อภิสิทธิ์ ฝาก แม้ว ให้คิดถึงบ้านเมืองยุติขัดแย้งในอดีต

อภิสิทธิ์ ฝาก แม้ว ให้คิดถึงบ้านเมืองยุติขัดแย้งในอดีต

อภิสิทธิ์ ฝาก แม้ว ให้คิดถึงบ้านเมืองยุติขัดแย้งในอดีต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เสื้อแดงปัดโทรขู่นายกฯ ท้าหาหลักฐานมาเปิดเผย สุเทพ เผยนายกฯ ไม่วิตก-โต้ปูดข่าวเรียกคะแนนสงสาร ด้าน อภิสิทธิ์ ฝาก แม้ว ให้คิดถึงบ้านเมือง ยุติขัดแย้งในอดีต กลุ่ม 23 ส.ส.เพื่อนเนวินเตรียมซบ ภูมิใจไทย ดัน ชวรัตน์ นั่งหัวหน้าพรรค ขณะที่ เพื่อไทย ฟ้องนายกฯ-กกต.โวย บุญจง ใช้อำนาจหาเสียงเอื้อพวกพ้อง หลังนายกรัฐมนตรีออกมาเปิดเผยว่า ถูกโทรศัพท์ข่มขู่ จนต้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ โดยพบว่าบางหมายเลขที่โทรเข้ามานั้น เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนที่ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองนั้น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงคัดค้านการบริหารงานของรัฐบาลอย่างเปิดเผย เพื่อนำไปสู่การยุบสภา ตามแนวทางสงบ สันติ และปราศจากอาวุธ จึงไม่มีเหตุผลที่จะไปข่มขู่หรือทำร้ายนายกรัฐมนตรี ส่วนที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า แกนนำวิทยุชุมชนคนแท็กซี่เป็นผู้เผยแพร่เบอร์โทรศัพท์นายกรัฐมนตรี และเชิญชวนให้ประชาชนโทรศัพท์เข้าไปข่มขู่นายกรัฐมนตรีนั้น นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นำหลักฐานมาเปิดเผย และขอคำยืนยันจากรัฐบาล หากทำผิดจริงก็พร้อมให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย สุเทพยันนายกฯไม่วิตกถูกโทรขู่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีโทรศัพท์ข่มขู่นายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าเป็นการดำเนินการในรูปแบบ เป็นกลุ่มขบวนการหรือรายบุคคล หากพบจะดำเนินการทันที ส่วนจะเชื่อมโยงกับกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจสอบก่อน นายสุเทพกล่าวว่า ระหว่างนี้คงไม่ต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี และไม่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ เพราะเชื่อว่าการข่มขู่จะไม่เป็นปัญหาต่อการทำงานของรัฐบาล และไม่ได้เป็นการเรียกคะแนนสงสาร ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้วิตกและจะทำหน้าที่ต่อไป นายสุเทพยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตอนนี้ยังเป็นเพียงการเริ่มติดต่อระดับคนใกล้ชิด โดยจะขอร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกคนใกล้ชิด ให้ยุติการสร้างความวุ่นวาย ส่วนการที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายนอกสภา รัฐบาลก็พร้อมจะรับฟัง สันติบาลยังไม่พบกลุ่มขู่ฆ่านายกฯ พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล กล่าวถึงกระแสโทรขู่ฆ่านายกรัฐมนตรีว่า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวกลุ่มที่จะลอบทำร้าย คงมีเพียงกลุ่ม นปช.ที่ออกมาเคลื่อนไหวกดดันเท่านั้น ส่วนบุคคลลึกลับที่โทรศัพท์ไปข่มขู่นายกรัฐมนตรีนั้น สันติบาลยังไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาลให้เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งเชื่อว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาลคงเข้าไปเป็นผู้รับผิดชอบ รวมถึงการรักษาความปลอดภัยต่อนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่จะเป็นตำรวจนครบาล และทหาร ซึ่งหากมีการประสานให้สันติบาลเข้าไปช่วย ก็พร้อมจะดำเนินการให้ อภิสิทธิ์ ฝากทักษิณคิดถึงบ้านเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ "บอกข่าวเล่าเรื่อง" ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ทีวี เมื่อเช้าวันที่ 3 มกราคม โดยกล่าวตอนหนึ่งฝากไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า อยากให้คิดถึงบ้านเมือง เนื่องจากบ้านเมืองและประเทศไทยของเรา น่าจะเดินไปข้างหน้าได้แล้ว บรรดาความขัดแย้งทั้งหลายในอดีต ให้เป็นเรื่องคลี่คลายกันไปตามกระบวนการทางกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณก็เคยเป็นอดีตผู้นำของประเทศ คงไม่อยากเห็นประเทศจมอยู่กับความขัดแย้งไม่จบไม่สิ้น นายอภิสิทธิ์ยังฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนว่า หลายคนคงมีความทุกข์กับ 1 ปีที่ผ่านมาหลายๆ เรื่อง ปี 2552 นี้ เราต้องมีความหวัง และต้องทำความหวังให้เป็นความจริง ตนและรัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ดีที่สุด จะทำให้ความหวังของพี่น้องประชาชนเป็นความจริง ทั้งนี้ รัฐบาลไม่สามารถทำความหวังของพี่น้องประชาชนให้เป็นความจริงได้โดยลำพัง ต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนด้วย มั่นใจว่า เราจะเปลี่ยนปีแห่งความขัดแย้ง ก้าวเข้าไปสู่ปีแห่งความหวัง และเราจะก้าวพ้นปัญหาต่างๆ ที่เรากำลังเจออยู่ในขณะนี้ได้ ชี้เสียงปริ่มน้ำไม่ใช่อุปสรรคการทำงาน นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปี 2552 ที่รัฐบาลมีเสียงสนับสนุนปริ่มน้ำว่า เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองบริหารจัดการได้ และถือว่าเสถียรภาพของรัฐบาลนิ่งพอที่จะทำงานได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จะถือเสียงที่ไม่ไว้วางใจเป็นหลัก คือ ต้องไม่ไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. และเมื่อถึงวันที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ยังไม่ทราบว่าตัวเลข ส.ส.ในสภาจะเป็นอย่างไร เพราะยังมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.22 เขตเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกำหนดการเมืองในปีนี้ว่าจะเป็นอย่างไร น่าจะอยู่ที่ผลของการบริหารงานเรื่องเศรษฐกิจและสังคมมากกว่า เพราะต้องยอมรับว่าในครึ่งแรกของปีนี้ เศรษฐกิจยังได้รับผลกระทบแรงมากจากเหตุการณ์หลายอย่างทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกันปัญหาความแตกแยกที่เห็นมาตลอดปี 2551 จะให้หายไปกับการขึ้นปีใหม่ คงเป็นไปไม่ได้ แต่สิ่งเหล่านี้ถือเป็นหน้าที่ของตนและรัฐบาลโดยตรง ที่จะต้องบริหารจัดการไม่ให้มาสร้างปัญหาทางการเมือง ดังนั้นขอยืนยันว่า ปัญหาภายในรัฐบาลขณะนี้ ไม่ควรเป็นปัจจัยที่เป็นปัญหาต่อการทำงาน ส่วนถ้าสุดท้ายรัฐบาลทำงานเต็มที่แล้ว แต่ยังถูกบีบจะทำให้ตัดสินใจยุบสภาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือผลประโยชน์ของบ้านเมือง หากมีความเหมาะสม เพื่อที่จะรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง ก็ต้องถือว่ามาก่อนผลประโยชน์ส่วนตัวอยู่แล้ว หากเข้ามาทำงานแล้วทำไม่ได้ ก็ไม่ควรที่จะทำต่อ ถือเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ต้องเข้าใจ และตนได้บอกสิ่งนี้กับคณะรัฐมนตรี ซึ่งตรงนี้จะเป็นตัวกดดันรัฐมนตรีเองในการทำงาน และยืนยันว่า หากมีรัฐมนตรีคนใดปฏิบัติไม่ถูกต้อง ก็พร้อมที่จะปรับออก เพราะหากไม่ปรับ ในที่สุดเสถียรภาพของรัฐบาลก็ต้องมีปัญหาอยู่ดี เรื่องนี้ถือเป็นกติกาที่ได้พูดคุยกันตั้งแต่วันแรกที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกฯไม่กังวลถูกโทรขู่ เมื่อเวลา 20.30 น. นายอภิสิทธิ์เปิดเผยหลังเดินทางกลับจากพักผ่อนส่วนตัวกับครอบครัว ที่ จ.กระบี่ ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายนอกสภาในวันจันทร์นี้ว่า ไม่มีปัญหา เพราะฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล และประเด็นที่เขาสงสัยข้องใจอะไร ก็จะได้มีการดำเนินการต่อไปในสภาอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกระแสข่าวถูกลอบปองร้ายจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างไรว่า มีการดูแลอยู่แล้ว เพราะอย่างที่บอก จะมีข่าวลักษณะนี้อยู่บ้าง ในสังคมที่มีความขัดแย้งกันสูง แต่ไม่เป็นไร เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ดูแล ทั้งนี้ เชื่อว่าคงไม่เป็นปัญหาต่อการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างจังหวัด เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านระบุว่า สร้างข่าวเอง นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ไม่มีการสร้างข่าวอะไร เพราะก็มีการรายงานกันมาเป็นระยะๆ แต่อาจจะเป็นเรื่องที่ตัวแกนนำเขาเองก็อาจจะไม่ทราบก็ได้ เมื่อถามว่า ที่บอกว่าแกนนำไม่ทราบ แสดงว่ารู้ตัวคนที่โทรมาข่มขู่แล้วใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แกนนำอาจจะไม่ทราบ แต่เราก็รู้ว่าในบางส่วนอาจจะมีคนที่คิดใช้ความรุนแรงปะปนเข้าไป เราก็อยากให้แยกกันให้ออก เพราะเขาก็เชื่อว่า หลายคนที่เขาไม่เห็นด้วย เขาก็อยากแสดงออกตามวิถีทางปกติ แต่ก็อยากให้ช่วยระมัดระวังว่า ก็มีคนบางกลุ่มที่อาจจะเลยเถิดหรือไปไกล เมื่อถามว่า กังวลว่าจะเกี่ยวข้องกับครอบครัวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่กังวล คงมีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่ ในส่วนของครอบครัวไม่ได้มีอะไรที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงประกาศจะตามไปราวีในการประชุมอาเซียน ซัมมิต นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะบอกว่า อยากให้ทุกคนมาร่วมกันเป็นเจ้าภาพ เพราะไม่ใช่งานของรัฐบาล แต่เป็นงานของประชาชนคนไทย และจะเป็นวิธีการฟื้นความเชื่อมั่นที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้น ก็อยากให้ทุกคนได้คิดถึงตรงนี้ ส่วนจะแสดงออกในการคัดค้านรัฐบาล ก็มีหลายโอกาสที่จะทำได้ และต้องทำในกรอบของกฎหมายจะดีกว่า พท.จี้นายกฯ นำตัวคนโทรขู่มาดำเนินคดี นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข่าวการลอบปองร้ายนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องนี้ไม่ทราบว่าเป็นการสร้างภาพหรือไม่ แต่ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีหาตัวผู้ข่มขู่ และจ้องทำร้ายมาดำเนินคดีทางกฎหมายให้ได้ ไม่ใช่ออกมาพูดโดยไม่รับผิดชอบ นายประชากล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พยายามติดต่อขอเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า หากนายสุเทพจะมาเจรจาเพื่อหวังผลประโยชน์ร่วมกัน พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่เจรจาแน่ แต่ถ้าเจรจาแล้วประโยชน์ตกอยู่กับประเทศชาติอย่างแท้จริง ทำให้เศรษฐกิจชาติพ้นวิกฤติ ลดความแตกแยกของคนในชาติ และให้ผลคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม บนพื้นฐานของความถูกต้อง ก็เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมเจรจาด้วย 23 ส.ส.เพื่อนเนวินเคาะรวมภูมิใจไทย รายงานข่าวจากกลุ่มเพื่อนเนวินแจ้งว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมาธิปไตย สามารถตกลงกับนายเนวิน ชิดชอบ ที่จะร่วมงานการเมืองด้วยกัน โดยให้ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน 23 คนสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และมีข้อแลกเปลี่ยนให้นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยให้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคใหม่ และมีข้อเสนอให้ย้ายที่ทำการพรรคไปที่แห่งใหม่ ย่านถนนศรีนครินทร์ ขณะเดียวกัน กลุ่ม ส.ส.มัชฌิมาธิปไตย ที่ลงคะแนนเสียงเลือก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก นั้น นายสมศักดิ์ก็มีแผนจะดึงกลับมาร่วมพรรคทุกคน ด้านนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน เปิดเผยว่า สมาชิกในกลุ่มนัดหารือกันในวันจันทร์ที่ 5 มกราคมนี้ เพื่อกำหนดท่าทีเรื่องสังกัดพรรค ส่วนที่มีข่าวว่ากลุ่มเพื่อนเนวินสนับสนุนนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ให้มาเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยคนใหม่นั้น ขณะนี้มีสองตัวเลือก ระหว่างนายชัย ชิดชอบ ประธานสภา และนายชวรัตน์ ตนมองว่าถ้าจะให้ใครมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ควรที่จะสอบถามความสมัครใจของผู้ที่จะมาทำหน้าที่ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาได้ ขณะที่ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ยอมรับว่า ได้ติดต่อ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินให้มาร่วมพรรค แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ หนั่น แนะดูด ส.ส.เพิ่มค้ำเสถียรภาพรัฐ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา วิเคราะห์การเมืองหลังเปิดศักราชใหม่ท่ามกลางสถานการณ์ที่วุ่นวาย รัฐบาลโดยการนำของพรรคประชาธิปัตย์ อาจต้องสุ่มเสี่ยงกับจำนวนเสียงสนับสนุนของ ส.ส.ในสภา ที่เรียกว่าปริ่มน้ำอย่างมาก พล.ต.สนั่นกล่าวว่า สิ่งที่แนะนำอันดับแรก รัฐบาลควรต้องรักษาเสียง ส.ส.เดิมไว้ให้ได้ และต้องหาเสียงเพิ่มให้ได้อย่างน้อย 30-35 เสียง จึงจะปลอดภัยและอยู่ได้ครบเทอม ถ้าไม่แตกแยกกันเสียก่อน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงหลังจากแถลงนโยบายไปแล้วคือ การรักษามิตรภาพในพรรคร่วมรัฐบาลที่แกนนำรัฐบาลจะต้องรักษาเอาไว้ให้ดี โดยควรต้องดูแลเอาใจใส่พรรคร่วมบ้าง ไม่ใช่มาร่วมแล้วปล่อยทิ้งไป หรือไม่ทำความเข้าใจกัน โหรฟันธงรัฐบาลมาร์คอยู่ไม่ครบปี นายเก่งกาจ จงใจพระ โหรชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ทางรายการลับ ลวง พราง ผ่านสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงดวงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หลังจากเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะต้องเจอวิบากกรรมมาก ต้องแบกรับภาระส่งผลให้เกิดความกังวลและหนักใจ แต่น่าจะผ่านไปได้ อย่างไรก็ตาม ถึงที่สุดแล้วนายกฯ จะต้องยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน อย่างเร็ว 3 เดือน อย่างมาก 6 เดือน ไม่ครบปีแน่นอน ซึ่งอาจจะเกิดการนองเลือดก่อนยุบ หรือยุบก่อนเกิดการนองเลือด นายเก่งกาจกล่าวว่า ดวงนายกฯ ยังไม่มีภยันตรายใดๆ ดวงของนายอภิสิทธิ์ช่วงนี้จะดี ส่วนกรณีที่มีคนมองว่า ดวงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ถูกกับดวงทหารนั้น คงไม่ใช่เพราะประชาธิปัตย์ถูกทหารอุ้มมาโดยตลอด และพรรคประชาธิปัตย์เข้าได้กับทุกกลุ่ม เพราะเป็นธาตุน้ำ ส่วนดวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ปีนี้ยังไม่ดี และคงอยู่ต่างประเทศอีกไม่ต่ำกว่า 3 ปี ส่วนกลุ่ม นปช.ที่ใช้สีแดงนั้นจะเริ่มเสื่อมหลังวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ต้องเปลี่ยนไปใช้สีอื่น เสื้อแดงเชียงใหม่ไล่รมว.แรงงาน เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 3 มกราคม กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กว่า 100 คน ในชุดสีแดง นำโดย น.ส.กัญญาภัค มณีจักร แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้รวมตัวกันนำรถเครื่องขยายเสียง สี่ล้อแดงและรถตุ๊กตุ๊ก มาปิดล้อมที่ด้านหน้าโรงแรมรอยัลล้านนา ย่านไนท์ บาซาร์ ถนนช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังมีกระแสข่าวว่า นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน เดินทางมาพักที่โรงแรมดังกล่าว เพื่อเตรียมช่วยนายขยัน วิพรหมชัย ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ลำพูน ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อม ทั้งนี้ กลุ่มเสื้อแดงรวมตัวกันปิดล้อมด้านหน้าและทางเข้าออกทุกด้านของโรงแรมไว้นานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ในที่สุดเมื่อทราบว่านายไพฑูรย์เช็กเอาท์ไปก่อนหน้าที่กลุ่มเสื้อแดงจะมาปิดล้อม จึงได้ยอมสลายตัวกันไปโดยสงบ เสื้อแดงลำปางฮือไล่ สมเกียรติ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 มกราคม กลุ่มเสื้อแดงลำปาง ประมาณ 300 คน รวมตัวชุมนุมกันบริเวณหน้าห้างเสรีสรรพสินค้า อ.เมือง จ.ลำปาง หลังมีกระแสข่าวว่านายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่มพันธมิตร จะเดินทางมาร่วมประชุมกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรลำปาง ที่ชั้น 2 ห้างเสรีสรรพสินค้า โดยกลุ่มเสื้อแดงลำปางท้าทายให้นายสมเกียรติออกมาเผชิญหน้า ขณะที่ห้างได้สั่งปิดประตูทางเข้า-ออกบริเวณหน้าห้าง เพราะเกรงว่ากลุ่มม็อบเสื้อแดงจะบุกเข้าไปภายใน ในส่วนของนายสมเกียรตินั้น หลังจากประชุมร่วมกับพันธมิตรลำปางเสร็จแล้ว ได้เดินออกทางด้านหลังลานจอดรถ เพื่อเดินทางกลับ โดยรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซ สีขาว ไม่ติดป้ายทะเบียน ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงหลังทราบว่านายสมเกียรติออกจากโรงแรมไปแล้วก็ได้สลายตัวกลับไป เสื้อแดงปทุมเตรียมรับ อภิสิทธิ์ มีรายงานว่า กลุ่มเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ได้เรียกระดมพล นัดพบกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดหลังเก่า เขตเทศบาลเมืองปทุมธานี ในเวลา 12.00 น.วันที่ 4 มกราคม โดยมีนายวินัย เทพฤทธิ์ นายพิชัย ก้อนแก้ว นางสุวรรณา ตาลเหล็ก และนายสมบุญ ขุนทองไทย เป็นแกนนำ เพื่อรอต้อนรับนายอภิสิทธิ์ ที่จะเดินทางมาช่วยหาเสียงและปราศรัยย่อยให้นายอภินันท์ ช่วยบำรุง ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองปทุมธานี ในเวลา 14.30 น. เลือกตั้งล่วงหน้า ส.ส.22 จังหวัด ส่วนบรรยากาศการลงคะแนนล่วงหน้าเลือกตั้งซ่อม ส.ส.22 จังหวัด 26 เขตเลือกตั้ง 29 คน แทนตำแหน่งที่ว่างลง ระหว่างวันที่ 3-4 มกราคมนั้น พบว่าส่วนใหญ่หลายจังหวัดบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา เช่น นครปฐม สมุทรปราการ ลำปาง สุพรรณบุรี อ่างทอง นราธิวาส บรรยากาศไม่คึกคักเท่าที่ควร โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่า สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้ หลายจังหวัดบรรยากาศกลับคึกคัก เช่น ที่เขต 2 และเขต 4 จ.บุรีรัมย์ พบว่าประชาชนแห่ไปใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้าร่วม 1 หมื่นคน ถือว่ามากเป็นประวัติการณ์ของการเลือกตั้งล่วงหน้าในจังหวัด ที่มีผู้มาใช้สิทธิเพียง 1,000-2,000 คน เท่านั้น ส่วนที่เขต 1 จ.ลพบุรี การเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นไปอย่างคึกคัก หลังชาวบ้านออกมาลงคะแนนจำนวนมากก่อนเดินทางกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ เช่นเดียวกับที่เขต 2 จ.ร้อยเอ็ด ปรากฏว่าในช่วงเช้ามีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มาใช้สิทธิเลือกตั้งกันอย่างคึกคัก ก่อนเดินทางกลับ กทม. พท.โวย บุญจง ใช้อำนาจหาเสียงเอื้อพวก นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม เขต 1 จ.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย พร้อมคณะ เดินทางมายัง อ.เมือง และ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีการเกณฑ์กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.และแกนนำชาวบ้าน โดยอ้างว่าผู้ใหญ่ของกระทรวงมหาดไทย จะมาให้นโยบายแก่ผู้นำท้องถิ่น ขอให้เสนอโครงการพัฒนาตำบล พัฒนาหมู่บ้านของตนเองต่อ รมช.มหาดไทย ได้โดยตรง ในเรื่องนี้ จึงขอฟ้องไปยังนายกรัฐมนตรีและ กกต.ว่า นายบุญจง ในฐานะ รมช.มหาดไทย ได้ใช้อำนาจหน้าที่ตำแหน่งรัฐมนตรี เอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้ง นายชวลิตกล่าวต่อว่า โดยเฉพาะกรณีนายบุญจง ในฐานะ รมช.มหาดไทย ได้ไปประชุมกับชาวบ้าน 4 จุด ที่ อ.ศรีสงคราม ไม่ทราบสถานที่ แต่ที่ใน อ.เมือง จ.นครพนม 2 จุด คือ ที่โรงเรียนศรีบัวบานและวัดบ้านนามุนฮิ้น ปรากฏว่ามีกลุ่มคนเสื้อแดงไปต่อต้าน รมช.มหาดไทย และคณะ จึงไม่ได้ไปปราศรัย และเดินทางกลับไป จ.อุดรธานี ทันที แต่หลังจากนายบุญจงและคณะเดินทางกลับ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม กลุ่มเพื่อนเนวิน ได้นำผู้สมัคร ส.ส.จากเพื่อนแผ่นดิน คือ นางสุมาลี พูนศิริกุล ปราศรัยหาเสียงต่อในจุดที่นายบุญจงนัดไว้ ดังนั้น จะอ้างว่ามาตรวจราชการและมอบนโยบายนั้น ไม่มีใครเชื่อ เพราะเป็นการใช้ตำแหน่งและอำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้งชัดเจน ขณะที่นายบุญจงให้สัมภาษณ์ว่า ไม่รู้สึกกังวล เนื่องจากการลงพื้นที่เมื่อวันที่ 2 มกราคมนั้น เป็นการเดินทางไปในนามส่วนตัว ไม่ใช่ไปในนามราชการ และยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมือง เพราะเป้าหมายในการลงพื้นที่คือต้องการรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน รวมทั้งพูดคุยกันเรื่องของบ้านเมือง และนโยบายของรัฐบาลที่จะนำไปใช้แก้ปัญหา ส่วนที่กล่าวหาว่าตนไปใช้อำนาจช่วยผู้สมัครหาเสียงนั้น ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน ไม่คิดว่าการกระทำของตนจะเข้าข่ายการแอบอ้างตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อประโยชน์ส่วนตัวอย่างที่มีการกล่าวหา เลขาฯ อาเซียนชี้ต่างชาติเริ่มเชื่อมั่นไทย นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า หลังมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ นานาประเทศมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลไทย ที่มาตามครรลองของรัฐธรรมนูญ เป็นที่ยอมรับของประชาชนภายในประเทศ ที่สามารถลดความรุนแรงและความตึงเครียดในการเผชิญหน้าลงไปได้ ต่อมาเวลา 14.00 น. นายสุรินทร์เดินทางเข้าพบนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ เพื่อหารือถึงกำหนดการและการเตรียมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์-1 มีนาคม 2552 จนถึงขณะนี้ทุกประเทศตอบรับหมดแล้ว เหลือเพียงประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศคู่เจรจาของอาเซียนเพียงประเทศเดียวที่ยังไม่ได้ตอบรับกลับมา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook