ผบช.ภ.2จ้องท้ารบอภิสิทธิ์

ตั้งท่ายื่นฟ้องศาลปกครอง

พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย พร้อมพวกเปิดแถลง สวนหมัด นายกฯกับ รรท.ผบ.ตร. ระบุกระทำผิดกฎหมาย และ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่ตั้ง วสิษฐ์ เป็น กก.สอบเซ้งลี้เก้าอี้ทั้งที่ตั้งคนนอกไม่ได้ ออกคำสั่งเด้งมาประจำ สตช. ส่ง บิ๊กวิน ไปรักษาราชการแทน แล้วรื้อโผที่แต่งตั้งไปแล้วจ่อฟ้องสาลปกครองและฟ้องอาญา ด้าน มาร์ค ระบุเป็นสิทธิที่เขาทำได้ ส่วน วสิษฐ์ จะขอขยายเวลาสอบต่ออีกเพราะมีของ บช.ภ.3 มาให้สอบเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการสอบสวนเรื่องการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบก.-สว. มาเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ว่า พล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร ประธานคณะกรรมการการสอบสวนกรณีซื้อขายตำแหน่งในการโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรองผบก.-สว. ประจำปี 2552 เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสอบสวน ว่า ตอนนี้การสอบสวนยังอยู่ที่เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายใน บช.ภ. 1 เท่านั้น ยังไม่มีอะไรคืบหน้า อยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐาน ที่ล่าช้าเพราะต้องไปค้นดูหลักฐานถึงระดับที่มา ไม่ใช่เฉพาะเรื่องคำร้องอย่างเดียว โดยคณะกรรมการได้ไปขอดูทั้งหลักฐานเดิม และมาเทียบเคียงกับระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ว่าทำโดยถูกต้องหรือไม่ ต้องใช้เวลามาก และการประชุมในวันเดียวกันนี้ก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะยังตรวจสอบหลักฐานไม่ละเอียด ซึ่งการขยายเวลาสอบสวนไป 15 วันคงไม่ พอเพราะล่าสุดต้องสอบสวนของ บช.ภ.3 เพิ่ม คงต้องขอเวลานายกฯให้ขยายเวลาออกไปอีก

ที่ รร.วินด์เซอร์ วันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ สุริโย ผบช.ภ. 2 ช่วยราชการ สตช. พร้อมด้วย พ.ต.อ.นภดล วงษ์น้อม ผกก.สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และ พ.ต.อ.เจษฏา สวยสม สวญ. สภ.ปากน้ำกระแส จ.ระยอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจในบช.ภ. 2 จำนวนหนึ่ง ร่วมกันแถลงข่าวกรณีความไม่ชอบธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรองผบก.-สว. และการออกคำสั่งรักษาราชการแทนไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยใช้หัวข้อการแถลงว่า หยุดรังแกองค์กรตำรวจเสียที

พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ตนจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องออกมาเปิดโปงถึงความไม่เป็นธรรมในการแต่งตั้ง เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องในองค์กรตำรวจ เพราะถูกกลั่นแกล้งจากผู้บังคับบัญชา โดยประเด็นแรก นายกรัฐมนตรีกระทำการมิชอบในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของ สตช. กรณีที่กล่าวหาว่า มีการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้ง ซึ่งความจริงแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยึด พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ในการดำเนินการกับผู้นั้น แต่นายกฯ กลับมีคำสั่ง ที่ 44/2553 ซึ่งเป็นคำสั่งตั้ง พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีต รอง อ.ตร. เป็นประธานการสอบสวนการซื้อขายตำแหน่งและมีคณะกรรมการอีก 4-5 ท่าน โดยไม่เป็นที่เปิดเผย มีพิรุธ เลือกปฏิบัติ งุบงิบกันเอง และเน้นให้สอบเฉพาะ บช.ภ. 2 เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ บช.อื่น ๆ ก็มีการร้องเรียน

ส่วนประเด็นที่สองคือ การเลือกปฏิบัติ เป็นการกระทำมิชอบ ประเด็นที่ 3 คือ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กระทำโดยมิชอบด้วยเช่นกัน โดยออกคำสั่งที่ 69/2553 ลงวันที่ 9 ก.พ. ให้ตนมาช่วยราชการที่ สตช. และให้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผช.ผบ.ตร. มา รรท. แทนอีกหน้าที่หนึ่ง ซึ่งเป็นการออกคำสั่งไม่เป็นไปตาม ม.72 พ.ร.บ.ตำรวจ และประเด็นสุดท้าย พล.ต.ท. อัศวิน ออกคำสั่งที่ 35/2553 ยกเลิกคำสั่งของตนที่ลงนามไปแล้ว ถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตนและคณะได้ร้องทุกข์ต่อ ก.ตร. แล้ว และจะยื่นต่อศาลปกครองด้วยในเร็ว ๆ นี้ รวมทั้งฟ้องคดีอาญา สุดท้ายตนขอฝากไว้ว่า การเมืองจงหยุดรังแกข้าราชการประจำเสียที และโปรดระวังไว้ว่า ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้น ถึงตัว

หลังจากนั้น พล.ต.ท.เกรียงศักดิ์ ได้เข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับ ก.ตร. เพิ่มเติม หลังจากยื่นร้องทุกข์กับก.ตร.ไปเมื่อวันที่ 15 และ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยครั้งนี้มีประเด็นที่ร้องเรียนคือ การมีคำสั่งตร.ที่ 35/ 2553 ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งสว-รองผบก. ในบช.ภ.2 ที่ 20-23/2553 ของ พล.ต.ท. อัศวิน ขวัญเมือง ผช.ผบ.ตร.และรรท. ผบช. ภ.2 ไม่เป็นไปตามกฎหมาย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.ท. เกรียงศักดิ์ ผบช.ภ.2 ช่วยราชการสตช. เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองกรณีที่แต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรมว่า เป็นการใช้สิทธิของเขา และคิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะการดำเนินการทุกอย่างในส่วนของรัฐบาลหรือสตช. เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายเมื่อมีคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ต้องดำเนินการ.