วิกฤติ ศก.พ่นพิษเอเชียจนเพิ่มขึ้น

นายอาเจย์ ชิบเบอร์ ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดีพี) เปิดเผยผลการศึกษาฉบับหนึ่งที่กรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์เมื่อวันพุธว่า การที่เศรษฐกิจโลกตกต่ำอาจผลักดันให้ประชาชน ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกยากจนเพิ่มขึ้น 21 ล้านคน พร้อมเรียกร้องรัฐบาลต่าง ๆ ให้เพิ่มมาตรการปกป้องทางสังคมในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายชิบเบอร์ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาล หลายประเทศไม่ควรมุ่งเน้นการเติบโตทางเศรษฐกิจมากเกินไป แต่ควรให้ความสนใจในภาคส่วนอื่นของสังคม เช่น การพัฒนาด้านประกันขภาพ บำนาญ และระบบคุ้มครองสังคมต่าง ๆ ด้าน อูร์ซูลา เชเฟอร์- เพรสส์ รองประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปยังภาคส่วนอื่นมากกว่าค่าใช้จ่ายทางสังคม

ทั้งนี้ วิกฤติการเงินและเศรษฐกิจโลกเมื่อปี 2552 ทำให้คนที่มีรายได้ต่ำกว่าวันละ 1.25 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 41 บาท เพิ่มเป็น 17 ล้านคน ขณะที่ ในปี 2553 คนจนอาจเพิ่มอีก 4 ล้านราย รวมเป็น 21 ล้านราย

การศึกษาดังกล่าวดำเนินการร่วมกันโดยยูเอ็นดีพี และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย มีเป้าหมายเพื่อประเมินถึงความคืบหน้าในความสำเร็จของเป้าหมายที่วางไว้ภายใต้โครงการเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (เอ็มดีจี) เช่น การขจัดความยากจนและการเข้าถึงการศึกษาให้มากขึ้น

ส่วนเป้าหมายอื่น ๆ ภายใต้โครงการเอ็มดีจี รวมทั้งการต่อสู้กับโรคเอดส์ หรือโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง และลดการเสียชีวิตของทารกแรกเกิด ตลอดจนส่งเสริมความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ.