ปปช.ขอคำตัดสินยึดทรัพย์ไล่เบี้ย ทักษิณ คดีค้าง

ปปช.ขอคำตัดสินยึดทรัพย์ไล่เบี้ย ทักษิณ คดีค้าง

ปปช.ขอคำตัดสินยึดทรัพย์ไล่เบี้ย ทักษิณ คดีค้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปปช.ขอคำพิพากษายึดทรัพย์ไว้ไล่เบี้ยคดีเกี่ยวข้องค้างอยู่ป.ป.ช. ที่ประชุมกก.ตุลาการ มีมติรวบรวมข้อเท็จจริง โฆษกพรรคก.ม.ม.ปูดสินบนล้มคดี

ี่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายอภินันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงถึงการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่วันนี้(2 มี.ค.) ได้รับทราบตามที่ นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป.ป.ช. รายงานว่า ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาในคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 26 ก.พ.นั้น มีประเด็นเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. รวม 4 เรื่อง คือ กรณี นายวีระ สมความคิด กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง ที่ควรแจ้งให้ทราบ โดยมีการตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว

เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ส่งเรื่องมาให้ คณะกรรมการป.ป.ช.ดำเนินการต่ออีก 3 เรื่อง คือ เรื่องกล่าวหา คณะกรรมการ บริษัท ทศท. คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) คณะกรรมการบริหารงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการเพื่อให้มีการพิจารณาลดอัตรา ส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการบัตรเติมเงินมือถือแบบจ่ายเงินล่วงหน้า ( Pre-Paid) โดยมิชอบ เรื่องกล่าวหาคณะกรรมการ บริษัท ทศท.คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) และผู้บริหาร บมจ. ทศท. คอร์ปอเรชั่น และผู้บริหาร บมจ.กสท โทรคมนาคม แก้ไขสัญญาอนุญาตให้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส ดำเนินการกิจการบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่ออนุญาตให้ใช้เครือข่ายร่วม( Roaming )

ระหว่างผู้ให้บริการรายอื่น และอนุญาต ให้หักค่าใช้จ่ายจากการ Roaming ก่อนนำมาคำนวณส่วนแบ่งรายได้ให้กับ บมจ. ทีโอที และ ปรับลดอัตราค่าใช้จ่ายเครือข่ายร่วมระหว่าง บมจ. กสท โทรคมนาคม กับบริษัทดิจิตอลโฟน จำกัด และเรื่องกล่าวหาการอนุมัติโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์โดยมิชอบด้วยสัญญาสัมปทานโครงการดาว เทียมสื่อสารภายในประเทศเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) และเรื่องการอนุมัติให้ใช้เงินสินไหมทดแทนของดาวเทียมไทยคม 3 จำนวน 6.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯไปเช่าช่องสัญญาณต่างประเทศอันเป็นการขัดต่อสัญญาสัมปทานโครงการ ดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ เอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทชินแซทเทลไลท์ จำกัด และเรื่อง กล่าวหาการอนุมัติแก้ไขสัญญาสัมปทานฯ ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2547 เพื่อลดสัดส่วน การถือหุ้นของบริษัทชินคอร์ปฯที่ต้องถือในบริษัทชินแซทฯ จากไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 เป็น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 เอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

นายอภิวันท์ กล่าวว่า เรื่องที่คตส.ส่งมาให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการไต่สวน ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงไปก่อนหน้านี้แล้ว และคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะได้ขอคำพิพากษาฉบับสมบูรณ์จากศาลฎีกาฯ สำหรับนำมาพิจารณาประกอบในการ ตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของอดีตนายกรัฐมนตรี และการไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องกล่าวหาอื่นๆ ตามขั้นตอนต่อไป

กต.รวบรวมข่าวปูดสินบนยึดทรัพย์ "สำราญ"ละเมิดอำนาจศาลหรือไม่  

ในการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ( ก.ต.) ซึ่งมีนายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานวันนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างการประชุม มี ก.ต. บางคน เสนอเรื่องที่นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ ออกมาระบุถึงความพยายามการเสนอสินบนผู้พิพากษาองค์คณะคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะพิพากษาคดีเมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา


 โดยก.ต. เห็นว่า การให้ข่าวดังกล่าวทำให้ศาลยุติธรรมเสียหายแต่เรื่องดังกล่าวยังไม่มีดำเนินการแต่อย่างใดซึ่งจะส่งผลเสีย โดยที่ประชุมก.ต.มีมติให้สำนักงานศาลยุติธรรม ตรวจสอบเรื่องข้อเท็จจริงการให้ข่าว แล้วนำเสนอเข้าที่ประชุม ก.ต.ต่อไป ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำละเมิดอำนาจศาล ก็จะดำเนินการต่อไป ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงสถาบันศาล ทำนองว่าเป็นเครื่องมือรัฐประหาร ที่ประชุม ก.ต.ยังไม่ได้หยิบยกเข้าสู่ที่ประชุม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook