โค้งสุดท้ายผู้ว่ากรุงฯคึกคัก กกต.ส่งหน่วยหาข่าวทุจริตลงทุกเขต ผู้สมัครฯ เร่งสปีดลงพื้นที่หาเสียง

โค้งสุดท้ายผู้ว่ากรุงฯคึกคัก กกต.ส่งหน่วยหาข่าวทุจริตลงทุกเขต ผู้สมัครฯ เร่งสปีดลงพื้นที่หาเสียง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หาเสียงโค้งสุดท้ายเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เข้ม แก้วสรร ขอคะแนนชาวท่าช้าง-ท่าพระจันทร์ ชูจัดสรรพื้นที่ทำกิน สุขุมพันธุ์เปิด 28 คลองส่งเสริมจราจรทางน้ำ แซมโวเสียงตอบรับดี เน้นดีเบตสู้ศึก กกต.กทม.ส่งหน่วยป้องปรามหาข่าวทุจริต ลงพื้นที่เข้มข้นใน 50 เขต ขอปชช. ช่วยจับตาหัวคะแนน ผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่หาเสียงอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคมนี้ โดยเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 5 มกราคม นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครหมายเลข 12 กลุ่มกรุงเทพฯใหม่ นำทีมงานลงพื้นที่หาเสียงบริเวณท่าช้างและท่าพระจันทร์ พร้อมกับหยิบยกนโยบายจัดสรรพื้นที่ทำกินให้เป็นหลักแหล่งเพื่อพัฒนากรุงเทพฯ มาขอคะแนนเสียงกับผู้ค้า และประชาชนที่เดินสัญจรไปมาในบริเวณดังกล่าว

นายแก้วสรรกล่าวว่า บริเวณท่าช้าง และท่าพระจันทร์ ไม่ใช่พื้นที่ตลาดที่มีสินค้าส่งออก อย่าง บางลำพู โบ๊เบ๊ แต่เป็นการจัดตั้งตลาดบนทางเดินของ กทม.ทำให้เดินสัญจรลำบาก จึงควรที่จะหาพื้นที่เหมาะสมเพื่อให้เป็นตลาดต่อไป

ถ้าผมได้เป็นผู้ว่าฯกทม. มั่นใจว่าสามารถทำได้ แม้ว่าจะยากก็ตาม นายแก้วสรรกล่าว

ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร หมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียงที่ท่าเรือวัดศรีบุญเรือง เขตบางกะปิ โดยแถลงนโยบายการจราจรทางน้ำว่า ปัจจุบันการสัญจรทางน้ำเป็นอีกช่องทางหนึ่งของการเดินทางที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องของระยะเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ละวันมีปริมาณผู้โดยสารทางเรือไม่น้อยกว่า 280,000 คน แบ่งเป็น เรือข้ามฟาก 183,000 คนต่อวัน เรือด่วนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา 39,000 คนต่อวัน คลองแสนแสบ 57,000 คนต่อวัน

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า จะทำให้การเดินเรือสะดวก ปลอดภัย ไร้มลภาวะ โดยเบื้องต้นจะขยาย 3 เส้นทาง คือ 1.ผ่านฟ้า-วัดศรีบุญเรือง (บางกะปิ) 14 กิโลเมตร (กม.) ถึงท่าเรือมีนบุรี 2.ตลาดยิ่งเจริญ-พระโขนง และ 3.เพชรเกษม-บางหว้า เป็นจุดเชื่อมต่อกับการเดินทางระบบอื่นๆ เช่น เชื่อมกับจุดจอดรถ เชื่อมกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส นอกจากนั้น จะให้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) หารือกับบริษัทเอกชนรับสัมปทานเดินเรือ แต่จะไม่ผูกติดกับรายหนึ่งรายใดเท่านั้น รวมถึงปรับปรุงท่าเรือในเส้นทางที่มีอยู่แล้วให้ได้มาตรฐาน และพัฒนามาตรฐานของเรือไม่ให้มีเสียงดังด้วย ส่วนค่าโดยสารจะให้เป็นไปตามกลไกตลาด นอกจากนี้ ในระยะยาว มีนโยบายที่จะพัฒนาคลองอีก 28 คลอง ที่มีศักยภาพเป็นเส้นทางหลักเพิ่ม อาทิ คลองเปรมประชากร คลองบางเขน คลองลาดพร้าว คลองบางขุนเทียน คลองสนามชัย เป็นต้น

ด้านนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดนัดซอย อสมท. เมื่อเวลา 12.00 น. โดยนายยุรนันท์เปิดเผยว่า หลังจากพรรคสำรวจความเห็นประชาชนรอบสุดท้าย ความนิยมได้รับการตอบรับดีขึ้น ทำให้มีความสุขมาก แต่ต้องเร่งทำคะแนน โดยช่วงโค้งสุดท้ายจะเน้นการขึ้นเวทีดีเบตแสดงความเห็น เพราะทำให้ประชาชนรู้ถึงนโยบายในภาพรวมที่ครอบคลุมทุกด้าน ส่วนการลงพื้นที่ก็จะพูดนโยบายได้เฉพาะเรื่อง เพราะแต่ละพื้นที่มีปัญหาต่างกัน สำหรับทีมที่ปรึกษามีบุคลากรที่มีคุณภาพมาร่วมงานแน่นอนแต่ไม่อยากให้คนมองที่ตัวทีมงานและรองผู้ว่าฯกทม. อยากให้มองที่ตัวของตนมากกว่า

นายยุรนันท์กล่าวถึงเหตุเพลิงไหม้ว่า ช่วงปีใหม่แทนที่คนกรุงเทพฯจะอยู่ในช่วงแห่งความสุขกลับเหมือนเป็นความโชคร้ายที่ต้องเจอเหตุไฟไหม้บ่อยครั้ง กทม.เป็นหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง เพราะถือ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารอยู่ จะต้องมีการจัดการตรวจสอบควบคุมให้อาคารต่างๆ ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีทางหนีไฟ บันไดหนีไฟ เครื่องป้องกันไฟไหม้ ต้องมีให้ครบถ้วน หากตรวจพบต้องดำเนินการทันที ไม่มีการอะลุ้มอล่วย เพราะถือเป็นความปลอดภัยของประชาชนที่ต้องดูแล

นายชัยณรงค์ เทียนมงคล ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) กล่าวว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการลงคะแนนเสียงเลือกผู้ว่าฯวันที่ 11 มกราคมนี้ กกต.กทม.เน้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้านการป้องปรามหาข่าว ทั้ง 200 นาย ลงพื้นที่อย่างเข้มข้นทั้ง 50 เขต ด้วยการลงเดินในชุมชน พร้อมทั้งได้ขอความร่วมมือแกนนำประชาชนในพื้นที่ให้ช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบว่ามีผู้สมัคร หรือหัวคะแนนคนใดทำผิดกฎหมายเลือกตั้งให้รีบแจ้ง กกต.กทม.ทันที ทั้งนี้ จากการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข่าวตลอดเวลาที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีผู้สมัครคนใดใช้วิธีหาเสียงที่ผิดกฎหมาย และเชื่อว่าตั้งแต่วันนี้ถึงวันลงคะแนนจะไม่มีผู้สมัครคนใดทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook