สังเวยแล้ว42ศพน้ำท่วม-โคลนถล่มโปรตุเกตุ

ทีมค้นหาใช้สุนัขดมกลิ่นออกค้นหาตามซากปรักหักพัง เพื่อค้นหาผู้สูญหายอีก 4 คน บนเกาะมาเดรา หมู่เกาะของโปรตุเกสในมหาสมุทรแอตแลนติก หลังเกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่มโดยล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 42 ราย

เจ้าหน้าที่บางส่วน เร่งสูบน้ำและโคลนออกจากลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เนื่องจากมีรถถูกฝังอยู่เป็นจำนวนมาก และเกรงว่าอาจจะพบร่างผู้เสียชีวิตที่ติดค้างอยู่ในรถอีกด้วย

เหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์(20 ก.พ.)ที่ผ่านมา จากพายุฝนที่กระหน่ำตกลงมาอย่างรุนแรงพัดพาเอาต้นไม้ อาคารบ้านเรือน รวมถึงรถยนต์ให้หายไปกับสายน้ำในชั่วพริบตา ถนนหลายสายถูกตัดขาดไฟฟ้าดับและสาธารณูปโภคใช้การไม่ได้ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 151 คน ในขณะทีเจ้าหน้าที่สั่งอพยพประชาชนในหมู่บ้านเล็กๆ บริเวณชานเมืองไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่า อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันซ้ำขึ้นอีก

โดยทีมกู้ภัย เข้าตรวจสอบบริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดินของศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ในเมืองหลักของเกาะมาเดรา พบร่างผู้เสียชีวิตติดในรถยนต์ถึง 19 ศพ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้นเป็น 74 ราย จากยอดเดิมที่ได้รับการยืนยันแล้ว 42 ราย และยังมีอีก 13 ราย ที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน นอกจากนี้ ยังมีผู้สูญหายอีก 32 คน

ขณะเดียวกัน ทางการได้สั่งอพยพพลเรือน 30 ถึง 40 คน ออกจากบ้านเรือน ในเมืองริเบรา บราวา ด้วยความวิตกว่า เนินเขาที่อยู่ใกล้เคียง อาจถล่มลงมา เช่นเดียวกับอีกหลายครอบครัวที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงสูงในปอนโต โด โซล ที่อยู่ถัดไปทางตะวันตก ขณะที่ เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง บินสำรวจความเสียหายรอบๆ ภูเขาต่างๆ