แพทย์โรคภูมิแพ้ เตือนแมลงสาบกระตุ้นโรคหืด

แพทย์โรคภูมิแพ้ เตือนแมลงสาบกระตุ้นโรคหืด เผยเด็กในเมืองประสบปัญหามาก แนะจัดบ้านให้สะอาด ห่างไกลจากโรคได้

ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนาและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ว่าตัวเองแพ้โปรตีนจากแมลงสาบ ส่งผลให้เกิดอาการคันตาอย่างมาก โดยบางคนไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไรจึงคันตา ซึ่งถ้าไม่ขยี้จะอยู่ไม่ได้ เศษโปรตีนจากแมลงสาบ มีสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการเกิดโรคหืดและโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เมื่อผู้ป่วยที่แพ้แมลงสาบได้รับเศษโปรตีนนี้เข้าไปซ้ำๆ จะทำให้อาการกำเริบได้ มีการสำรวจพบว่าเด็กที่เป็นโรคหืดโดยเฉพาะเด็กที่บ้านอยู่ในเมืองจะตรวจพบสารก่อภูมิแพ้จากแมลงสาบในบ้านได้ถึง 85 รายใน 100 ราย พบแมลงสาบได้ตามบ้าน โรงเรียน ร้านอาหาร ถังขยะ ริมถนน แผงลอยข้างถนน ตลาดสด โรงภาพยนตร์ และสถานที่สาธารณะต่างๆ ตลอดถึงท่อระบายน้ำ

"การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้จากแมลงสาบต้องทำให้ที่อยู่อาศัยปราศจากแมลงสาบ ทั้งตัวและเศษซาก รวมถึงโปรตีนจากแมลงสาบ ซึ่งทำได้โดยการกวาดและถูบ้านหลังมื้ออาหาร โดยเฉพาะใต้โต๊ะอาหารและในห้องครัว เก็บอาหารสดและอาหารสำเร็จรูปในภาชนะที่มิดชิด ปิดฝาถังขยะให้แน่นเสมอ และควรผูกปากถุงใส่ขยะทุกครั้งก่อนนำไปทิ้ง ไม่มีเศษอาหารเหลือตกค้างในถังขยะและที่ล้างจาน โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ล้างจานชามด้วยสบู่และน้ำอุ่น เพื่อขจัดคราบมันที่อาจติดอยู่ และทำความสะอาดจานอาหารของสัตว์เลี้ยงหลังมื้ออาหารทุกมื้อและกำจัดแหล่งน้ำ โดยต้องซ่อมก๊อกน้ำที่รั่ว อย่ารดน้ำต้นไม้มากเกินไป อย่าให้มีน้ำขังที่จานรองกระถางต้นไม้ ใส่น้ำยาฆ่าเชื้อโรคไลซอลลงในน้ำของโถชักโครกและในที่ๆ มีแมลงสาบมากๆ อาจต้องใส่น้ำยาฆ่าเชื้อโรคไลซอลที่รางระบายน้ำนอกบ้านด้วย" ผศ.นพ.เฉลิมชัย กล่าว

ผศ.นพ.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการกำจัดแมลงสาบนั้นอาจใช้สเปรย์ฉีดหรือใช้เหยื่อกำจัดแมลงสาบ ควรวางเหยื่อไว้ในที่ๆ แมลงสาบมักเดินผ่าน เช่น มุมห้อง ซอกตู้ ห้องครัว ห้องเก็บของ ในสถานที่ๆ มีแมลงสาบมาก แมลงสาบอาจมากินเหยื่อจนหมด ทำให้ไม่สามารถฆ่าตายทั้งรังได้ในคราวเดียว จึงควรวางเหยื่อใหม่อีกครั้งหลังวางครั้งแรก 1 สัปดาห์ ควรเปลี่ยนเหยื่อเมื่อหมดอายุการใช้งาน