ม็อบเสื้อแดงปิดล้อมโรงแรมพ่อตาเนวินไล่ไพฑูรย์

ม็อบเสื้อแดงปิดล้อมโรงแรมพ่อตาเนวินไล่ไพฑูรย์

ม็อบเสื้อแดงปิดล้อมโรงแรมพ่อตาเนวินไล่ไพฑูรย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ม็อบเสื้อแดงเปิดศักราชใหม่ พาคนนับ100ปิดล้อมโรงแรมพ่อตาเนวินย่านไนท์บาซ่าร์ ตามตะเพิด ไพฑูรย์ แก้วทอง ม็อบเสื้อแดงลำปางชุมนุมต้าน สมเกียรติ ประชา ชี้ ทักษิณ ยอมเจรจาหากเกิดผลประโยชน์กับประเทศ เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 3 ม.ค. 52 ม็อบเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่51 กว่า 100 คน นำโดยน.ส.กัญญาภัค มณีจักร แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้รวมตัวกันนำรถเครื่องขยายเสียง สี่ล้อแดงและรถตุ๊กตุ๊กมาปิดล้อมที่ด้านหน้าโรงแรมรอยัลล้านนา ย่านไนท์บาซ่าร์ ถ.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังมีกระแสข่าวว่านายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.กระทรวงแรงงาน และกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปปัตย์ได้เดินทางมาพักที่โรงแรมดังกล่าว พื่อเตรียมช่วยนายขยัน วิพรหมชัย ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปปัตย์ จ.ลำพูน ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อม ในระหว่างการชุมนุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองเชียงใหม่ กว่า 20 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้นำกำลังพร้อมอผงเหล็กของโรงแรมมากั้นไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้ามาด้านใน แต่เหตุการณ์ก็เป็นไปโดยสงบ โดยกลุ่มเสื้อแดงรวมตัวกันปิดล้อมด้านหน้าและทางเข้าออกทุกด้านของโรงแรมไว้นานกว่า 2 ชั่วโมง โดยไม่ยอมให้นักท่องเที่ยวผู้พักอยู่ในโรงแรมขับรถยนต์เข้าออกได้ แต่อนุญาตให้เฉพาะผู้ที่จะเดินเท้าออกไป ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วนที่มีกำหนดจะขับรถส่วนบุคคลออกไปท่องเที่ยวตามยอดดอยต้องหงุดหงิดไม่พอใจหลายราย แต่ก็ไม่ได้มีปากเสียงหรือปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด ในที่สุดเมื่อเช็คข่าวทราบชัดว่านายไพฑูรย์ ได้เช็คเอาท์ไปก่อนหน้าที่กลุ่มเสื้อแดงจะมาปิดล้อม จึงได้ยอมสลายตัวกันไปโดยสงบ โดยน.ส.กัญญาภัค แกนนำเสื้อแดงรักเชียงใหม่51 ประกาศผ่านทางเครื่องเสียง ซึ่งมีการถ่ายทอดสดบรรยากาศการชุมนุมผ่านทางสถานีวิทยุชุมชน 92.5เมกกะเฮิรตซ์ ว่า การชุมนุมครั้งนี้ถือเป็นการประเดิมการเคลื่อนไหวต่อต้านรับบาลประชาธิปปัตย์ศักราชใหม่ และหากรู้ว่าคนของพรรคประชาธิปปัตย์หรือ ส.ส.สังกัดพรรคร่วมรัฐบาลที่แปรพักตร์รวมถึงกลุ่มแกนนำพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตยจะเข้ามาเหยียบพื้นที่ จ.เชียงใหม่ที่ใด ก็จะพาม็อบเสื้อแดงเชียงใหม่ตามมาไล่ไปให้พ้นจากพื้นที่ทันที ม็อบเสื้อแดงลำปางชุมนุมต้าน"สมเกียรติ" เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ม.ค. 2551กลุ่มเสื้อแดงลำปาง ประมาณ 300 คนรวมตัวชุมนุมกันบริเวณ หน้าห้างเสรีสรรพสินค้า อ.เมือง จ.ลำปาง หลังมีกระแสข่าวว่านายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะเดินทางมาร่วมประชุมกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรลำปาง ที่ห้างชั้น 2 สรรพสินค้าเสรี โดยกลุ่มเสื้อแดงลำปางได้กล่าวโจมตีและท้าทายให้นายสมเกียรติ ออกมาเผชิญหน้ากับกลุ่มของตน และปลุกระดม เอาพรรคประชาธิปัตย์ออกไปเอาทักษิณคืนมา สำหรับวันนี้แกนนำกลุ่มพันธมิตรลำปาง จะมีการประชุมระดับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯลำปาง เพื่อหารือแนวทางการเคลื่อนไหวและการประสานงานในกลุ่มว่าจะทำงานร่วมกันกันอย่างไรต่อไป โดยนายสมเกียรติ มีกำหนดการเดินทางมาที่ จ.เชียงใหม่ ทางพันธมิตรลำปางจึงเชิญมาร่วมเป็นที่ปรึกษาข้อประชุมดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ กลุ่มเสื้อแดงลำปาง กำลังชุมนุมอยู่ ทางห้างเสรีสรรพสินค้าได้ ปิดประตูทางเข้าออกบริเวรหน้าห้าง เพราะเกรงว่ากลุ่มม็อบเสื้อแดงจะบุกเข้าไปภายในห้างฯ "สมเกียรติ"ร่วมประชุมพันธมิตรลำปาง เมื่อเวลา 15.00 น. นายสมเกียรติ ได้เดินทางมาที่ชั้น 5 อาคารเสรีสรรพสินค้า บริเวณโรงหนังเสรีซีนีเพล็กซ์ และมีการประชุม แกนนำและเครือข่ายพันธมิตรฯลำปาง โดยมีนพ.บุญจง ชูชัยแสง รัตน์ รองประธานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.ลำปาง พร้อมแกนนำพื้นที่ลำปาง และสมาชิกเครือข่ายพันธมิตรลำปาง กว่า 300 คน มาร่วมประชุม และลงชื่อเพื่อเป็นแนวร่วมในการขับเคลื่อนร่วมกันกับพันธมิตรส่วนกลาง หลังเสร็จสิ้นการประชุม ในเวลา 16.00 น.นียรติ เขียนลายเซ็นลงบนมือตบ และเสื้อเหลือง ให้กับกลุ่มพันธมิตรที่มาร่วมประชุมดังกล่าว และให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวว่า การเดินทางมา จ.ลำปาง ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมาพบ และปราศรัยกับเพื่อนพันธมิตรภาคเหนือ ซึ่งมีกำหนดมาที่ จ.ลำปาง และอ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อกำหนดแนวทาง ความร่วมมือขับเคลื่อนงานการเมืองร่วมกันที่ชัดเจน โดยคาดว่าจากนี้ในส่วนของภาคเหนือ น่าจะได้มาปราศรัยในพื้นที่อื่นๆต่อไป จากนั้นได้เดินออกทางด้านหลังลานจอดรถ เพื่อเดินทางกลับ โดยรถยนเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส สีขาว ไม่ติดป้ายทะเบียน ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงที่มาร่วมชุมนุม บริเวณ หน้าห้างสรรพเสรีสินค้า บรรยากาศไม่ค่อยคึกคักนัก และเริ่มบางตาลง ตั้งแต่ช่วงเวลา 15.00 น. โดยมีไม่ถึง 100 คน "ประชา"ชี้"ทักษิณ"ยอมเจรจาหากเกิดผลประโยชน์กับประเทศ นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พยายามติดต่อขอเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของชาติเดินไปข้างหน้า ว่า หากนายสุเทพ จะมาเจรจาเพื่อหวังผลประโยชน์ร่วมกัน พ.ต.ท. ทักษิณ คงไม่เจรจาแน่ แต่ถ้าเจรจาแล้วประโยชน์ตกอยู่กับประเทศชาติอย่างแท้จริง ทำให้เศรษฐกิจชาติพ้นวิกฤต ลดความแตกแยกของคนในชาติ และให้ผลคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมบนพื้นฐานของความถูกต้องเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พร้อมเจรจาด้วย นายประชา กล่าว พผ.เรียกร้องส.ส.พรรคทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีความแตกแยกของสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินที่เกิดขึ้นภายหลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาว่า เรื่องที่เกิดขึ้นภายในพรรคสำหรับตนเองถือว่าได้ผ่านพ้นและได้จบลงไปแล้ว หลังจากนี้ตนอยากจะให้ส.ส.ของพรรคที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหันมาทำงานเพื่อชาติ และแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนจะดีกว่า ซึ่งหากสมาชิกพรรคทั้งสองกลุ่มได้ยึดหลักดังกล่าวเป็นที่ตั้ง ตนก็เชื่อว่าปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้นก็คงจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ และมั่นใจว่าการทำงานของพรรคหลังจากนี้ไปก็สามารถที่จะเดินหน้าทำงานร่วมกันต่อไปได้ ความคิดเห็นที่ต่างแตกกันในช่วงที่มีการเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ตอนนี้เราได้เดินก้าวผ่านเวลาช่วงนั้นมาแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส.แต่ละคนที่จะสามารถตัดสินใจใช้สิทธิ์ของตนเอง ส่วนข่าวที่ออกมาว่าทางพรรคมีความแตกแยกออกเป็นกลุ่มๆ นั้น คงจะไม่ใช่ความจริง เท่าที่ผมเห็นก็มีเพียงแค่สองกลุ่มที่มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ดังนั้นผมจึงอยากจะเรียกร้อง และขอให้ทุกคนภายในพรรคยึดหลักทำงานเพื่อประเทศ และประชาชนเป็นหลัก เร่งแก้ไขปัญหาปากท้อง และปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในเวลานี้จะดีกว่า อย่าไปคิดถึงเรื่องอื่น เพราะหากเราทุกคนยึดเอาประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลัก ปัญหาเรื่องถือว่าก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ นายชาญชัยกล่าว รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงดำเนินการส่งผลการประชุมใหญ่พรรคในการเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ว่า ก่อนช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ตนได้มอบหมายให้นายทะเทียบพรรค ดำเนินการยื่นส่งผลการประชุมใหญ่ในการเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ไปยังต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)แล้ว ในขณะนี้คงจะต้องให้การพิจารณารับรองผลการประชุมดังกล่าวจากกกต.อีกครั้ง ซึ่งตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนทิศทางการทำงานของพรรคหลังจากนี้ คงจะต้องรอผ่านช่วงวันหยุดปีใหม่ไปแล้ว ทางพรรคคงจะต้องมีการเรียกประชุมพรรค เพื่อพูดคุยถึงแนวทางการทำงานของพรรคต่อไป นายชาญชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยที่ออกมาระบุว่าจะมีการยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทันทีหลังจากที่เปิดสมัยประชุมสภาว่า เรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ของฝ่ายค้านที่สามารถทำได้ เราคงจะต้องรอดูว่าฝ่ายื่นขออภิปรายในประเด็นได้ เรื่องนี้เหมือนกับรัฐบาลกำลังเตรียมสำรับกับข้าว พร้อมที่นำไปตั้งเพื่อรับประทาน แต่ฝ่ายค้านเห็นว่าไม่น่าอร่อยไม่อยากจะกิน เราก็คงจะไปว่าอะไรไม่ได้ ในเมื่อไม่อยากจะกินก็ไม่ต้องกิน แต่ก็ต้องบอกมาว่าไม่อยากกินเพราะสาเหตุอะไร ไม่อร่อยตรงไหน ให้มาพูดกัน" นายชาญชัยกล่าว ด้านนายรณฤทธิชัย คานเขตต์ ส.ส.จังหวัดยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ส่วนตัวมองว่าน่าจะเป็นการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เร็วไปหน่อย เนื่องจากในขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้เริ่มทำงานให้เป็นชิ้นเป็นอันอะไรเลย แต่ในเมื่อพรรคฝ่ายค้านอยากจะขอเปิดอภิปรายก็สามารถที่จะทำได้ เนื่องจากเรื่องถือว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเราคงจะต้องรอดูว่าฝ่ายค้านจะขอเปิดอภิปรายรัฐบาลในประเด็นใด กกต.ไม่รับตั้งพรรคขัตติยะธรรม นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณี ว่าที่ ร.ต.สุรทัศ จันทิมา พร้อมพวกยื่นจดตั้งพรรคการเมืองในนามพรรค ขัตติยะธรรม ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2551 และมี กรรมการบริหารพรรคจำนวน 9 คน โดยมีว่าที่ ร.ต.สุทัศ เป็นหัวหน้าพรรคและมีนายอธิปรัฐ กาญจนสุวรรณ เป็นเลขาธิการพรรค โดยพล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิประจำกองทัพบก เป็นผู้สนับสนุนให้มาจัดตั้งเพื่อรองรับการเล่นการเมืองของตนเองในอนาคตว่า หลังจากที่ได้ตรวจสอบจากนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้วปรากฏว่านายทะเบียนไม่สามารถตอบรับให้จดแจ้งเป็นพรรคการเมืองได้ เนื่องจากมีรองเลขาธิการคนหนึ่งเป็นสมาชิกพรรคอื่นแล้ว ประกอบกับข้อบังคับของพรรคที่ส่งมาจำนวน 6 ข้อขัดต่อกฎหมาย เมื่อนายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นแล้วว่า เมื่อข้อบังคับพรรคผิดกฎหมายจึงไม่จำเป็นต้องดูส่วนประกอบอื่น และได้ส่งหนังสือแจ้งตอบกลับไม่ยังผู้เสนอจดตั้งพรรคแล้ว ด้าน พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ทางพรรคได้รับทราบและได้ดำเนินการแก้ไข ในสิ่งที่ไม่ถูกต้องทั้งในเรื่องรองเลขาธิการพรรค ซึ่งไปเป็นสมาชิกพรรคประชาราช ก็ได้เปลี่ยนตัวแล้ว รวมทั้งเขียนข้อบังคับพรรคให้สอดคล้องกับกฎหมายรวมทั้งมีการเปลี่ยนคำบางคำที่คิดว่าไม่เหมาะสมเช่น สโลแกนของพรรค ที่เดิมใช้คำว่า พูดได้ คิดได้ ทำไม่ได้ เป็น พูดได้ คิดได้ ต้องทำได้ เพื่อกระตุ้นให้คนเลือกพรรค และยังเปลี่ยนโลโก้เอาสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับทหารออกไปและจะยื่นจดแจ้งตั้งพรรคเข้ามาใหม่ นางสดศรี ยังกล่าวถึงการตั้งพรรคการเมืองว่า เคยมีการพูดกันว่าการที่มีคนรวมกัน 15 คนตั้งพรรคการเมืองนั้นง่ายไป น่าจะตั้งเป็นกลุ่มการเมืองกันก่อนแล้วทำกิจกรรมทางการเมืองสัก 2 ปี จึงจะให้ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งได้ แต่ก็มีผู้แย้งว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองที่ตั้งอยู่แล้วขายหัวพรรคได้ง่าย ดังนั้นควรให้มีการแข่งขันกันโดยให้มีการตั้งพรรคการเมืองได้ง่าย แต่ก็มีการออกกฎหมายยุบพรรคการเมืองกรณีกรรมการบริหารพรรคทุจริตการเลือก และในอนาคตจะมีพรรคการเมืองถูกยุบไปจำนวนมาก เนื่องจากไม่แจ้งบัญชีค่าใช้จ่ายตามกำหนด ซึ่งหลังจากนั้นก็ควรจะมีการพิจารณาว่าสมควรมีการปรับปรุงรัฐธรรมนูญปี 2550 หรือไม่ เพื่อให้พรรคการเมืองเข้มแข็งไม่ถูกยุบโดยง่าย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook