รายงานพิเศษหวัดใหญ่ 2009 ตอนที่ 6

รายงานพิเศษหวัดใหญ่ 2009 ตอนที่ 6

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยรายงานการให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ส่อแววดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังซึ่งเป้นกลุ่มที่เสียชีวิตจากโรคนี้มากที่สุด แต่มีอัตราเข้ารับวัคซีนต่ำสุด ขณะนี้มีความเข้าใจและยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยสมัครใจมากขึ้น จนกลายเป็นกลุ่มที่รับวัคซีนสูงเป็นอันดับ 1 ในขณะนี้ จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุข ถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสชนิด A H1N1 เพิ่มขึ้นอีก 552 ราย ทำให้ขณะนี้ไทยมีผู้ป่วยสะสมรวมแล้ว 35,446 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังคงที่ อยู่ที่ 218 ราย ไร้ผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม ซึ่งผิดไปจากหลายสัปดาห์ในรอบเดือนกุมภาพันธ์ และต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งพบผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง รายงานการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งความวิตก และเป็นห่วงอย่างมากต่อกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 1 ใน 4 กลุ่มเสี่ยง ที่ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน แต่ไม่ยอมเข้ารับ จนกลายเป็นกลุ่มที่มีรายงานเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 สูงสุดและต่อเนื่องทุกสัปดาห์ การหายไปของจำนวนผู้เสียชีวิตในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา สอดคล้องกับรายงานการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้กับประชาชน ซึ่งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้สมัครใจเข้ารับการฉีดวัคซีนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนขณะนี้มีผู้รับวัคซีนไปแล้วกว่า 460,000 ราย ในจำนวนนี้กลุ่มที่ยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนมากที่สุด เป็นจำนวนเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ที่ยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งหมด นั้นคือกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง กว่า 220,000 ราย สร้างความประหลาดใจและโล่งใจอย่างมากแก่กระทรวงสาธารณสุข หลังเป็นห่วงกันอยู่นาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เป็นกลุ่มที่ยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนน้อยที่สุด แต่หลังจากมีการระดมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุข และร้านขายยาทั่วประเทศ ช่วยกันทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 ความจำเป็นและความปลอดภัยในการเข้ารับวัคซีน ก็ทำให้กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง กลายเป็นกลุ่มที่เข้ามาใช้บริการฉีดวัคซีนสูงที่สุด แซงหน้ากลุ่มบุคคลากรทางการแพทย์ ที่เคยครองอันดับ 1 ในการเข้ารับมากฉีดวัคซีนสูงสุดมาตั้งแต่เริ่มนำวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ฉีดให้กับประชาชนในช่วงเดือนมกราคม 2553 โดยขณะนี้ยอดผู้มารับวัคซีนในกลุ่มบุคคลากรทางการแพทย์ อยู่ที่ 195, 068 ราย รองลงมาคือกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ 22,417 ราย กลุ่มคนอ้วน 14,851 ราย และผู้พิการ 5,694 ราย (---เสียง---) ถ้อยคำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่เริ่มเห็นถึงความสำคัญของการสร้างภูมิคุ้มกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ด้วยการรับการฉีดวัคซีน ที่ถึงแม้จะเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเป็นยอดที่ห่างไกลจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ ว่าจะต้องให้วัคซีนแก่กลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่ม และบุคคลากรทางการแพทย์ รวม 2 ล้านคนให้ได้ภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ แต่ก็ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาการฉีดสิ้นเดือนนี้แล้ว กลุ่มเป้าหมายยังมารับวัคซีนไม่ครบ ก็จะมีการหารือกับคณะผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งว่าสถานการณ์โรค ยังอยู่ในระดับที่จะขยายกรอบเวลาออกไปอีก จนกว่าจะให้วัคซีนครบ หรือจะเกินเวลาที่จะสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีน เพราะการที่กำหนดเวลาการให้วัคซีนเป็นช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม 2553 เนื่องจากเป็นช่วงที่เชื้อยังอยู่ในการควบคุมของวัคซีน ซึ่งมั่นใจว่าผู้ได้รับวัคซีนจะได้รับประสิทธิภาพเต็มร้อยในการสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสตัวนี้ แต่จนถึงวันนี้การต่อเวลาออกไป ปัญหาไม่ได้อยู่ที่อายุของวัคซีนแต่อยู่ที่ภาวะโรค หากเชื้อยังไม่พัฒนาก้าวข้ามสายพันธุ์ วัคซีนตัวนี้ก็ยังจะเป็นอาวุธป้องกันที่ดีที่สุดต่อไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook