ศอฉ.กำชับติดตามกองกำลังติดอาวุธใกล้ชิด หวั่นก่อเหตุซ้ำ

ศอฉ.กำชับติดตามกองกำลังติดอาวุธใกล้ชิด หวั่นก่อเหตุซ้ำ

ศอฉ.กำชับติดตามกองกำลังติดอาวุธใกล้ชิด หวั่นก่อเหตุซ้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ที่ประชุม ศอฉ.ให้ DSI ร่วมทำคดีเผาโรงเรียน 7 จังหวัดภาคอีสาน คงกำลัง 3 เหล่าทัพร่วมตำรวจ ลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยง พร้อมกำชับติดตามกองกำลังติดอาวุธ และแกนนำที่ยังจับตัวไม่ได้ หวั่นก่อเหตุซ้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) วันนี้ (25 พ.ค.) ใช้เวลาไม่มากนัก มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมด้วย ทั้งนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง / ผู้อำนวยการ ศอฉ. แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ กรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติประกาศเคอร์ฟิว ต่อไปจนถึงวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเหตุผลที่คณะรัฐมนตรีมีกำหนดระยะเวลาเพียง 4 วัน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดผลกระทบเรื่องการขนส่งทางการเกษตร

รายงานข่าวแจ้งว่าที่ประชุมมีความเป็นห่วงพื้นที่ต่างจังหวัด ที่ยังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะ 4 จังหวัด ที่มีเหตุเผาศาลากลางจังหวัด คือ ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี และมุกดาหาร และอีก 3 จังหวัด ที่มีความพยายามสร้างสถานการณ์ความรุนแรง โดยเฉพาะการเผาโรงเรียนที่ จ.ยโสธร หนองคาย และสกลนคร เบื้องต้นจะให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เข้าไปร่วมทำคดีการก่อการร้าย ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคอีสาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือถึงการลดกำลังการปฏิบัติของทหารในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะ 3 กองพล ที่ปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะลดกำลังทหารลง เพื่อให้มีความคล่องตัวในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น แต่ยังให้คงเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารจากกองทัพบก กองทัพเรือ และ กองทัพอากาศ ไว้เช่นเดิม โดยจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการลาดตระเวนพื้นที่ ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการก่อเหตุ

รายงานข่าวยังแจ้งว่า นายสุเทพกำชับให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งติดตามจับกุมแกนนำ นปช. ที่ยังหลบหนีอยู่ เนื่องจากเกรงว่าบุคคลเหล่านี้ จะไปสร้างความปั่นป่วน ปลุกระดม ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้ง โดยเฉพาะนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ที่ก่อนหน้านี้ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวมาก เพราะเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายอริสมันต์มีส่วนที่ทำให้ปัญหารุนแรง พร้อมสั่งให้ติดตามกองกำลังติดอาวุธ ที่ยังหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ กทม. เพราะเกรงว่ากองกำลังติดอาวุธเหล่านี้ จะออกมาปฏิบัติการหลังจากที่รัฐบาล และ ศอฉ. ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิว

ทั้งนี้ ที่ประชุมเกรงว่า กองกำลังติดอาวุธจะใช้สไนเปอร์ มาปฏิบัติการกับบุคคลสำคัญทางการเมือง และ เจ้าหน้าที่ ศอฉ. โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้เข้มงวด เรื่องการดูแลความปลอดภัย โดยขณะนี้ได้จัดชุดเฝ้าระวังในแต่ละพื้นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจัดกำลังออกเป็น 3 ชุด คือชุดเฝ้าระวัง ชุดติดตาม และชุดส่วนล่วงหน้า มีอาวุธปืนครบมือ เพื่อป้องกันเหตุร้ายกับบุคคลสำคัญ ที่ลงพื้นที่แต่ละพื้นที่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook