กรณ์ แจงผ่าน Facebook ยืนยันไม่ได้นิยมการปฏิวัติ

กรณ์ แจงผ่าน Facebook ยืนยันไม่ได้นิยมการปฏิวัติ

กรณ์ แจงผ่าน Facebook ยืนยันไม่ได้นิยมการปฏิวัติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรณ์ ยันไม่ให้เกิดการบิดเบือนจากการแสดงความเห็นและให้ทุกคนได้อ่านอย่างตรงไป ตรงมา

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในการแสดงความเห็นผ่าน Facebook หลังการตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยถูกระบุว่าเป็นผู้ที่นิยมให้เกิดการปฏิวัติ เพื่อไม่ให้เกิดการบิดเบือนจากการแสดงความเห็นและให้ทุกคนได้อ่านอย่างตรงไป ตรงมา จึงได้โพสต์ข้อความลงใน Facebook เพื่อให้ทุกคนได้อ่านโดยไม่ต้องรับฟังจากบุคคลอื่น โดยไม่คลาดเคลื่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ นายกรณ์ ได้โพสต์ข้อความลงใน Facebook อีกครั้ง โดยมีข้อความว่า "ยอมรับว่าคาดไม่ถึง บันทึกความรู้สึกเรื่องคดียึดทรัพย์ของอดีตนายกฯ ทักษิณ จะได้รับความสนใจมากถึงขนาดนี้ และแน่นอนที่สุด ก็มีทั้งผู้ที่อ่านแล้วเข้าใจคลาดเคลื่อน และผู้ที่มีเจตนาพยายามบิดเบือนความหมาย อยากให้ทุกคนที่เข้าใจผิดว่าผมสนับสนุนการปฏิวัติ กรุณากลับไปอ่านบทความของผมอีกครั้งหนึ่งนะครับ เพราะไม่มีตอนไหนในบทความที่เขียนว่าอย่างนั้นแม้แต่นิดเดียว ผมอยากเล่าเพิ่มเติมนะครับ ว่าคืนวันที่ 19 กันยายน 2549 (ในคืนปฏิวัติ) ระหว่างที่ผมยังตรวจสอบรัฐบาลในฐานะ ส.ส.ฝ่ายค้าน อยู่นั้น ผมรับทราบข่าวด้วยความเศร้าหมอง และผมจำได้ว่าภรรยาของผมพูดกับผมว่า "เขาปฏิวัติ เพราะเธอไม่สามารถเอาผิดคนขี้โกงได้"

ผมจำได้ว่า ผมนั่งไตร่ตรองในสิ่งที่ภรรยาของผมพูด และได้คิดว่า ถึงแม้ว่าผมได้พยายามแล้วที่จะกระตุ้น ก.ล.ต. กรมสรรพากร ปปง. ฯลฯ แต่ก็ล้มเหลว จึงสมควรที่จะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการ ปฏิวัติที่ได้อ้างเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเงื่อนไขและสาเหตุ และนับแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา ทุกอย่างที่ผมทำนั้นเป็นการแสดงความรับผิดชอบและพยายามป้องกันไม่ให้การ ปฏิวัติเกิดขึ้นอีก ดังนั้นถ้าท่านใดยังคิดว่าผมนิยมการปฏิวัติ กรุณาช่วยกลับไปอ่านบทความเดิมของผมอีกครั้งนะครับ และผมขอยืนยันความคิดที่ผมต้องการสื่อมากที่สุดในบทความนี้ ไม่ใช่ว่าผมคิดว่าควรยึดเงินเท่าโน้นเท่านี้ แต่คือประโยคนี้ครับ "ถ้าทุกคนทำตามหน้าที่ ความยุติธรรมก็จะปรากฏเสมอ โดยไม่ต้องมีคนมายัดเยียดให้กับเรา ด้วยการปฏิวัติ หรืออื่นๆ เราทำได้เองแต่เราทำไม่ได้ บทเรียนนี้ผมคิดว่าเป็นบทเรียนสำคัญจากคดีนี้ครับ" และตามด้วย "เพราะผมไม่แน่ใจว่า พวกเราชาวไทยได้เรียนรู้ในเชิงลึกจากเรื่องราวทั้งหมดนี้หรือไม่" ขอให้ท่านอ่านแล้วคิดกันเองแล้วกันครับ

ท้ายนี้ผมอยากจะฝากไว้ว่า ภูมิต้านทานการปฏิวัติที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตยที่แท้ จริงคือการมีรากฐานของนิติรัฐ หรือการที่สังคมให้ความเคารพต่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ซึ่งคล้องจองกับที่ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ กล่าวไว้ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า "หากว่าสังคมไม่เคารพกฎหมาย ก็ไม่มีจุดจบ" ตัวผมเองอยากจะพูดต่อว่า "หากว่าสังคมไม่เคารพกฎหมาย ประเทศไทยคงปกครองด้วยกฎหมู่" และได้ทิ้งท้ายอักษรปริศนาว่า "Post hoc ergo propter hoc" เพื่อให้ทุกคนถอดรหัสดังกล่าว".

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook