ล้วง ลึก มาเฟียลูกหนัง ในวันฟ้าเปลี่ยนสี

ล้วง ลึก มาเฟียลูกหนัง ในวันฟ้าเปลี่ยนสี

ล้วง ลึก มาเฟียลูกหนัง ในวันฟ้าเปลี่ยนสี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หลังมีข่าวความวุ่นวายอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งฤดูกาล 2009-2010 แม้กระทั่งการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก.

ท่าน ดาโต๊ะ วิจิตร เกตุแก้ว ได้เผยถึงความคิดในมุมมองต่างๆ ของผู้คร่ำหวอดในวงการฟุตบอล มายาวนาน กว่า 50 ปี โดยเริ่มตั้งแต่การเป็นผู้ตัดสินฟุตบอล จนก้าวขึ้นมาเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก่อนที่จะอาสาเข้ารับหน้าที่เป็นนายกสมาคมผู้ตัดสินแห่งประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาเรื้อรังของวงการผู้ตัดสินในประเทศไทย ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากแฟนบอลชาวไทยมาโดยตลอด

@ สวัสดีครับท่าน ดร.วิจิตร เกตุแก้ว
สวัสดีครับ

@ ขอเรียนถามถึงบทบาท ความเป็นมาของสมาคมผู้ตัดสินแห่งประเทศไทย รวมทั้ง วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสมาคมฯ วัตถุประสงค์หลักของสมาคมฯ เกิดขึ้นเนื่องจากต้องการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยเป็นหลัก และการจัดตั้งครั้งนี้ถือเป็นการจัดตั้งสมาคมผู้ตัดสินอย่างเป็นทางการเป็นประเทศแรกของกลุ่มสมาคมฟุตบอลในโซนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ตัดสินไทยเป็นมืออาชีพ และเป็นต้นฉบับ-ต้นแบบ ของผู้ตัดสิน

นอกจากนี้การที่มีสมาคมฯ จะทำให้เกิดผู้ตัดสินอาชีพอย่างเป็นทางการ ใครตัดสินดีก็จะมีเงินเพิ่มขึ้นไม่จำเป็นต้องทำงานอย่างอื่น ซึ่งจะถือว่าเป็นอาชีพผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอลเหมือนในประเทศในยุโรป เป้าหมายอย่างแรกที่เราต้องการที่จะจัดตั้งให้เกิดสมาคมฯ คือเราต้องการให้แฟนบอลในประเทศไทย เชื่อมั่นและยอมรับว่ากรรมการที่ตัดสินในการแข่งขันฟุตบอลในประเทศไทยทุกระดับเชื่อถือได้ในความโปร่งใส และการตัดสินที่ไม่มีนอกไม่มีใน ทุกอย่างตรวจสอบได้


@ เป้าหมายของสมาคมฯ ในการบริหารงาน และแผนงานที่เกิดขึ้นในอนาคต
ตอนนี้ผมมีโครงการที่จะส่งเสริมผู้ตัดสินไทยให้ก้าวไปสู่การตัดสินในระดับเอเซีย และระดับโลก ทางสมาคมฯ ได้วางแผนการพัฒนาผู้ตัดสินในระดับเยาวชน โดยจะส่งเสริมให้มีโรงเรียนของผู้ตัดสินโดยเฉพาะ ผู้ตัดสินทุกคนที่เข้าโครงการฯ ไม่จำเป็นต้องเรียนจบในระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก ทุกคนสามารถทำหน้าที่ผู้ตัดสินได้ ทางสมาคมฯ จะมีการจัดตั้งโรงเรียนสำหรับผู้ตัดสินโดยเฉพาะ และจะสนับสนุนผู้ตัดสินทุกคน ในโครงการณ์ของสมาคมฯ ให้มีส่วนในการตัดสิน ตั้งแต่ในระดับเยาวชนขึ้นไป เช่นจาก 12 ปี, 14 ปี 18 ปี 20 ปี รวมทั้งฟุตบอลระดับท้องถิ่นทั้งหมด โดยมีการเก็บสถิติ ผลงานการตัดสินของแต่ละคนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยไม่มีการแบ่งแยก และผู้ตัดสินที่มีผลงานในระดับมาตรฐานที่สมาคมฯ ตั้งไว้ก็จะได้รับโอกาสในการเข้าทดสอบผู้ตัดสินของ AFC และ ฟีฟ่า ต่อไปในอนาคต


นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังมีแผนที่จะส่งผู้ตัดสินเข้าไปอบรมนักฟุตบอลในสโมสรต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยผมได้มอบหมายให้ อาจารย์ภิรมย์ อั๋นประเสิรฐ ซึ่งเป็นผู้มีความสามารถที่ได้รับการยอมรับจากในประเทศ และต่างประเทศ ให้เป็นผู้ดูแลโครงการนี้ เพราะ อ.อั๋น ในตอนนี้ต้องยอมรับว่า แกมีความรู้มากที่สุดในประเทศไทย และยังได้รับการยอมรับจากนานาชาติ รวมทั้งยังเป็นวิทยากรของ AFC ด้วย เรื่องความรู้ความสามารถไม่ต้องห่วง ผู้ตัดสินมันก็เหมือนกับนักกอล์ฟ มันต้องมีประสบการณ์มันถึงจะทำได้ดี และการที่เราส่งคนที่มีประสบการณ์ระดับสูงทั้งการผ่านการตัดสินฟุตบอลโลก ไปอบรมผู้ตัดสินทั่วไป มันจึงเป็นเรื่องที่ดีที่มีคนมีประสบการณ์ไปอบรม

@ ไม่ทราบว่า ทางสมาคมฯ มีแผนการรองรับ และการจัดการ ผู้ตัดสินที่อยู่ต่างจังหวัด อย่างไร ? สมาคมฯ มีแผนที่จะพัฒนาผู้ตัดสินให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยมีสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ที่สนามศุภชลาศัย เป็นสำนักงานใหญ่ และจะแบ่งการบริหารออกเป็นภูมิภาคเช่น ภาคเหนือ จะมีศูนย์ของสมาคมฯ อยู่ที่สถาบันการพละศึกษา, เชียงใหม่ ตั้งอยู่ในการกีฬาแห่งประเทศไทย, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ที่สถาบันการพละศึกษา จ.มหาสารคาม และ จ.นครราชสีมา, ภาคกลาง ตั้งอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี, ภาคตะวันออกอยู่ที่ จ.ระยอง, ภาคใต้อยู่ที่จ.สงขลา

ทางสมาคมฯ ที่อยู่ในส่วนภูมิภาค จะเป็นผู้รวบรวมผลงานการตัดสินและสถิติต่าง ๆ มายังส่วนกลาง หลังจากนั้น และสมาคมฯ จะเป็นผู้กำหนดแผนการ การบริหาร แผนดำเนินการต่าง ๆ ไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทำให้การบริหารทุกอย่างเหมือนกันทั่วประเทศ รวมทั้ง บทลงโทษต่าง ๆ ส่วนกลางจะเป็นผู้ที่พิจารณาลงโทษ เพิ่มโทษ-ลดโทษ รวมทั้ง ระบบการจ่ายเงินค่าจ้าง

@ขั้นตอนการรับสมัครผู้ตัดสินเป็นอย่างไร ? และได้จำเป็นไหมต้องจบปริญญาตรี ?

อย่างที่เรียนบอกไปแล้ว ทางสมาคมฯ ไม่ได้ตั้งวุฒิการศึกษาขั้นต่ำของผู้ตัดสิน แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ทางสมาคมฯ ตั้งไว้ เช่น ต้องไม่เป็นผู้ที่มีหนี้สินต่าง ๆ รวมทั้ง เป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพดี สุขภาพดี และต้องผ่านการคัดเลือกตามขั้นตอน และต้องสอบผ่านการทดสอบภาคทฤษฎี และ ปฏิบัติ เช่น การการทดสอบการวิ่ง การทดสอบสภาพความฟิต และ ทดสอบการตัดสิน ทุก ๆ อย่าง มันมีขั้นตอนของมันอยู่ ไม่ใช่ว่าอยู่ ๆ จะจับเอาใครก็ได้มาตัดสิน มันทำไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของสมาคมฯ

@ อาจารย์เป็นผู้ตัดสินมาก่อน และก็เคยเป็นนายกฟุตบอลสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ถ้าจะให้อาจารย์ลองย้อนกลับไปในอดีต แล้วมาสะท้อนภาพในปัจจุบัน อาจารย์มองว่า ฟุตบอลในบ้านเราเป็นอย่างไร รวมทั้ง ภาพของผู้ตัดสินด้วย

เมื่อก่อนวงการฟุตบอลและผู้ตัดสิน มีน้ำใจนักกีฬา มากกว่าสมัยนี้ เมื่อก่อนผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้ง่ายกว่า เพราะทุก ๆ คนรู้ว่า แพ้ก็คือแพ้ ชนะก็คือชนะ นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องมีมารยาท มีความเข้าใจว่า ผู้ตัดสินก็ลงตัดสินตามหน้าที่ แพ้ก็ทักกัน ชนะก็ทักกัน ทุกคนรู้จักกัน ทุกคนเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นเพื่อนกันหมด แต่สมัยนี้ มันไม่ใช่ทุกอย่าง มันเป็นธุรกิจไปหมดแล้ว เพราะแต่ละทีมลงทุนไปเยอะ มันเลยแพ้ไม้ได้ มันต้องย้อนมาดูว่า นักเตะในทีมเราดีแค่ไหน สู้เข้าได้ไหม ถ้าไม่ได้มันก็ต้องยอมรับ ฟุตบอลไม่ใช่การนอนหลับแล้วฝัน ฝันมันเป็นได้ทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่คิดไม่ได้ ถ้าทีมเรามีสภาพความพร้อมแค่นี้ เราจะไปฝันว่า เราจะเอาชนะทีมอังกฤษได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้ ทุก ๆ อย่าง จะต้องเริ่มพัฒนาจากตัวเราเองก่อน ทีมที่มันอยู่ในระดับเดียวกันโอกาส ชนะ เสมอ แพ้ มันไม่ต่างกันมาก มันเกิดขึ้นได้หมด แต่จังหวะการเล่น และกรรมการ มันก็มีส่วนที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้มันเป็นเรื่องจริง



และถ้าหากว่า เราต้องการให้เกิดการพัฒนาไปพร้อมๆ กันนั้น ผมต้องขอเรียนว่าทุกๆ อย่างจะต้องพัฒนาไปพร้อมๆ กันทั้งผู้ตัดสิน ผู้เล่น โค้ช และแฟนบอล มันต้องไปพร้อมกันหมดเราต้องเปลี่ยนทัศนคติอะไรบางอย่างให้หมดไป เช่น การมองว่า ผู้ตัดสินไม่เป็นกลางเข้าข้างอีกทีมทำไม่เข้าข้างทีมเรา ผู้ตัดสินก็เป็นคนที่สามารถผิดพลาดได้ เราควรให้ความเป็นธรรมกับเขา ผลการแข่งขัน จะออกมาในรูปแบบไหน ก็ต้องยอมรับมัน แต่จะผิดถูกอย่างไร ก็มาคุย ปรึกษาหารือกัน ฟุตบอลในประเทศมันถึงจะพัฒนาไปได้ การพัฒนาฟุตบอลของประเทศมันต้องมีการพัฒนาผู้ตัดสินควบคู่ไปด้วย เพราะผู้ตัดสินเป็นผู้ควบคุมข้อบังคับต่างๆ ให้การแข่งขันดำเนินไปได้ ถ้าเปรียบเทียบทางกฎหมายมันก็เหมือนกับตำรวจ ที่มีหน้าที่ดูแลกฎหมายประชาชนต้องปฏิบัติตาม ตราบใดถ้าผู้เล่นทีมชาติไทย หรือผู้เล่นทุกคน ไม่เชื่อกรรมการ มันก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับผู้ตัดสินเรื่อยไป เพราะไปเล่นที่ต่างประเทศกฎทุกๆ อย่าง มันเหมือนกันหมด เพราะใช้กติกาอันเดียวกันทั้งโลก ในช่วงที่ผมหายไปจากวงการฟุตบอล เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นอย่างไรผมไม่รู้ แต่ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว บทลงโทษที่เกิดจากการไม่เคารพผู้ตัดสินมันต้องเกิดขึ้น เพราะว่า มันจะเป็นพื้นฐานที่นักฟุตบอล จะต้องรู้ว่า ในสนามผู้ตัดสินเป็นคนที่ไม่สามารถแตะต้องได้

@ อาจารย์คิดยังไงกับการที่คนทั่วไป มองว่าสมาคมฟุตบอลเอนเอียงไปทางสโมสร เมืองทอง มากกว่าทีมอื่นๆ ผมไม่มีความเห็นในเรื่องของเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ที่มีต่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในตอนนี้ ผมมีความเห็นแค่เพียงเรื่องผู้ตัดสินเท่านั้น เพราะผมกำลังทำหน้าที่ในสมาคมฯ นี้ ส่วนมุมมองของผู้ตัดสินต่อการตัดสินในเกมที่เมืองทองฯลงสนามนั้น ผมมั่นใจว่าไม่มีการเข้าข้างใคร พวกเราจะเข้าข้างผู้ตัดสินเท่านั้น ทีมของเราคือทีมผู้ตัดสิน สมาคมฯ คิดแค่เพียงทำอย่างไรให้ผู้ตัดสินให้ได้รับคำชมเชยให้ได้รับความศรัทธาจากแฟนบอล และไม่มีผู้ตัดสินคนไหน ที่จะเข้าข้างทีมนู้นทีมนี้ ผมและสมาคมฯ เชื่อแบบนั้น บางครั้งความใกล้ชิดของผู้ตัดสินคนนั้นๆ กับทีมต่างๆ มันก็มีเหมือนกัน เพราะเป็นคนในวงการเดียวกัน ไม่เจอหันหรือไม่รู้จักกันมันเป็นไปไม่ได้ แฟนบอลส่วนใหญ่เขามองกันไปเอง เขาคิดไปเองว่า การที่รู้จักกันจะต้องเข้าข้างกัน มันเป็นเรื่องบังเอิญ ที่ผู้ตัดสินบางคนก็ตัดสินค้านสายตาเข้าพอดี

บางจังหวะอาจผิดพลาดบ้าง หรือบางทีแฟนบอล เขาก็คาดการณ์ไว้แล้วว่า คนนี้ต้องช่วยคนนี้ความจริงมันไม่ใช่ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เพราะผู้ตัดสินก็เป็นมนุษย์มันผิดพลาดได้ แต่เรื่องของการเข้าข้างนั้น ผมยืนยันได้ว่า ไม่มี

@ มาตรการการคุ้มครองผู้ตัดสินก่อนการแข่งขันและหลังแข่งขัน ทางสมาคมฯ ได้วางแผนไว้อย่างไรครับ??
ในเรื่องของการดูแล รักษความปลอดภัยผมและทาง TPL (บริษัทไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก) ยังต้องมีการเจรจาร่วมกันก่อนที่จะสรุปผล แต่เบื้องต้น เรามีการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ตัดสินอย่างเต็มที่ ไม่ว่า จะเป็นการรักษาความปลอดภัย หรือการดูแลเรื่องสวัสดิการต่าง ๆผมไม่อยากเห็นตำรวจเอารถไปรับกรรมการมันดูไม่มีศักดิ์ศรี การที่ผู้ตัดสินมาทำงานแล้วได้เงินเดือนครั้งละเป็นแสนผมว่าน่าเสี่ยงกว่า ทุกคนทำมาหากินส่วนเรื่องของการรับสินบนที่มีเสียงวิจารณ์มาตลอด ผมมองว่าอาชีพหลักเขาไม่ใช่คนที่จะมาล้มบอล และไม่ได้คิดที่จะมารับสินบน ผู้ตัดสินทุกคนเขาต้องการเกียรติยศชื่อเสียงให้ตัวเขาให้ครอบครัวให้วงศ์ตระกูล และทำงานตรงนี้เพื่อประเทศชาติ และที่สำคัญการได้ไปตัดสินที่ฟุตบอลโลก เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ มันจะมาเองไม่ต้องทำแบบนี้หรอก

@ ในตอนนี้ทางสมาคมฯ มีแผนการณ์รองรับในเรื่องของการควบคุมสภาพความพร้อมของผู้ตัดสินอย่างไร ?
ผู้ตัดสินทุก ๆ คนของสมาคมฯ จะต้องเข้ารับการทดสอบความฟิตทุก ๆ อาทิตย์ โดยในส่วนของภูมิภาคก็จะมีการทดสอบสภาพความฟิตในศูนย์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังมีการเช็กความพร้อมในเรื่องของกฎ กติกา ในการตัดสิน ส่วนในกรุงเทพฯ ทางสมาคมฯ มีการทดสอบความฟิตของผู้ตัดสินที่สนามเทพหัสดินทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.00 -12.00 น. กรรมการทุกคนที่สังกัดสมาคมฯ จะต้องมาทำการทดสอบประจำสัปดาห์ หรือตามที่สมาคมฯ กำหนด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook