ปราจีนฯ ประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้ง 173 หมู่บ้าน ในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี

ปราจีนฯ ประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้ง 173 หมู่บ้าน ในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
จังหวัดปราจีนบุรี ประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้ง 173 หมู่บ้าน ในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี เร่งจัดหารถบรรทุกน้ำแจกจ่ายชาวบ้านที่ประสบภัยเป็นการด่วนแล้ว นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ว่า จังหวัดปราจีนบุรีได้เตรียมการให้การช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยแล้ง โดยการตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ขึ้น เพื่อรองรับสถานการณ์ภาวะภัยแล้ง ในเป้าหมายครอบคลุมทั้ง 7 อำเภอ 708 หมู่บ้าน ซึ่งผลของการติดตามผลการดำเนินงานสถานการณ์ภัยแล้ว ณ ปัจจุบัน (8 มี.ค.53) มีรายงานผลราษฎรประสบภัยแล้ว 14 ตำบล 173 หมู่บ้าน จึงประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นกรณีเร่งด่วน พื้นที่ตำบลได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน ดังกล่าวมีดังนี้ ตำบลนนทรี 10 หมู่บ้าน,ตบลวังดาล 16 หมู่บ้าน,นาแขม 11 หมู่บ้าน,หาดนางแก้ว 5 หมู่บ้าน,กบินทร์ 12 หมู่บ้าน,ลาดตะเคียน 8 หมู่บ้าน,เมืองเก่า 21 หมู่บ้าน,หนองกี่ 12 หมู่บ้าน,ย่านรี 12 หมู่บ้าน,เขาไม้แก้ว 11 หมู่บ้าน,บ่อทอง 10 หมู่บ้าน,วังตะเคียน 11 หมู่บ้าน,วังท่าช้าง 23 หมู่บ้าน และตำบลบ้านนาอีก 11 หมู่บ้าน จำนวนราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน 5,718 ครัวเรือน 18,834 คน พื้นที่นาเสียหาย 85 ไร่ พื้นที่ไร่เสียหาย 95 ไร่ โดยได้จัดรถบรรทุกน้ำอุปโภค บริโภค ไปให้การช่วยเหลือแล้ว จำนวน 200 เที่ยว ปริมาณน้ำ 1,630,000 ลิตร กับนำน้ำไปช่วยเหลือในพื้นที่การเกษตร 8 เที่ยว ปริมาณน้ำ 64,000 ลิตร และจะดำเนินการให้การช่วยเหลือต่อเนื่องไปไม่เกิน 3 เดือน ส่วนในพื้นที่อื่นที่เฝ้าระวังอยู่ในขณะนี้ มีรายงานที่ร้องขอความช่วยเหลือมา เป็นพื้นที่อำเภอศรีมโหสถ ได้รับความเดือดร้อนจากภัยแล้ว 4 ตำบล 7 หมู่บ้าน ได้ดำเนินการแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค ไปแล้ว 45 เที่ยว ปริมาณน้ำ 270,000 ลิตร นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ คาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้น จึงขอให้ราษฎรทุกพื้นที่ได้ช่วยกันตรวจสอบแหล่งน้ำพื้นที่ใดที่ควรจะทำเป็นฝายทดทด หรือฝายชะลอน้ำได้ให้เร่งดำเนินการ หากพื้นที่ไดไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ และมีการขาดแคลนน้ำอย่างถาวร ให้เร่งแจ้งต่อศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจในพื้นที่ตำบล-หมู่บ้าน หรือที่องค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ เพื่อจะได้เร่งหาแนวทางในการให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องต่อไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook