ตลาดหุ้นนิ่ง-คลังสั่งสรรพากรเตรียมอายัดเงิน

ตลาดหุ้นนิ่ง-คลังสั่งสรรพากรเตรียมอายัดเงิน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วันนี้( 26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวเมื่อวันที่ 26 ก.พ. ว่า จากเท่าที่ดูข้อมูลแล้วเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยในวันนี้คงไม่เคลื่อนไหววูบวาบ แม้ว่าในช่วงบ่ายจะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ โดยมองว่าเหตุการณ์น่าจะผ่านไปได้อย่างเรียบร้อย แต่หากมีอะไรพิเศษเข้ามา คงจะต้องมีการแจ้งให้นักลงทุนทราบและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหากดัชนีปรับตัวลดลง 3% ก็จะมีการประสานงานกันภายในก่อนว่าควรจะทำอะไร และหากดัชนีลดลงไป 5% จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อประสานงานกันอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ จะมีการประเมินในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง 3 วันนี้ว่า เหตุการณ์สืบเนื่องจากคำตัดสินคดียึดทรัพย์จะมีผลต่อภาวะตลาดหุ้นที่จะเปิดการซื้อขายในวันอังคารที่ 2 มี.ค.หรือไม่อย่างไร โดยจะมีการประเมินภายใน รวมทั้งหารือกับโบรกเกอร์ทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อประเมินว่าตลาดหุ้นจะเกิดความผันผวนหรือไม่

ด้าน นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า ในการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 76,000 ล้านบาท ในวันนี้ (26 ก.พ.) และมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่กรมสรรพากรอายัดทรัพย์สินมูลค่า 12,000 ล้านบาท ในธนาคารไทยพาณิชย์ ในคดีหลีกเลี่ยงภาษีจากการซื้อ-ขายหุ้น บริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของนายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาของศาลภาษี หากศาลฎีกาสั่งยึดทรัพย์ทั้งหมด กรมสรรพากรต้องหาแนวทางและแหล่งเงินทุนอื่นหรือทรัพย์สินอื่นมาอายัดทดแทน 12,000 ล้านบาท เพราะถือว่าคำตัดสินของศาลเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติตามก่อนอันดับแรก

โดยได้หารือกับนายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร ถึงแนวทางรองรับคำตัดสินของศาลฎีกาในวันนี้ ซึ่งกรมสรรพากรได้ทำหนังสือถึงสถาบันการเงินทุกแห่ง และใช้อำนาจของกรมสรรพากรอายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฝากไว้กับสถาบันการเงินต่าง ๆ แล้วจำนวน 36,000 ล้านบาท เพราะหากศาลฎีกาตัดสิน ก็ต้องนำเงินที่อายัดไว้ 12,000 ล้านบาท ส่งเข้าคลังตามคำตัดสิน ในคดีหลีกเลี่ยงภาษีซึ่งอยู่ในกระบวนการของศาลภาษีด้วยเช่นกัน โดยเป็นอำนาจของกรมสรรพากรที่สามารถดำเนินการได้ ด้วยการสั่งอายัดไว้ก่อนเพื่อป้องกันการถอนเงินออกจากบัญชีต่าง ๆ หลังศาลได้มีคำพิพากษาออกมาแล้ว

ขณะที่ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานบางกอก เจมส์ แอนด์ จิวเวลลี่ แฟร์ ครั้งที่ 45 ระหว่างวันที่ 26 ก.พ. -2 มี.ค. ที่อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยระบุว่า แม้ช่วงบ่ายวันนี้ จะมีเหตุการณ์สำคัญในการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 76,000 ล้านบาท ซึ่งตรงกับการจัดงานบางกอก เจมส์ ในวันนี้ ทำให้หลายฝ่ายหวั่นวิตกว่า จะมีความรุนแรงหลังจากนี้ แต่ในภาพรวม กระทรวงพาณิชย์ ยังคงมั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงอย่างแน่นอน เพราะเชื่อว่าทุกฝ่าย จะมีความเข้าใจในสถานการณ์ทางการเมืองของไทย แม้ว่า การจัดงานบางกอกเจมส์ในแต่ละครั้ง จะเป็นช่วงเดียวกับเหตุการณ์การเมืองร้อนแรง แต่ทางภาคธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะมีการติดต่อธุรกิจก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งปีนี้ สมาคมฯ ยังคงตั้งเป้าหมายการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ รวมถึงทองคำ จะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 18 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 390,000 ล้านบาท ซึ่งการจัดงานนี้ ได้มีการเตรียมการเป็นเวลานาน เชื่อว่า ผลกระทบทางการเมืองจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook