สำนักงานประกันสังคม เผย ลูกจ้างร้องนายจ้างค้างส่งเงินสมทบ ตั้งแต่มกราคม ปี 52 จนถึง มกราคม ปี 53 กว่

สำนักงานประกันสังคม เผย ลูกจ้างร้องนายจ้างค้างส่งเงินสมทบ ตั้งแต่มกราคม ปี 52 จนถึง มกราคม ปี 53 กว่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สำนักงานประกันสังคม เผย ลูกจ้างร้องนายจ้างค้างส่งเงินสมทบตั้งแต่มกราคมปี 2552 จนถึงมกราคมปี 2553 กว่า 1,361 ราย หากตรวจพบนายจ้างจงใจไม่ส่งเงินสมทบมีโทษทั้งจำและปรับ นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.)กล่าวเตือนนายจ้างที่มีพฤติกรรมหรือส่อเจตนากระทำผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติประกันสังคมว่า ด้วยการหักเงินสมทบจากลูกจ้าง ผู้ประกันตนแต่ไม่ยอมนำส่งเข้ากองทุนประกันสังคม ส่งผลให้ลูกจ้างที่ไปขอรับประโยชน์ทดแทนจาก สปส.ไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ โดยใช่วงเดือนมกราคม 2552 มกราคม 2553 มีลูกจ้างมาร้องเรียนว่า นายจ้างหักเงินสมทบแล้วไม่นำส่งจำนวน 1,361 ราย สปส.จึงได้เร่งรัดติดตามให้นายจ้างมาดำเนินการจัดส่ง ส่วนสาเหตุที่ไม่ยอมนำเงินส่งกองทุนมีทั้งจงใจ ลืมนำส่ง และขาดสภาพคล่องไม่สามารถนำส่งได้ ซึ่งนายจ้างบางรายถูกอายัดทรัพย์ บางรายทำเรื่องรับสภาพหนี้กับสปส. ส่วนนายจ้างที่จงใจไม่นำส่ง เมื่อ สปส.ติดตามทวงหนี้แล้วยังเพิกเฉย จะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ อย่างไรก็ตาม สปส.ได้ติดตามทวงเงินสมทบที่นายจ้างค้างจ่ายได้ทั้งสิน 3,104 ล้านบาท เลขาธิการประกันสังคม กล่าวอีกว่า นายจ้างที่ค้างจ่ายเงินสมทบจะต้องชำระเงินตาระยะเวลาที่ขาดส่ง ซึ่งในส่วนของกองทุนเงินทดแทนนายจ้างจะต้องชำระเพิ่มในอัตราร้อยละ 3 ต่อเดือนของเงินสมทบที่ยังค้างชำระ และชำระเพิ่มในอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือนของเงินที่ยังไม่ได้นำส่ง เข้ากองทุนประกันสังคม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook