สตช.ยังไม่สรุปข้อบกพร่องย้ายจ่าเพียร

โฆษก สตช. เผย อนุ กก.ตร. ยังไม่สรุปข้อบกพร่อง การย้าย "พ.ต.อ.สมเพียร" อ้างเอกสารยังไม่ครบ พร้อมเรียก ผู้บัญชาการภาค 9 ให้ข้อมูลเพิ่ม ปฏิเสธตอบ มีนักการเมืองเอี่ยว

พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก สตช. เปิดเผยถึงการประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจ เพื่อพิจารณาและหาคนรับผิดชอบ กรณีการแต่งตั้งโยกย้าย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากเดินทางเข้าร้องทุกข์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยระบุว่า ในวันนี้เป็นการพิจารณา 2 วาระ ประกอบด้วย การแต่งตั้ง โยกย้ายเป็นไปตามกฎหมายของ ก.ตร.หรือไม่ และวาระ ที่ 2 เป็นการพิจารณาว่าด้วยการแต่งตั้งโยกย้าย มีจุดบกพร่องตรงไหนบ้าง เพื่อหาคนรับผิดชอบ ซึ่งผลการประชุมในวันนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า มีจุดบกพร่องอยู่ตรงไหน เนื่องจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานทั้งหมด ที่มีการร้องทุกข์เข้ามายังไม่ครบถ้วน พร้อมกันนี้เตรียมเชิญผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ สชต. มาจี้แจงด้วยตนเองในวันที่ 30 มี.ค. เวลา 13.30 น. พร้อมกันนี้ยังปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายหรือไม่

อย่างไรก็ตามโฆษก สตช. ยังกล่าวด้วยว่า การเสียชีวิต ของ พ.ต.อ.สมเพียร ถือเป็นการจุดประกาย ให้มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ครั้งต่อไปต้องมีบรรทัดฐานที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โดยเฉพาะข้าราชการตำรวจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ด้าน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุม เรื่องสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในภาพรวมของข้าราชการตำรวจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องสิทธิประโยชน์จำนวน 10 ข้อ ที่ข้าราชการตำรวจในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ควรจะได้รับเป็นกรณีพิเศษ หรือ ครอบคลุมในเรื่องต่าง ๆ อาทิ สิทธิในการนับอายุราชการตำรวจทวีคูณ และสิทธิในการรับเบี้ยเลี้ยง หลังจากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหากเทียบกับหน่วยอื่น จะมีการพิจารณาให้ได้มากกว่า ทั้งนี้ สิทธิในบางเรื่องนั้น ก็ได้รับอยู่แล้ว ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จากนี้ไป จะต้องมีการพิจารณาให้ย้ายออกจากพื้นที่ให้มากขึ้น ซึ่งสิทธิต่างๆ รวมถึงรายละเอียด หลังการประชุมในวันนี้ จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการย่อยขึ้นมา เพื่อพิจารณาร่วมกันระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สชต. เพื่อลงลึกในรายละเอียด และหาข้อสรุปเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งส่วนที่เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจหรือ ก.ตร. ก็จะนำเสนอให้ทราบต่อไป

นอกจากนี้ ยังระบุถึงกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะ กรณีของ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ด้วยว่า ในส่วนของตนเองนั้น ยืนยันว่า ไม่มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงแน่นอน แต่จะเข้าแทรกแซงในส่วนใดกระบวนการขั้นตอนใดนั้น ตนเองก็ไม่ทราบ ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะอนุกรรมการก.ตร.ร้องทุก ซึ่งจะต้องตรวจสอบต่อไป