สุเทพโวเลือกตั้งซ่อมส.ส.รัฐบาลได้เกิน 20 เสียง

สุเทพโวเลือกตั้งซ่อมส.ส.รัฐบาลได้เกิน 20 เสียง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(8ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ตนจะหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยจะคุยในเรื่องทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะเจาะจงถึงแนวทางที่เราจะดำเนินการให้เกิดความสงบเรียบร้อยบ้านเมืองจริง ๆ การดูแลให้พี่น้องประชาชนได้ตระหนักในภารกิจ หน้าที่ ในฐานะประชาชนจริง ๆจะต้องทำอยางไรบ้างเพื่อนำไปสู่ความสมานฉันท์ ซึ่งจำเป็นต้องพูดคุยในรายละเอียดเพราะงานที่เขียนออกมาให้หรูหราดูดี แต่งานที่เขียนแล้วดูดีแต่ทำยาก จึงต้องมาคุยกัน

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่เพราะแกนนำรัฐบาลเดินทางไปต่างจังหวัดก็จะโดนกลุ่มเสื้อแดงประท้วงต่อต้าน ไม่เว้นแม้แต่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ก็โดนปาไข่ที่ จ.ลำปาง และ จ.ลำพูน ขณะที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยี่ยมยายเนียมก็ไปไม่ได้ นายสุเทพ กล่าวย้อนถามว่า ยังไม่ได้บอกว่าไปไม่ได้ ถึงอย่างไรเราก็ต้องไปทุกแห่ง แต่โดยที่เราพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปะทะกัน แต่ก็ต้องไม่เสียภารกิจที่เรามีหน้าที่ต้องปฏิบัติด้วย เพราะฉะนั้นต้องค่อย ๆ คุยกัน ซึ่งตนได้กำชับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยได้พูดกับ ผบ.ตร.ไปแล้วว่าตำรวจต้องทำหน้าที่ดูแลรักษากฎหมายให้เคร่งครัด ปล่อยปละละเลยไม่ได้ ตำรวจใส่เกียร์ว่างไม่ได้ ทำนองเดียวกันข้าราชการฝ่ายปกครองไม่ว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ ผู้ว่าฯต้องทำหน้าที่ของตัวเองเช่นเดียวกัน เรื่องหน้าที่ทุกคนต้องทำ

// //

ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์ขณะนี้จะดูแลได้หรือไม่ เพราะแม้แต่ทำเนียบรัฐบาลนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยังถูกปาไข่ระหว่างไหว้ศาลพระภูมิ นายสุเทพ กล่าวว่า รู้สึกว่าตอนที่ท่านไปบรวงสรวงกับปาไข่เป็นคนละตอนกัน มันคนละฉากหรืออย่างไร คงไม่เป็นไร ต้องค่อย ๆ พูดจากันและเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัย สำหรับความคืบหน้าในการเจรจากับแกนนำทุกกลุ่ม ทุกจังหวัด ตนก็ไม่ได้ล้มเลิกความตั้งใจ เจรจาทำความเข้าใจไปเรื่อย ๆ ขณะที่พูดจาไปก็จะเสริมความแข็งแรงในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไปด้วย

ต่อข้อถามว่า เป็นห่วงการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่จะเกิดเหตุวุ่นวายในลักษณะเดียวกันหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนคิดว่ามีเวลาในการเตรียมการได้ทันที่สำคัญคนที่คิด จะทำความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในการประชุมอาซียนจะต้องตระหนักว่าการประชุมผู้นำอาเซียนในครั้งนี้เป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศที่จะร่วมกันเป็นเจ้าภาพ เป็นหน้า เป็นตาของประเทศ และเป็นโอกาสที่เราจะโฆษณาประเทศไทยไปสู่โลกทั้งใบ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้คนมาท่องเที่ยว ลงทุน ทำมาค้าขายในประเทศไทย ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของประเทศไทย ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของคนไทยด้วย ดังนั้นใครที่คิดทำให้เกิดความวุ่นวายให้เกิดความวุ่นวายเสียภาพลักษณ์ของประเทศให้คิดแล้วคิดอีก ทบทวนให้ดี

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่กลุ่มเสื้อแดงสองฝ่ายปะทะกันเอง กรณีที่มีแกนนำพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่หาเสียงที่จังหวัดบุรีรัมย์ นายสุเทพ กล่าวว่า เพิ่งจะได้ข่าว แต่ตนยังไม่ทราบรายละเอียด เห็นว่าที่ จ.บุรีรัมย์ มีเสื้อแดงสองกลุ่ม ตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ขอติดตามสถานการณ์ก่อน

เมื่อถามถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทยไปหาเสียงกับคนอีสานขอโอกาสเป็นนายกฯ เพื่อที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาเป็นนายกฯอีก นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้เรียนกับสื่อไปแล้วว่า ต้องเลิกให้ความสนใจ ให้น้ำหนักในคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม เพราะสิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิม พูดมาผิดไปทั้งหมด ไม่ว่าก่อนหน้านี้ที่ ร.ต.อ.เฉลิมบอกว่าพวกเราจะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เปลี่ยนขั้วไม่ได้ ในที่สุดก็เห็นแล้วว่าเฉลิมพูดผิด ฉะนั้นสิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิมพูดอย่าไปให้ความสำคัญเลยเสียเวลาเปล่า ๆ มองอะไรที่เป็นจริงดีกว่า

ส่วนกรณีที่ศาลฏีกาคืนสิทธิ์เลือกตั้งให้กับผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคชาติไทยพัฒนาแล้วนั้น ตนประเมินว่าการเลือกตั้งซ่อมแทนส.ส. 29 คน ตนเชื่อว่าฝ่ายรัฐบาล ได้มากเกิน 20 คน ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ที่ส่งลงเลือกตั้งซ่อม 9 คน เราก็อยากได้ 9 คน แต่เชื่อว่า 6-7 คนคงจะได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ฝ่ายรัฐบาลระบุว่าสถานีวิทยุชุมชนต่าง ๆ ยังมีการปลุกระดมประชาชนขณะที่รัฐบาลประกาศจะเดินหน้าความสมานฉันท์จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เราจะทำในกรอบของกฎหมาย เรายังให้ความเคารพในอิสระภาพของสื่อมวลชน แต่ถ้าสื่อมวลชนใช้อิสระเสรีภาพของตัวเอง แล้วไปละเมิดผู้อื่น เราก็ต้องดำเนินคดี ไม่จำเป็นต้องมีคนมาแจ้งความหรือไม่ ถ้าทำผิดแนวทางไปก็ต้องดำเนินการ แต่ทั้งนี้เราจะทำจากนุ่มนวลไปก่อน โดยขอความร่วมมืออธิบายให้ฟังว่าต้องเคารพเสรีภาพคนอื่นด้วย ทั้งนี้ตนได้มีการติดตาม มีข้อมูลทางการข่าวติดตามสถานการณ์ตลอดเวลาและจะมีคนที่จะมีหน้าที่รับผิดชอบแต่ละภาคส่วนไปดำเนินการเจรจาพูดคุยกับแกนนำวิทยุชุมชนแต่ละส่วน

ตะลุยข่าว : THE GREEN POLICE กองปราบฯ สู่ศตวรรษที่ 21

ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกสามารถระงับยับยั้งปัญหาอาชญากรรมให้ลดลงและควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้ ตรงกันข้ามกับประเทศไทย กลับมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และมีการกล่าวถึงในระดับนานาชาติว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook