ร่วมเป็นผู้ให้บริจาคโลหิตถวายพ่อ
ประภาวดี ธานีรนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ เผยว่า ในฐานะผู้นำธุรกิจบันเทิงของไทย บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพและศักยภาพ พร้อมความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ซึ่งดำเนินการผ่านกิจกรรมซีเอสอาร์ต่าง ๆ ซึ่งโครงการบริจาคโลหิตเป็นหน่งในกิจกรรมซีเอสอาร์ ที่ดำเนินการมาตลอดระยะเวลา 5 ปี โดยกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้บริหาร พนักงาน ศิลปินของบริษัท ซึ่งมีกว่า 3,000 คน ตลอดจนเยาวชนและกลุ่มคนทำงานในละแวกใกล้เคียง การจัดทำโครงการที่ผ่านมาบริษัทฯ ส่งมอบโลหิตให้สภากาชาดไทยรวมแล้วไม่น้อยกว่า 3 ล้านซีซี กิจกรรมนี้ทำให้ชาวแกรมมี่มีโอกาสร่วมสร้างกุศลครั้งใหญ่ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผอ.ศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย เผยว่า องค์การอนามัยโลกประมาณการใช้โลหิตแต่ละประเทศว่า ควรมีโลหิตและผลิตภัณฑ์โลหิตปลอดภัยที่สุดเท่าที่ทำได้ ในปริมาณเพียงพอแก่ความต้องการของประเทศ โลหิตที่ได้รับบริจาคควรจัดหาให้ได้ร้อยละ 3 ของประชากร ในประเทศไทยต้องจัดหาให้ได้ 1.95 ล้านยูนิต แต่สถานการณ์การจัดหาโลหิตในปัจจุบันได้รับบริจาคเพียงร้อยละ 2.8 ของประชากร ซึ่งไม่เพียงพอและไม่สม่ำเสมอสำหรับผู้ป่วย ในปี 2551 ได้รับโลหิตบริจาคทั่วประเทศ 1,692,110 ยูนิต เป็นโลหิตจากผู้บริจาคด้วยความสมัครใจ 1,584,601 ยูนิต คิดเป็นร้อยละ 94 และเป็นโลหิตจากผู้บริจาคโลหิตทดแทนให้ญาติพี่น้อง 107,509 ยูนิต คิดเป็นร้อยละ 6 และองค์การอนามัยโลกยังตั้งเป้าจัดหาผู้บริจาคโลหิตว่าภายในปี 2558 โลหิตทุกยูนิตที่ได้รับจากการบริจาคต้องมาจากผู้บริจาคด้วยความสมัครใจ ไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทน
คาดว่า 2 ปีข้างหน้าจะสามารถกระตุ้นผู้บริจาคโลหิตปีละครั้งให้มาบริจาคโลหิตประจำทุก 3 เดือน และทำให้ผู้บริจาคโลหิตแก่ญาติ กลับมาบริจาคให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่ญาติ จะทำให้การจัดหาโลหิตประสบความสำเร็จ ภายในระยะเวลาอีก 5 ปีข้างหน้าตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ทำให้ผู้ป่วยได้รับโลหิตที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและเพียงพอแก่ความต้องการทั่วประเทศ ผอ.ศูนย์บริการโลหิตกล่าว.
ผู้ที่ต้องการบริจาคโลหิตติดต่อโดยตรงที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โทร. 0-2252-6116, 0-2252-1637, 0-2263-9600-99 หรือ www.redcross.or.th และ www. blooddonationthai.com
