หนุ่มรง.ถูกปลด บุกปล้นเซเว่นฯ

หนุ่มรง.ถูกปลด บุกปล้นเซเว่นฯ

หนุ่มรง.ถูกปลด บุกปล้นเซเว่นฯ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หนุ่มอยุธยาตก งานเพราะโรงงานเลิกจ้าง เงินหมดเลยกลายเป็นโจรจำเป็น สวมหมวกไอ้โม่งควงมีดปล้นร้านเซเว่นอีเลฟเว่น โกยบัตรเติมเงินมือถือไป 56 ใบ มูลค่ารวม 27,000 บาท พร้อมมือถืออีก 2 เครื่อง แต่ก็จนมุมอย่างรวดเร็ววันเดียวกัน เพราะพอปล้นปุ๊บ ก็เที่ยวเอาบัตรเติมเงินไปเร่ขาย สารภาพลงมือปล้นจริง อ้างจะทำหนเดียวแล้วเลิก เพื่อหาเงินให้เมียไปลงทุนค้าขาย หลังจากเงินที่โรงงานให้มาเป็นค่าเลิกจ้าง 3 พันบาทหมดไปแล้ว เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 12 ม.ค. พ.ต.ท. ปรีชา แสงสุวอ พนักงานสอบสวน สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาสวนอุตสาหกรรมบ้านแพน ม.11 ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.อำนาจ สุขทรัพย์ศรี รองผกก.สส. ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบพนักงานหญิง 3 คน คนแรกประจำเคาน์เตอร์ คนที่สองทำหน้าที่ตรวจเช็กสินค้าที่ชั้นวางของ และคนที่สามจัดสินค้าอยู่ที่หลังร้าน จากการสอบสวนพนักงานภายในร้าน ให้การว่า ขณะที่พนักงานทั้งสามปฏิบัติงานตามปกติอยู่นั้น ได้มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 20-40 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ล่ำสัน สวมหมวกกันน็อก มีผ้าขาวคาดปิดปากจมูกอำพรางใบหน้า สวมเสื้อแจ๊กเกตสีเทา สวมกางเกงยีนส์ ในมือถือมีดปลายแหลม เข้ามาก่อเหตุชิงทรัพย์ในร้าน พนักงานสาวทั้งหมดเห็นเช่นนั้นจึงหนีไปซ่อนตัวหลังร้าน ส่วนคนร้ายพยายามเปิดที่เก็บเงินตรงเคาน์เตอร์แต่เปิดไม่ได้ จึงหันไปหยิบเอาบัตรโทรศัพท์ชนิดเติมเงินทุกยี่ห้อ รวม 56 ใบ รวมเป็นเงินกว่า 27,000 บาท โทรศัพท์อีก 2 เครื่อง หลบหนีไปด้วยรถจักรยานยนต์ เหตุการณ์ทั้งหมด ภาพวงจรปิดในร้านถ่ายเอาไว้ได้เป็นหลักฐาน ต่อมา ตำรวจทราบว่ามีชายอายุประมาณ 30 ปี รูปร้ายคล้ายคนร้ายที่ก่อเหตุ นำบัตรโทรศัพท์แบบเติมเงินหลายยี่ห้อ ออกเร่ขายไปตามร้านสะดวกซื้อทั่วอ.เสนา อ้างว่าญาติหรือน้องสาวซื้อบัตรเติมเงินผิดไป จึงขอแลกบัตรให้เป็นเงินสดตามเดิม แต่ไม่มีร้านสะดวกซื้อใดรับแลกไว้ และทุกร้านแจ้งตำรวจให้ทราบถึงพฤติกรรมผิดปกติดังกล่าว กระทั่งเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.พรชัย ทมิฬทร ผกก.สภ.เสนา พ.ต.ท.อำนาจ สุขทรัพย์ศรี รองผกก.สส. พ.ต.ต.สามารถ เพชรคุ้ม สวป.สภ.เสนา พร้อมกำลังสืบสวนติดตาม จับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นได้ ทราบชื่อ นายสมชาย จินดาวงศ์ อายุ 29 ปี บ้านเดิม 34 ม.2 ต.บ้านหลวง อ.เสนา จับกุมได้ขณะหลบหนีไปอยู่ที่บ้านญาติในเขตอ.ภาชี จ.พระนครศรรีอยุธยา พร้อมของกลางบัตรโทรศัพท์เติมเงิน อาวุธมีด และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน คมก 741 ชลบุรี นายสมชาย ให้การรับสารภาพต่อหน้าพล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จ.พระนครศรี อยุธยาว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นพนักงานโรงงานในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ อ.อุทัย จ.พระนครศรี อยุธยา เพิ่งจะถูกเลิกจ้างเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2551 พร้อมกับเพื่อนพนักงานจำนวน 500 คน โดยได้รับเงินค่าเลิกจ้างมาจำนวน 3,000 บาท หลังจากนั้นได้กลับไปหาภรรยาที่อ.ปากช่อง จ.นครราช สีมา แล้วพาภรรยาอยู่กับแม่ที่อ.ภาชี ให้ช่วยขายของ แต่มาระยะหลังเงินไม่พอใช้ จึงตัดสินใจหาเงินโดยการปล้นเพื่อนำมาให้ภรรยาลงทุนค้าขาย คิดว่าจะทำครั้งเดียวแล้วเลิก แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้เสียก่อน ตำรวจจึงแจ้งข้อหาก่อเหตุชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน พล.ต.ต.นเรศ กล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มวัยรุ่นที่ตกงานในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยาจำนวนมาก ได้สั่งการให้หัวหน้าสถานีทุกแห่งจัดกำลังออกตรวจตามร้านสะดวกซื้อ ธนาคาร ตลาดนัด ชุมชน และตามวัดต่างๆ และขอให้ทางร้านต่างๆตรวจสอบกล้องวงจรปิดในร้านให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพราะจะเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อเกิดเหตุการณ์ คดีนี้เป็นตัวอย่างได้จากภาพวงจรปิดทำให้สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook