รัฐลดทหารป้อมพระกาฬ-แดงยันคุมเองได้

รัฐลดทหารป้อมพระกาฬ-แดงยันคุมเองได้

รัฐลดทหารป้อมพระกาฬ-แดงยันคุมเองได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายอารีย์ ไกรนรา กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือ นปช. เปิดเผยว่าได้ประสานกับ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เดินทางมาช่วยเจรจากับกลุ่มทหารที่มาตั้งด่านอยู่บริเวณใกล้เวทีปราศรัย ถนนราชดำเนินกลาง เนื่องจากเกรงว่า อาจจะเกิดการปะทะกันขึ้นกับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงอาจเกิดความรุนแรงได้ จึงขอให้ด่านทหารดังกล่าวเคลื่อนย้ายออกไป ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้ นายอารีย์ เชื่อมั่นว่ากำลังการ์ดเสื้อแดงจำนวน 5,000 คนของกลุ่ม นปช.ในค่ำคืนวันนี้ว่าจะช่วยดูแลความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างเต็มความสามารถได้

อย่างไรก็ตาม นายอารีย์ ยังได้ปฏิเสธ ไม่ได้มีการร่วมกันรักษาความปลอดภัยกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกแต่อย่างใดทั้งสิ้นเป็นการดำเนินการของกลุ่ม นปช.เท่านั้น

ด้าน นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงแถลงภายหลังหารือทางโทรศัพท์กับ น.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ขอปรับลดกำลังทหารที่ป้อมพระกาฬว่าจะมีการถอยกำลังทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปแทนที่ เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ขณะเดียวกันก็มีความกังวลว่ากลุ่มคนเสื้อแดง 4 กลุ่มอาจก่อเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้น ได้แก่กลุ่มชักธงรบ กลุ่ม รักเชียงใหม่51 กลุ่มพิษณุโลก 49 และกลุ่ม นปช.ระนอง ตนจึงขอให้ น.พ.เหวง ประสานกับแกนนำทั้ง 4 กลุ่ม เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปหารือด้วยในเช้าวันพรุ่งนี้ โดยเชื่อว่า จะได้รับความร่วมมือ และจะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น ส่วนกรณีที่สถานการณ์อาจบานปลายจนต้องเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่นั้น เลขาธิการนายกฯ ระบุว่ารัฐบาลจะทำทุกวิถีทาง เพื่อไปให้ไปถึงขั้นนั้น

เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.) จะไม่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เพื่อประเมินสถานการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ยอมรับว่ามาตรการต่างๆ ได้เตรียมการไว้หมดแล้ว ส่วนจะพัฒนาเป็นการออกพระราชบัญญัติการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต แต่การบริหารประเทศ เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นมาก็สามารถทำได้หมด แต่ก็จะพยายามสิ่งเหล่านี้ไม่ให้มันเกิดขึ้น ดังนั้นการประสานงานกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมมีอารมณ์ก็ต้องรีบคุยกัน ทั้งนี้กลุ่มคนที่มีประวัติที่เป็นหัวรุนแรงก็อยากจะพูดคุย

ขณะที่ บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณข้างสะพานผ่านฟ้าลีลาศ แม้จะอยู่ในช่วงกลางดึก แต่กลุ่มผู้
ชุมนุมยังคงปรักหลักรับฟังการปราศรัยของแกนนำคนเสื้อแดงแต่ละคนที่สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นเวทีกันอย่างเนืองแน่น โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ได้กล่าวต่อผู้ชุมนุมว่าถ้า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศใช้พระราชกำหนด สถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ เนื่องจากรัฐบาลยังเกรงกลัวการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง จึงทำให้ผู้ชุมนุมรัวตีนตบโห่ร้องแสดงความไม่พอใจ ด้านสถานการณ์บริเวณพื้นที่โดยรอบ พ่อค้าแม่ค้าสองข้างทางถนนราชดำเนินนอก ยังคงขายสินค้าอุปโภคบริโภคกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาซื้อสินค้ากันอย่างเป็นระยะ


ทั้งนี้ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ประจำโฆษกสำนักนายกฯ กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมชิ้นส่วนเครื่องยิง M79 ว่า ชิ้นส่วนอุปกรณ์ดังกล่าว มีค่อนข้างมากจึงทำให้หลายฝ่ายกังวล เนื่องจากเป็นชิ้นส่วนอาวุธสงครามที่ผิดกฏหมาย โดยขณะนี้ทราบชื่อผู้จ้างวานแล้ว แต่อยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งที่ประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. ก็มิได้มีการสรุปว่าการจับกุมดังกล่าว มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงในขณะนี้หรือไม่

ขณะที่ การประชุม ศอ.รส. เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ที่ประชุมก็พอใจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในภาพรวม แม้จะมีปัญหาในบางจุดแต่ก็มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมแล้ว

ส่วน การออกหมายจับ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง นั้น โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่าจะต้องถามเหตุผลในการออกหมายจับ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง นายอริสมันต์ ก็ระบุแล้วว่าจะยอมรับกระบวนการกฏหมาย จึงไม่น่าจะเป็นปัจจัยที่จะนำไปสู่สถานการณ์ความรุนแรง


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook