รวบแล้ว "ปรีชา" สาวชิงทองในห้าง แต่งตัวสวยมาทำแผน รู้เหตุผลที่เป็นโจรแล้วอึ้ง

รวบแล้ว "ปรีชา" สาวชิงทองในห้าง แต่งตัวสวยมาทำแผน รู้เหตุผลที่เป็นโจรแล้วอึ้ง

รวบแล้ว "ปรีชา" สาวชิงทองในห้าง แต่งตัวสวยมาทำแผน รู้เหตุผลที่เป็นโจรแล้วอึ้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รวบแล้ว "ปรีชา" สาวข้ามเพศก่อเหตุชิงทองในห้าง แต่งตัวสวยมาทำแผน รู้เหตุผลที่เป็นโจรแล้วอึ้ง หาเงินไปล้างแค้น

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 4 ม.ค. 67 พ.ต.ท.พิชัย ขุนทองแก้ว สว.สอบสวน สภ.สะเดา รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์ร้านทอง ที่ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาโลตัสสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา พร้อมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุร่วมกับตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนและเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานพบว่า คนร้ายได้สร้อยคอทองคำไป 8 เส้น เส้นละ 3 บาท รวมน้ำหนักทอง 24 บาท มูลค่ากว่า 8 แสนบาท ส่วนพนักงานที่อยู่ในร้านซึ่งเป็นผู้หญิง 3 คนปลอดภัยและอยู่ในอาการตกใจ 

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในห้างพบคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว มีลักษณะคล้ายสาวประเภทสอง และมีการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อปิดบังใบหน้า ถืออาวุธมีดเข้ามาภายในร้าย ก่อนจะปีนขึ้นเคาน์เตอร์พร้อมกวาดสร้อยคอทองคำในตู้ชั้นบน และวิ่งหลบหนีไปโดยใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ GPX รุ่น Drone ติดป้ายทะเบียนสีแดง ประยูร ก – 3837

และในวันเดียวกันตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.สะเดา สามารถแกะรอยติดตามจับกุม คนร้ายรายนี้ได้แล้วหลังจากที่มากบดานอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไม่ได้หลบหนีเข้ามาเลเซียตามที่คาดการณ์ไว้ในช่วงแรก ทราบชื่อต่อมา คือ นายปรีชา อายุ 20 ปี หรือ เทียน เป็นชาว ต.ท่าอยู่ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ก่อนหน้านี้เข้าไปทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซียและเพิ่งเดินทางกลับมาไม่นาน โดยเจ้าหน้าที่ตามแกะรอยไปจับกุมได้ขณะเปิดห้องพักอยู่ที่แมนชั่นแห่งหนึ่งย่านถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 กลางเมืองหาดใหญ่ พร้อมกับยึดสร้อยคอทองคำทั้ง 8  เส้นคืนมาได้ทั้งหมดซึ่งเก็บไว้ใต้หมอน พร้อมกับอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ 

จากการสอบสวน นายปรีชา ยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองในห้างโลตัสจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้เอาโทรศัพท์มือถือไปแลกเช่ารถจักรยานยนต์ในพื้นที่ อ.สะเดา เพื่อขับมาก่อเหตุ หลังจากชิงทองเสร็จก็ขับรถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งไว้เพื่อให้เจ้าของไปตามคืนเพราะรถติดจีพีเอสอยู่แล้ว และจ้างรถเก๋งของชาวบ้านให้ขับมาส่งที่ อ.หาดใหญ่ โดยทั้งหมดนี้ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว ไม่มีคนอื่นเกี่ยวข้อง และไม่ได้วางแผนล่วงหน้ามาก่อน หลังจากที่ก่อเหตุก็รู้ดีว่าตำรวจกำลังตามจับเพราะตลอดเส้นทางตั้งแต่ อ.สะเดา มา อ.หาดใหญ่ มีการตั้งด่านตรวจตลอด ส่วนที่เลือกก่อเหตุร้านทองร้านนี้เพราะลงมือสะดวกอยู่ใกล้ห้องน้ำ และขอโทษที่ก่อเหตุลงไปแต่ยังไงร้านทองก็มีประกันอยู่แล้ว 

ส่วนสาเหตุที่ทำไปนั้น นายปรีชา บอกว่า เพราะต้องการเงินเอาไปซื้อปืนเพื่อไปฆ่าลูกน้องเก่าที่ร่วมกับแฟนเก่าของตัวเองโกงเงินไปหลายแสนบาท และเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 5 ม.ค. 67 พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา ได้คุมตัว นายปรีชา อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยก่อนพาตัวไปทำแผนได้มีการแถลงชี้แจงรายละเอียดของคดีนี้ พร้อมกับ นำนายปรีชา มาขอโทษกับทางตัวแทนร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯ ซึ่งนายปรีชา ที่มาในชุดเสื้อเกาะอกสีขาวสวยงา สำนึกผิดร่ำไห้และพูดเพียงสั้นๆ ขอโทษทุกฝ่ายที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย 

ขณะที่ทางตัวแทนร้านทองได้นำกระเช้ามาแสดงความขอบคุณตำรวจ สภ.สะเดา ที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ด้าน พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา กล่าวถึงคดีนี้่ว่าหลังตำรวจรับแจ้งเหตุ ซึ่งเกิดขึ้นเวลา 17.30 น. ก็ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดทันที โดยในตอนแรกมีการแจ้งรถเป้าหมายผิดคันโดยระบุว่าเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX แต่จริงๆแล้วเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ GPX รุ่น Drone และคนร้ายน่าจะขับผ่านด่านตรวจที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้างด้วยซ้ำ แต่เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจึงรู้รถเป้าหมายและตำหนิรูปพรรณคนร้าย ก่อนสอบสวนขยายผลจนทราบว่ายืมมาจากพื้นที่บ้านด่านนอกชายแดนไทยมาเลเซีย นำไปสู่การแกะรอยติดตามจับกุมคนร้ายซึ่งได้หลบหนีออกจากพื้นที่ อ.สะเดา ไปยัง อ.หาดใหญ่ เวลา 18.40 น. และทำการจับกุมได้ในเวลา 23.30 น. 

ผกก.สะเดา กล่าวว่า จริงๆ แล้วคนร้ายไม่ได้ตั้งใจจะชิงทรัพย์ร้านทองร้านนี้ เพราะในโทรศัพท์มือถือเป็นเป้าหมายร้านทองออโรร่าที่ อ.หาดใหญ่ แต่เหตุที่ลงมือที่ร้านทองในห้างโลตัส สะเดา เพราะว่าอยู่ใกล้ และเดินเข้าออกดูลาดเลา 2 รอบ ประกอบกับอยู่หน้าห้องน้ำลงมือสะดวกจึงลงมือก่อเหตุ และคดีนี้ลงมือเพียงคนเดียว ส่วนคนอื่นๆ ทั้งเจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ขับมาก่อเหตุ และเจ้าของรถเก๋งที่ขับพาไปส่งที่ อ.หาดใหญ่ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด 

จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนและงานป้องกันปราบปราม สภ.สะเดา และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้นำตัวนายปรีชา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเริ่มจากจุดแรกซึ่งเป็นร้านขายตั๋วโดยสารเดินทางเข้ามาเลเซีย ที่ด่านนอกชายแดนไทยมาเลเซีย ที่นายปรีชา ไปซื้อตั๋วรถโดยสารไปยังมาเลเซีย และยืมรถจักรยานยนต์จากญาติของเจ้าของร้านขายตั๋วอ้างว่าจะขับไปทำธุระ 15 นาที จุดที่ 2 เป็นร้านโทรศัพท์มือถือซึ่งนำโทรศัพท์มือถือไอโฟน12 ไปจำนำ จุดที่ 3 ขณะเข้าไปก่อเหตุภายในร้านทองในห้างโลตัสสะเดาทั้งตอนที่เดินเข้าไปในห้าง ก่อเหตุชิงทอง และขับรถจักรยานยนต์หลบหนี จุดที่ 4 ขับรถจยย.ไปจอดทิ้งไว้บนถนนภายในซอย กาญจนวนิชย์ ซอย 20/1 เขตเทศบาลเมืองสะเดา จุดที่ 5 เป็นถนนสายเลี่ยงเมืองสะเดาที่เดินออกมาและว่าจ้างชาวบ้านให้ขับรถเก๋งไปส่งที่อ.หาดใหญ่ 

โดยตลอดการทำแผนทั้ง 5 จุดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีไม่มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นและกลายเป็นจุดสนใจของชาวบ้านโดยเฉพาะตอนที่พาไปทำแผนชิงทองในห้างโลตัส และเป็นข่าวดังที่เกิดขึ้นใน อ.สะเดา หลังเสร็จจากการทำแผนตำรวจได้คุมตัว นายปรีชา กลับมายังสภ.สะเดา เพื่อดำเนินการส่งตัวไปฝากขังที่ศาล จ.สงขลา ต่อไป 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook