ผู้นำสหรัฐมีแผนลดอาวุธนิวเคลียร์

ประธานาธิบดีสหรัฐเตรียมลดอาวุธนิวเคลียร์ตามสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะทำให้โลกปลอดอาวุธนิวเคลียร์

แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา มีแผน การลดอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐ แต่ยังคงไม่ชัดเจนว่า ประธานาธิบดีโอบามาเลือกที่จะฝ่าฝืนหลักการสำคัญของนโยบายในอดีต นอกจากนี้ รายงานระบุว่า การทบทวนลดอาวุธนิวเคลียร์ มีกำหนดแล้วเสร็จในปลายเดือนนี้ และยังส่งผลกระทบไปถึงการพัฒนาบังเกอร์-บัสเตอร์ ระเบิดยักษ์ขนาด 30,000 ปอนด์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อโจมตีเป้าหมายที่หลบซ่อนอยู่ใต้ดิน

คาดว่านายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐจะเสนอทางเลือกสุดท้ายให้แก่ประธานาธิบดีโอบามา เพื่อชะลอการทบทวนอาวุธนิวเคลียร์ โดยนายเกตส์ ถือเป็นรัฐมนตรีที่ทรงอิทธิพลในรัฐบาลสหรัฐชุดปัจจุบัน และไม่ค่อยเห็นด้วยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนโยบายอาวุธนิวเคลียร์ นอกจากนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ประธานาธิบดีโอบามาจะตัดสินใจต่อคำถามอย่างไร หากสหรัฐจะเปิดเผยต่อสภาวการณ์ใดสำหรับความเป็นไปได้ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์

พันธมิตรบางคนของโอบามาในสภาคองเกรส กำลังผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงจุดยืนในนโยบายของสหรัฐ ด้วยการอนุมัติให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพื่อตอบโต้ในกรณีที่เกิดการโจมตีด้วยอาวุธเคมีและชีวภาพ หรือแม้กระทั่งใช้โจมตีประเทศใดประเทศหนึ่งที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโอบามาเคยให้คำมั่นที่กรุงปรากของสาธารณรัฐเชกเมื่อเดือน เม.ย.ปีที่แล้วว่า เขาจะทำงานเพื่อให้โลกปลอดอาวุธนิวเคลียร์ สำหรับการทบทวนนโยบายนิวเคลียร์ของรัฐบาลสหรัฐมีขึ้น วันเดียวกัน อินเดียและปากีสถาน สองชาตินิวเคลียร์มีแผนการที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยของอาวุธนิวเคลียร์ที่ประธานาธิบดีโอบามาเป็นเจ้าภาพในเดือนหน้า คาดว่า นายกรัฐมนตรีมานโมฮัน ซิงห์ แห่งอินเดีย จะเดินทางไปกรุงวอชิงตันด้วยตัวเองระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย.

ส่วนที่เกาหลีเหนือ สำนักข่าวกลางเกาหลี ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลโสมแดง ส่งคำเตือนว่า การซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐในเดือนนี้ จะเป็นการคุกคามต่อความพยายามกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ให้หมดไปจากคาบสมุทรเกาหลี และประกาศเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อาวุธนิวเคลียร์ หากจำเป็น.