กอศ.ยืนยันตั้ง 19 สถาบันการอาชีวะ

ไม่เอาแน่นอนสถาบันเฉพาะทาง วอน''เสมา 1''ดึงกลับไปดูแลเอง

ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยผลการประชุม กอศ. วันที่ 9 มี.ค. ว่า จากกรณีที่มีข่าวว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่เห็นด้วยกับการรวมสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ทั้ง 415 แห่งมาจัดตั้งเป็นสถาบันการอาชีวศึกษา 19 แห่งนั้น จากการที่ตนไปชี้แจงกับคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงเรื่องการรวมสถานศึกษาอาชีวะก็ไม่ได้มีอะไรขัดข้อง เพียงแต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่ควรจัดตั้งสถาบันการอาชีวะพร้อมกัน 19 แห่ง แต่ควรทยอยเปิดตามความพร้อม และให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค

ประธาน กอศ. กล่าวต่อไปว่า กอศ.มีมติยืนยันการจัดตั้งสถาบันการอาชีวะโดยการรวมกลุ่มสถานศึกษาในกลุ่มจังหวัดตามยุทธศาสตร์ 19 กลุ่มจังหวัด ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 ม.ค. 51 และข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 จะไม่มีการเปลี่ยนเป็นสถาบันเฉพาะทางที่นำวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญสาขาเดียวกันมารวมกัน เพราะหลักการสำคัญของการจัดตั้งสถาบันการอาชีวะไม่ใช่มุ่งเปิดสอนระดับปริญญาตรีเท่านั้น แต่มุ่งเน้นการยกมาตรฐานการอาชีวศึกษา ยกระดับสถาบันที่อ่อนแอ มีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน สร้างความร่วมมือกับสถานประกอบการในการจัดการศึกษา และกระจายอำนาจการบริหารจัดการลงสู่สถานศึกษา

กอศ.มีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้ง การรวม และการแยกสถานศึกษาและสถาบัน ตามมาตรา 11 (2) พ.ร.บ.การอาชีวศึกษา ซึ่งที่ผ่านมา กอศ.ก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายจนแล้วเสร็จมากว่า 1 ปีครึ่งแล้ว แต่ที่ไม่สามารถออกกฎกระทรวงเพื่อจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาได้ เพราะการเมืองไม่นิ่ง และได้นักการเมืองที่ไม่เข้าใจมาดูแล จึงขอเรียกร้องให้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ลงมาดูแลและช่วยผลักดันการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาด้วยตนเอง เพื่อจัดตั้งได้ทันในปีการศึกษา 2553 นี้ ศ.ดร.ธีรวุฒิ กล่าว

น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตามที่ตนจะหารือร่วมกับผู้บริหารวิทยาลัยอาชีศึกษา 415 แห่ง ในวันที่ 11 มี.ค. ที่หอประชุมกองทัพบก เพื่อชี้แจงเหตุผลที่ต้องจัดตั้งเป็นสถาบันเฉพาะทางนั้น เนื่องจากช่วงเวลาตรงกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง จึงจะเลื่อนการจัดประชุมออกไปเป็นวันที่ 25 มี.ค. แทน.