ตลท.เตรียมแผนสำรองฉุกเฉิน

ตลท.เตรียมแผนสำรองฉุกเฉิน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ยันเปิดซื้อขายหุ้นได้ตามปกติ

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. ได้เตรียมแผนรองรับกรณีเกิดเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานในช่วง 12-15 มี.ค. โดยมีคณะทำงานติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะให้ความสำคัญกับ ระบบซื้อขายหลักทรัพย์ และระบบงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การซื้อขายหลักทรัพย์ สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมรองรับการซื้อขายของผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนี้ คณะทำงานแผนการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องขององค์กร ได้ซักซ้อมแผนเป็นประจำทุกปี โดยเตรียมแผนรองรับ กรณีที่เกิดเหตุให้พนักงานไม่สามารถเข้าปฏิบัติงานในอาคารได้ รวมถึงมีการสำรองระบบงานสำคัญไว้ เพื่อพร้อมปฏิบัติงานได้ทันทีเช่นกัน อีกทั้งได้ประสานไปยัง บล. ต่าง ๆ ให้เตรียมความพร้อมด้านระบบ เพื่อมั่นใจว่าการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนทั้งในประเทศและต่าง ประเทศจะดำเนไปได้อย่างต่อเนื่องแม้มีเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานในด้านอื่น ๆ

ทั้งนี้ ขอให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่า ตลท. มีแผนงานรองรับเพื่อให้การซื้อขายหลักทรัพย์ดำเนินไป ได้อย่างต่อเนื่อง และขอให้ผู้ลงทุนติดตามข้อมูลสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด โดยควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลข่าวสารที่ได้รับในช่วงนี้อย่างรอบคอบ เพราะเป็นสิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุนโดยตรง

นายวิรไท สันติประภพ รองผู้จัดการสายงานพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลท. กล่าวว่า ตลท. ได้เตรียมพร้อมรับมือการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงไว้หลายอย่าง โดยเตรียมไว้ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ 911 และได้ซ้อมแผนไว้แล้ว เพื่อเปิดการซื้อขายได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่น หากจำเป็นต้องปิดตึก ตลท. จะมีตึกและระบบการซื้อขายสำรองรองรับ ส่วนในวันที่ 15 มี.ค.นี้ ตลท. ยังเปิดดำเนินการตามปกติ แต่หากดัชนีปรับลดแรง จะมีมาตรการพักการซื้อขายชั่วคราว (เซอร์กิตเบรกเกอร์) รองรับ

ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นไทยจากนี้จนถึงสิ้นปี จะผันผวนมากขึ้นเช่นเดียวกับภาวะตลาดเงิน อัตราแลกเปลี่ยน และสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ที่จะปรับขึ้นลงเร็วในลักษณะฟันปลา เป็นผลจากการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศหลัก ๆ ทั่วโลก ซึ่งต่างคนต่างทำขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและฐานะทางการเงินการคลังของแต่ละประเทศ ทำให้เงินทุนพร้อมไหลเข้าและไหลออกได้เร็วตามอัตราผลตอบแทน ซึ่งตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา สะท้อนภาพรวมตลาดทั้งปีได้ดี

โดยการที่นักลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาซื้อสุทธิมากขึ้น ถือเป็นเครื่องมือชี้ความมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจของนักลงทุนที่มีมากขึ้นด้วย แต่การเมืองในประเทศยังเป็นปัจจัยที่น่าห่วงอยู่ ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook