RPG จากพม่าตกฝั่งไทย เจ็บหลายราย

สถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ด้านตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ได้มีกองกำลังจากฝั่งพม่า ใช้อาวุธปืนหนัก ยิงเข้าใส่ฝั่งประเทศไทย จำนวนหลายลูก ทำให้มีคนไทยได้รับบาดเจ็บ โดยกระสุนปืนได้ตกที่บริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้างป้อมตำรวจ 407 และที่บริเวณ หลังด่านศุลกากรแม่สอด จำนวน 1 ลูก รวมทั้งตามท่าเรือขนส่งสินค้า ริมแม่น้ำเมย เจ้าหน้านำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่งโรงพยาบาลแม่สอด เรียบร้อยแล้ว และล่าสุด ได้มีการยิงปะทะกันด้วยอาวุธปืนเล็กยาวประจำกาย เสียงปืนดังเป็นระยะๆ และต่อเนื่อง และที่ท่าเรือขนส่งสินค้า ท่า 16 ได้มีผู้อพยพชาวพม่า หลบหนีข้ามแม่น้ำเมย เข้ามาฝั่งไทยจำนวนมาก

นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้สั่งปิดถนนเข้าชายแดน และอพยพคนไทย ออกมาจากพื้นที่ชายแดน รวมทั้งพ่อค้า แม่ค้า ตลาดริมเมย ได้ปิดร้าน และอพยพออกจากพื้นที่แล้ว โดยได้มีการปิดถนน ที่จะเดินทางเข้าไปยังชายแดน ที่หน้าสนามบินแม่สอด และทุกเส้นทาง เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับคนไทย

นอกจากนี้ ยังได้ปิดสำนักงานจัดหางาน และหน่วยงานราชการอื่นๆ รวมทั้งโรงเรียนต่างๆ ที่เปิดทำการที่ริมเมย พันเอกสุภโชค ธวัชพีระชัย ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด ได้สั่งการให้ทหาร เพิ่มกำลังพลและอาวุธ เข้าประจัญหน้ากับกองกำลัง ในฝั่งพม่า ที่ใต้สะพานมิตรภาพไทย-พม่า และทหารไทย ได้มีการตั้งฐานอาวุธปืนหนัก ที่ฐานปฏิบัติการแห่งหนึ่ง เพื่อยิงตอบโต้ หากเหตุการณ์บานปลาย รุนแรง และทำให้เกิดผลเสียหายกับประชาชนคนไทย

ด้าน พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุทหารกองทัพกะเหรี่ยง ได้บุกเข้าโจมตีทหารพม่า ในจังหวัดเมียวดี ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับด่านอำเภอแม่สอด จ.ตาก โดยการปะทะค่อนข้างรุนแรง และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกมาฝั่งไทย เท่าที่รับรายงาน 1 นัด โดยไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ทาง กองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้อพยพคนไทย ที่อยู่ริมแม่น้ำเมย และเป็นจุดเสี่ยงในการถูกลูกหลงจากการปะทะ เข้ามาในที่ปลอดภัยแล้ว และกำชับไม่ให้ทหารที่ส่งไปตรึงกำลังตามแนวชายแดน ตอบโต้เด็ดขาด แต่ให้เฝ้าระวังสถานการณ์เอาไว้เท่านั้น โดยการรบครั้งนี้ คาดว่า น่าจะเป็นการบุกเข้าโจมตีของทหารกะเหรี่ยง ใส่ทหารพม่า ที่ตั้งฐานอยู่ในจังหวัดเมียวดี ส่วนด่านชายแดนแม่สอด นั้น ปิดตัวมานานแล้ว จึงไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด

คืบหน้า กระสุนตกฝั่งไทย หลังพม่าปะทะกระเหรี่ยง ที่ เมียวดี เจ็บ 7-8 ราย สุนัขตาย 1 ตัว ชาวบ้านพม่า หนีตายเข้าไทยกว่าพันคนแล้ว

พ.ต.อ.เดชชาติ วัฒนพนม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่สอด (ผกก.สภ.แม่สอด) จ.ตาก เปิดเผย ความคืบหน้า
กรณีกระสุนหลงมาตกฝั่งไทย 1 ลูก หลังเกิดการปะทะกันอย่างดุเดือด ระหว่างทหารพม่ากับกะเหรี่ยง โดยกระสุน ซึ่งคาด
ว่า น่าจะเป็นกระสุนครก ตกใส่ตึกแถว ในศูนย์การค้าแม่เมยซิตี้ ทะลุกันสาด มาใส่ผู้คน ที่กำลังจับจ่ายซื้อของ ได้รับบาดเจ็บ
ทั้งหมดประมาณ 7-8 ราย นำส่งโรงพยาบาลแล้ว และยังมีรถกระบะของชาวบ้านเสียหายอีก 1 คัน และมีสุนัขโดนสะเก็ด
ระเบิดตาย 1 ตัว เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ชาวพม่า ทะลักหนีตายเข้ามาในฝั่งไทย จำนวนมากกว่าพันคนแล้ว โดยทางการไทยได้ให้ไปอยู่ ที่ วัดไทยวัฒนาราม เป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะนำไปยู่ที่ค่ายตํารวจตระเวนชายแดน ต่อไป

ล่าสุด นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ทำการอพยพนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ ออกจากพื้นที่จุดอันตราย ที่มีลูกกระสุนอาวุธปืนหนัก มาตกฝั่งไทย ที่ ตลาดริมเมย เชิงสะพาน
มิตรภาพไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก โดยการอพยพนักเรียนไทย ทั้ง โรงเรียนภัทรวิทยา โรงเรียนบ้านห้วยม่วง โรงเรียนบ้านท่าอาจ และ โรงเรียนบ้านวังตะเคียน เป็นไปอย่างชุลมุน วุ่นวาย เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเข้าช่วยเหลือ เพื่อนำนักเรียนกลับบ้าน เนื่องจากสถานการณ์ชายแดน ไม่น่าไว้วางใจ

นอกจากนี้ ยังมีผู้อพยพจากฝั่งพม่า อพยพเข้ามาที่ชายแดนไทย และเข้าไปอยู่ ที่ วัดท่าสายโทรเลข จำนวนนับ 1,000 คน พร้อมให้การช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน และได้มีการปิดถนน ที่จะเดินทางไปยังชายแดนทุกจุด เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับคนไทย

สถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ที่เกิดขึ้น สืบเนื่องมาจากกองกำลังทหารกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA) พร้อมอาวุธครบมือ ได้เข้าไปยังจังหวัดเมียวดี ตั้งแต่ก่อนวันเลือกตั้ง โดยไปยึดอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ขณะที่ฝ่ายพม่า พยายามเจรจากับฝ่าย DKBA แต่ไม่เป็นผล จึงมีการเสริมกำลังทหารพม่ามา เพื่อปราบปรามฝ่าย DKBA และครั้งล่าสุด ได้มีการเจรจากันเช้าวันนี้ แต่ไม่เป็นผลใด จึงนำไปสู่การสู้รบกัน ล่าสุดทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงปะทะกันด้านในพม่า ทั้งอาวุธประจำกาย และอาวุธหนัก อย่างต่อเนื่อง โดยฝ่ายพม่า ยังไม่สามารถควบคุมพื้นที่ไว้ได้ทั้งหมด