระวังแผนแดงกระจายป่วนเมือง ให้ประสานตร.รับมือ เพื่อไทยยังจัดทัพไม่เสร็จ หาวันดีเดย์ซักฟอกไม่เจอ ปลอดประสพ ยันชื่อนายกฯ ใหม่ต้องเป็น ส.ส.เพื่อไทยเท่านั้น ยังหวังเลือกตั้งรอบหน้า เพื่อไทย ทะลุ 285 เสียง ลุ้นคืนกลับเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ปู่จิ้น สั่งเอกซเรย์ทุจริตในมท. ตรวจละเอียดข้อสอบโรงเรียนนายอำเภอโชยกลิ่น สงสัยคำตอบตรงกัน 140 คน แจงงาบเช่าคอมพ์ระบบทะเบียนราษฎรแค่ข่าวลือ ปชป.ตั้งทีมสอบไทยเข้มแข็ง เฉลิมชัย หัวขบวน ส.ว. เปิดศึกถกขยายเวลาแก้ รธน. เกย์โวย คนสีม่วง ถูกรุมโจมตีในเวทีการเมือง ยุนัก การเมืองรายไหนรู้ตัวเอนเอียง ให้รีบโชว์ตัว

* ปรับแถวรถรปภ.นายกฯ

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในช่วงนี้ ทั้งเรื่องการปาถุงอุจจาระเข้าบ้านพัก การขับรถปาดเข้าขบวนรถ จึงมีการปรับมาตรการการรักษาความปลอดภัยใหม่ โดยนายกฯ ได้เปลี่ยนรถประจำตำแหน่งจากรถเบนซ์กันกระสุน ทะเบียน ษห 3834 มาเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ กันกระสุน ยี่ห้อแลนด์ โรเวอร์ รุ่น เรนจ์ โรเวอร์ ทะเบียน ฌอ 5999 กรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ ได้จัดรูปขบวนรถใหม่เริ่ม จากรถจักรยานยนต์สารวัตรทหาร (สห.ทบ.) และรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจนำขบวน 2 คัน ตามด้วยรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม รถจากหน่วยรักษาความปลอดภัย จากกองพันสารวัตรทหารที่ 11 (สห.ทบ.) และรถประจำตำแหน่งนายกฯ อีกทั้งเปลี่ยนให้รถรักษาความปลอดภัยของหน่วยอากาศโยธินซึ่งเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ยี่ห้อโตโยต้า ปราโด้ มาต่อท้ายรถประจำตำแหน่งของนายกฯ แล้วตามด้วยรถของหน่วยรักษาความปลอดภัยจาก ร.21 ที่ใช้รถเบนซ์แวน และเพิ่มรถขับเคลื่อน 4 ล้อ กันกระสุนยี่ห้อฟอร์ด เอฟเวอร์เรสต์ สีขาวอีก 1 คันสำหรับให้ พ.ท.สุทธิชัย ศรลัมภ์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 ร.อ. ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยนายกฯ เป็นคันสุดท้าย

* กำชับระวังแดงกระจาย

ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงว่า ในที่ประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้ง สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้รายงานสถานการณ์ทางการเมืองในภาพรวมให้รับทราบ โดยระบุว่าให้เฝ้าระวังเรื่องการชุมนุม โดยเฉพาะสถานที่ราชการที่จะเกิดความเสี่ยง ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยนายกฯได้ย้ำให้ทุกส่วนราชการได้เฝ้าระวังในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยร่วมกับตำรวจ และหน่วยงานความมั่นคง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังถือว่าอยู่ในกรอบการทำงานระดับปกติ ยังไม่จำเป็นต้องมีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ ในที่ประชุมนายกฯ ได้กล่าวว่า จากการรายงานสถานการณ์ทาง การเมือง และการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจนถึงขณะนี้ เชื่อว่ายังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีการชุมนุมใหญ่ แต่เชื่อว่าจะมีการชุมนุมย่อย โดยเฉพาะการชุมนุมในทุกที่ที่ตนไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง และ พยายามเลี่ยงในบางพื้นที่โดยเฉพาะใน กท. และปริมณฑล

* พท.จบไม่ลงดีเดย์ซักฟอก

ที่พรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์และการเมือง พรรคเพื่อไทย ที่มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นประธานว่า พรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอนในเดือน ก.พ.นี้ แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน โดยผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯนั้นจะต้องเป็น ส.ส. เพื่อไทย แน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ โดยจะให้ ส.ส. ของพรรคประชุมคัดเลือกผู้ที่เห็นว่าเหมาะสม ก่อนที่จะนำเสนอขึ้นสู่การพิจารณาของผู้บริหารพรรค จากนั้นจะมอบให้ประธาน ส.ส. ของพรรคเป็นผู้เสนอ อย่างไรก็ตามจะได้ข้อสรุปในเดือนเดียวกัน

นายปลอดประสพ กล่าวว่า จากสายข่าวของพรรคเพื่อไทยที่เป็นนายทหารระดับสูงและข้าราชการในสำนักนายกฯ ได้ให้ข่าวตรงกันว่าทางรัฐบาลโดยฝ่ายความมั่นคง มีการจัดตั้งวอร์รูม โดยได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ทำลายชื่อเสียงของพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง รวมไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยวิธีการทำงานของวอร์รูมชุดนี้นั้นมีหลายประเด็น อาทิ 1.อนุญาตให้ใช้สื่อของรัฐทำลายชื่อเสียงของพรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง และ พ.ต.ท.ทักษิณ 2.ทำให้สังคมเชื่อว่าการพิจารณาในคดียึดทรัพย์ศาลจะต้องพิจารณาในลักษณะการยึดทรัพย์ทั้งหมด ทำให้คนไม่พอใจและออกมาปั่นป่วน ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยขอให้รัฐบาลยุติการสร้างความแตกแยกในสังคม และแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี

* ยังหวังกวาด ส.ส. 285 ที่นั่ง

นายปลอดประสพ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนของพรรคเพื่อไทยว่า พรรคเพื่อไทยมีความนิยมดีขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งพบการเปลี่ยนแปลงในหลายพื้นที่โดยเฉพาะ จ.ระยอง จันทบุรี และบางส่วนของเพชรบุรี ส่วนภาคอีสานมีคะแนนนิยมที่ดีกว่าเดิมเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส. ในอีสานเกิน 110 เสียงขึ้นไป อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มว่าพรรคจะได้ ส.ส. ถึง 265 ที่นั่ง แต่พรรคก็หวังว่าจะได้ 285 ที่นั่ง เพื่อให้ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว สำหรับการหาเสียงยอมรับว่าคนเสื้อแดงช่วยได้มาก สามารถจัดปราศรัยได้พร้อมกันทั่วประเทศ เพราะคนเสื้อแดงมีแกนนำเป็นร้อยคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เขียนข้อความลงบนเว็บ ไซต์ทวิตเตอร์ดอทคอมว่า เมื่อคืนนี้ได้ให้ทุนการศึกษาแก่เด็กจบ ม.6 อูกานดา 4 ทุนไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยชินวัตรระดับปริญญาตรี ซึ่งมูลนิธิไทยคมให้เด็กไทยอยู่แล้วปีละ 60 ทุน อีก 3 ชั่วโมงจะเดินทางไปอีกประเทศ หนึ่งในทวีปแอฟริกา เดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เขาเชิญไปพบประธานาธิบดีเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจ การลงทุน อีก 2 สัปดาห์ผมจะเล่าลู่ทางการลงทุนในแถบแอฟริา ขอขอบคุณทุกกำลังใจและคำอวยพร ความปรารถนาดีที่ส่งให้ผมและครอบครัวเนื่องในวันตรุษจีนและวาเลนไทน์ ขอให้ทุก ๆ ท่านมีความสุข

* มท.1สั่งร่อนตะแกรงทุจริต

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาด ไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้อนุกรรมการไต่สวนดำเนินการสอบนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครองกับพวก กรณีการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าโรงเรียนนายอำเภอประจำปี 2552 ว่า ตน จะสั่งการให้นายวงศ์ศักดิ์เร่งดำเนินการตรวจสอบกรณีข้อสอบนักเรียนนายอำเภอรั่วไหล เนื่องจากมีผู้ตอบข้อสอบเหมือนกันถึง 140 คน ตามที่อนุกรรมการ ป.ป.ช.ระบุ ซึ่งข่าวที่ออกมาถือเป็นข้อมูลใหม่ จึงต้องเร่งพิสูจน์หาข้อเท็จจริง ทั้งนี้ตนก็ยังไม่ทราบข่าวที่มีผู้สอบนายอำเภอที่จังหวัดบุรีรัมย์ได้ถึง 20คน ขณะที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีผู้สอบได้

ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยชี้แจงกรณีโครงการให้บริการประชาชนทางด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่ วงเงิน 3,490 ล้านบาทนั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบการทุจริตที่ชัดเจน เรื่องดังกล่าวอาจเป็นแค่ข่าวลือ ส่วนการโยกย้ายนายอวยชัย อินทร์นาค ผู้อำนวยการสำนักบริหารการทะเบียน และข้าราชการรวม 15 ราย ซึ่งเป็นผู้กำหนดกรอบการดำเนินการหรือทีโออาร์ ไปปฏิบัติราชการในต่างจังหวัดนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่การโยกย้ายลอตใหญ่ เนื่องจากกรมการปกครองเป็นหน่วยงานใหญ่มีข้าราชการจำนวนมาก แต่ก็จะให้อธิบดีกรมการปกครอง ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้

* ปค.ยันเช่าคอมพ์โปร่งใส

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รองอธิบดีกรมการปกครอง แถลงข่าวถึงกรณีข่าวการเร่งรัดแก้ไขขอบเขตงานหรือทีโออาร์ ในการประกวดราคาเช่าเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ประกอบโครงการจัดทำระบบให้บริการประชาชนทางด้านทะเบียนและบัตรประชาชนแบบใหม่ จนเหมือนเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนบางรายว่า กรณีนี้มีบริษัทเสนอประกวดราคามา 7 บริษัท และกรมการปกครองได้ทำข้อมูลโปรแกรม วิธีการทดสอบทางเทคนิคให้บริษัทตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. ขณะที่จะมีการทดสอบในวันที่ 3-4 ก.พ.เท่ากับผู้เข้าประกวดราคามีเวลา 26 วัน และหากปล่อยให้สัญญาเช่าเดิมหมดลงในวันที่ 15 ก.พ. 2553 ก็จะทำให้กรมต้องสูญเสียเงินบำรุงรักษาเดือนละไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท

นายนิรันดร์ กล่าวว่า ที่มีข่าวว่า บริษัทที่เข้าร่วมทีโออาร์มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนนั้น สำนักบริหารการทะเบียน จะสาธิตการดำเนินการในประเด็นสงสัยวันที่ 22 ก.พ. เวลา 10.00 น. ที่การสื่อสารแห่งประเทศ ไทย (กสท) บางรัก เมื่อขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติผ่าน ก็จะเป็นขั้นตอนรอเสนอให้ รมว.มหาดไทยเซ็นสัญญาต่อไป ส่วนที่มีข่าวการโยกย้ายข้าราชการที่ไม่เห็นด้วยกับการประกวดราคานี้ 15 คน เป็น เรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ เพราะคณะกรรมการทีโออาร์มีทั้งสิ้น 5 คน ก็ยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติที่สำนักบริหารการทะเบียน และไม่ได้มีการเปลี่ยนทีโออาร์แต่อย่างใด

* ป.ป.ช.ตั้งอนุฯสอบ5ขรก.ปค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. ที่มีนายประสาท พงษ์ศิวาภัย เป็นประธานตรวจสอบการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าโรงเรียนนายอำเภอประจำปี 2552 ของกรมการปกครองนั้น คณะอนุกรรมการได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 124-49/2552 ให้ไต่สวนคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัยในการคัดเลือกข้าราชการ ประกอบด้วย 1.นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะประธานกรรมการ 2.นายสุรพล ภาษิตนิรันดร์ รองอธิบดีกรมการปกครอง กรรมการ 3.นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร รองอธิบดีกรมการปกครอง กรรมการ

4.นายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ กรรมการ และ 5.นายวีรเดช วิภูษาภรณ์ หัวหน้ากองงานวางแผน กองการเจ้าหน้าที่ ฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในการสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอและตั้งอนุกรรมการโดยมีนายประสาทเป็นประธานพร้อมด้วยนางสาวสมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. เป็นอนุกรรมการด้วย เป็นต้น

* ปชป.ตั้งทีมสอบไทยเข้มแข็ง

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ รองหัวหน้าพรรคภาคกลาง ประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับนายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เห็นตรงกันว่า พรรคประชาธิปัตย์ ควรมีการตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามงบประมาณในโครงการไทยเข้มแข็งด้วย โดยหัวหน้าพรรคได้มอบหมายให้ตนไปสรรหา ส.ส. ที่จะ เข้าร่วมเป็นคณะทำงาน ล่าสุดตนได้รวบรวมรายชื่อ ส.ส. ที่จะเข้าเป็นคณะทำงานเสร็จ สิ้นแล้ว และจะเสนอให้หัวหน้าพรรคเซ็นแต่งตั้งต่อไป

นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า โดยคณะทำงานจะมาจาก ส.ส. ภาคกลาง 4-5 คน และ ส.ส. ภาคอื่นทุกภาค ภาคละ 2 คน และจะมอบให้นายอภิชาต สุภาแพ่ง ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานคณะทำงาน ซึ่งรูปแบบการทำงานของคณะทำงาน จะเป็นการช่วยกันติดตามงบประมาณที่กระจายลงไปยังจังหวัดต่าง ๆ และแจ้งข่าว ให้สมาชิกพรรคได้รับทราบว่ามีงบประมาณจากโครงการใดลงไปบ้าง เพื่อช่วยกันติดตามให้การใช้งบประมาณบังเกิดผลสูงสุด

* วุฒิฯเปิดศึกถกแก้รธน.

ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภาได้พิจารณา เรื่อง ขอขยายเวลาการปฏิบัติงานของคณะกรรมาธิการสามัญศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 โดย พ.ท.กมล ประจวบเหมาะ ส.ว. สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้ขอขยายเวลาทำงานของคณะกรรมาธิการไปอีก 240 วัน เพราะมีเรื่องที่จำเป็นต้องศึกษาต่อไปอีก ปรากฏว่า มี ส.ว.บางส่วนได้ อภิปรายคัดค้านไม่เห็นด้วยกับการขยายเวลา โดย พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ตั้งข้อสังเกตว่า คณะกรรมาธิการได้ศึกษามานานแล้วและหากต่อเวลาไปอีกก็ถือว่านานไป อีกทั้งคณะกรรมาธิการฯ ชุดนี้มีจำนวนกว่า 40 คน ทำให้หลายครั้งองค์ประชุมล่ม

นอกจากนี้การต่อเวลาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯมีหลายคณะสูญเสียงบประมาณและบุคลากร แต่ยังไม่มีการรายงานผลการศึกษา ขณะที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ระบุว่า บางคณะตั้งมากว่า 2 ปีแล้วแต่ยังไม่มีรายงานผลการศึกษา บางครั้งนึกอยากจะศึกษาอะไรก็ขอเสนอตั้งแต่ตั้งแล้วก็เงียบหายไป เช่น คณะกรรมาธิการวิสามัญเกี่ยวกับสินบนประธานวุฒิสภา ผ่านมา 2 ปีแล้วก็ไม่เห็นมีความคืบหน้า สอดคล้องกับนายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ถามว่าสินบน 1 ล้านบาท จะกลับมารายงานให้ที่ประชุมทราบหรือไม่

* นฤมล ซัดมีธงนำกมธ.

นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะต่อเวลา เพราะหลาย ครั้งองค์ประชุมก็ไม่ครบและแนวทางการทำงานก็มีความขัดแย้งกัน ซึ่งกรรมาธิการฯ มีธงที่จะศึกษา นอกจากนี้ผลสรุปบางเรื่องมี 2 แนวทาง แต่มี กมธ. ไม่ได้นำไปเผยแพร่กับสื่อ แต่กลับเผยแพร่ในเรื่องความเห็นของตน ซึ่งหากคณะกรรมาธิการฯ นี้ทำงานอย่างเป็นกลาง และมีความอิสระ ตนก็ยอมรับได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ว. ได้ถกเถียงกว่า 1 ชม. โดยฝ่ายไม่เห็นด้วยส่วนใหญ่เป็น ส.ว.เลือกตั้ง และ ส.ว.สรรหาที่เป็นผู้ใหญ่ โดยติงแนวทางการทำงานของคณะกรรมาธิการฯ ที่มีการแบ่งฝ่ายไม่ได้ทำงานตามวัตถุประสงค์

ขณะที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว. สรรหา กล่าวว่า ส.ว.ที่เข้ามามีการตั้งธงว่า จะแก้ไขหรือไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ตนยืนยันว่ากรรมาธิการฯ ชุดนี้ศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญไม่ใช่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่มีธง ซึ่งประธานคณะกรรมาธิการเสนอขยายเวลามา 240 วัน แต่ตนอยากเสนอถึง 360 วัน อยากถามว่ามีคณะกรรมาธิการวิสามัญฯบางคณะ เช่น วิสามัญศึกษาทะเลสาบสงขลา วิสามัญศึกษาปัญหาภาคใต้ ตั้งมา 2 ปีก็ยังขอขยายเวลาได้ แต่ทำไมคณะกรรมา ธิการวิสามัญชุดนี้มาขอขยายเวลากลับเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องนี้การเล่นเกมการเมืองของสมาชิกบางคน

* สุดท้ายขยายไปอีก180วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายของสมชายทำให้นายนฤมล ลุกขึ้นมาตอบโต้ว่า ไม่ใช่เกมการเมือง แต่เป็นการให้ความเห็นโดยบริสุทธิ์ใจ แต่การทำงานของคณะกรรมา ธิการฯ สร้างความไม่สบายให้กับสมาชิก อย่ามาทำเรื่องนี้ให้ดุเดือดและอย่ามาใส่ร้ายกัน ดิฉันก็ไม่ใช่นักเลงโต

อย่างไรก็ตามนายสุพจน์ โพธิ์ทองคำ ส.ว.สรรหา ได้เสนอให้มีการขยายเวลาไปเพียง 60 วัน ขณะที่ พ.ท.กมล ขอเปลี่ยนจำนวนวันเป็นขยายเวลา 180 วัน ในที่สุดที่ ประชุมได้ลงมติเห็นด้วยกับการขยายเวลาไป 180 วัน ด้วยคะแนนเสียง 51 ต่อ 50 เสียง งดออกเสียง 23 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง1 เสียง

* เกย์โวยรุมสกรัมคนสีม่วง

ที่โรงแรมกานต์มณี สะพานควาย กลุ่มเกย์การเมือง และศูนย์ข้อมูลความหลาก หลายทางเพศแห่งประเทศไทยได้จัดเสวนาเรื่อง 2010 ปีแห่งชัยชนะของบุคคลหลากหลายทางเพศในประเทศไทย โดยนายนที ธีโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมือง กล่าว ตอนหนึ่งว่า สิ่งหนึ่งที่ทางกลุ่มจะเรียกร้องในปี ค.ศ. 2010 คือ แสดงท่าทีกรณีที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง มีการหยิบยกเอาประเด็นเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศขึ้นมาโจมตี ทางกลุ่มต้องการให้เวลาจะว่าใครเลวร้าย เลิก โยงประเด็นสีม่วง แต่ให้อธิบายให้ชัดเจนว่า เขาเลวร้ายเพราะอะไร การต่อสู้อะไรก็ตาม ต้องทำบนพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน

นายนที กล่าวอีกว่า กรณีนี้มีมาไม่ใช่เฉพาะขณะนี้ รัฐบาลก่อนหน้า ก็มีรัฐมนตรีคนหนึ่งที่ถูกโจมตีอย่างรุนแรง เรียกเขาว่าเจ๊ เรียกว่าเขาลักเพศ ขนาดขึ้นป้ายด่าบนเวที พอกลับมาตอนนี้ ก็ยังใช้แง่มุมเดียวกันโจมตีกันอีก พูดราวกับว่า คนบางคนเป็นสีม่วงแล้วชาติจะล่มจม เขาจะเป็นจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่การเอารสนิยมทางเพศมาโจมตีเป็นเรื่องไม่เหมาะสม จะว่า ก็ว่าว่า เขาเลวด้วยเรื่องอะไร

* ยุเกย์การเมืองแสดงตัว

นายนที กล่าวต่อว่า ตนจึงอยากขอแนะนำว่า ถ้านักการเมืองคนไหน มีข้อมูลว่า มีคนใหญ่คนโต มีความหลากหลายทางเพศ ทั้งเกย์ กะเทย ทอม ดี้ แล้วเอาประเด็นนั้นไปทำให้เกิดปัญหา เช่น ไปมีเพศสัมพันธ์กับลูกน้องแล้วให้คุณให้โทษ จึงค่อยโจมตี และอยากขอความกรุณาสื่ออย่าโจมตีประเด็นสีม่วง รวมถึงขอให้นักการเมืองหากมีใครเป็นอัตลักษณ์ทางเพศหลากหลาย ต้องกล้าแสดง ออกด้วยความภูมิใจ ก็จะเป็นคุณูปการต่อชาวสีม่วง ให้ประชาชนได้เห็นว่า คนที่มีความหลากหลายทางเพศก็เป็นใหญ่เป็นโตได้

นายนที ยังกล่าวว่า ทั้งนี้ จะมีการหารือเพิ่มกับอีกหลายองค์กร เพื่อทำหนังสือขอความเข้าใจกับนักการเมือง อย่าโยนบาปให้ชาวสีม่วงอีกต่อไป เพราะแค่นี้ก็ทำให้เราลำบากในการดำเนินชีวิตพอแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในที่สัมมนามีผู้เข้าร่วมรายหนึ่งเสนอว่าควรแสดงบทบาทให้ชัดเจน หากพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองไหน มีการพูดถึงชาวสีม่วงในแง่ที่ไม่เป็นธรรม กลุ่มสีม่วงต้องทำตัวเป็นพลังเงียบไม่สนับสนุนทางการเมืองใด ๆ กับกลุ่มนั้นอีก.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook