คาดยอดขายรถยนต์ มี.ค. ไม่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนกุมภาพันธ์ 2553 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 54,175 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.7 ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 22,404 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.3 รถเพื่อการพาณิชย์ 31,771 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.0 รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตันในเซกเมนท์นี้ จำนวน 27,476 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.7

นายวุฒิกร กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่หกเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 89 เดือน เป็นผลมาจากเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาพืชผลการเกษตรที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าอุปทานในประเทศส่วนหนึ่งจะได้รับผลกระทบจากการปรับแผนการผลิตเพื่อรอง รับตลาดส่งออกที่เพิ่มขึ้นก็ตาม โดย ตลาดรถยนต์สะสม 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) มีปริมาณการขาย 103,735 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 55.3 ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 56.7

ส่วนตลาดรถยนต์ในเดือน มีนาคม คาดว่ายังคงเติบโต แม้ว่าการชุมนุมทางการเมืองอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและ เป็นปัจจัยกดดันตลาดรถยนต์ อย่างไรก็ตาม การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ รุ่นปรับปรุงโฉม รุ่นพิเศษ ข้อเสนอพิเศษและเงื่อนไขการเช่าซื้อที่หลากหลายจากค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ตลอดจนการจัดงานมอเตอร์โชว์ในช่วงปลายเดือนจะเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อการ เติบโตของตลาดรถยนต์

ทั้งนี้ เดือนกุมภาพันธ์ 2553 ตลาดรถยนต์รวม โตโยต้ายังครองอันดับที่ 1 ปริมาณขาย 21,493 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.1 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 39.7 รองลงมาคือ อีซูซุ 12,042 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.9 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 22.2 และฮอนด้า 7,854 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.1 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 14.5 ในส่วนของรถยนต์นั่งนั้น โตโยต้า ครองอันดับ ที่ 1 ขายได้ 9,403 คันเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.6 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 42.0 ตามด้วยฮอนด้า 7,326 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.5 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 32.7 และ มาสด้า 1,930 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 522.6 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 8.6 ส่วนตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันอันดับที่ 1 อีซูซุ 11,276 คันเพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.0 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 41.0 ตามด้วยโตโยต้า 10,889 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.3 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 39.6 และมิตซูบิชิ 1,910 คันเพิ่มขึ้นร้อยละ 95.3 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 7.0