ควรตื่นรู้! ดาราสาวอายุแค่ 29 ต่อสู้ “วิกฤตไตวาย” หมอชี้สาเหตุ โรคร้ายที่กำลังคุกคามคนรุ่นใหม่

“โรคไตวาย” กลายเป็นคำค้นหายอดฮิต หลังกรณีของนักแสดงสาว “เงิ่น ฮวา” สะท้อนแนวโน้มผู้ป่วยวัยหนุ่มสาวที่น่ากังวลในเวียดนาม
กรณีของนักแสดงสาวชาวเวียดนาม เงิ่น ฮวา ซึ่งถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายในวัยเพียง 29 ปี ได้กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในสื่อและสังคมออนไลน์ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาแนวโน้มของโรคไตที่กำลังเกิดขึ้นในคนวัยหนุ่มสาวมากขึ้นในเวียดนาม
เงิ่น ฮวา นักแสดงสาวผู้ต่อสู้กับโรคไตวายเรื้อรัง
เงิ่น ฮวา เกิดในปี 1996 เคยศึกษาในมหาวิทยาลัยมนุษยศาสตร์แห่งนครโฮจิมินห์ และมีผลงานในวงการบันเทิงหลายเรื่อง เช่น Vua bánh mì (ราชาขนมปัง), Giấc mơ của mẹ (ความฝันของแม่), Trại hoa đỏ, 7 năm chưa cưới sẽ chia tay และ Mai…เป็นต้น
เธอเริ่มตรวจพบโรคไตวายเรื้อรังระยะที่ 3 ในเดือนพฤษภาคม ปี 2023 และภายในเวลาไม่ถึงสองปี โรคได้พัฒนาอย่างรวดเร็วจนเข้าสู่ระยะสุดท้ายในช่วงปลายปี 2024 ปัจจุบันไตของเธอไม่สามารถกรองของเสียได้อีกต่อไป และต้องพึ่งพาการฟอกไตเพื่อดำรงชีวิต
แม้สภาพร่างกายจะอ่อนแออย่างหนัก แต่เงิ่น ฮวายังคงไม่ละทิ้งความฝันในวงการบันเทิง โดยเธอยังพยายามเข้าร่วมการแคสติ้งและแสดงละครอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ความลำบากทางการเงินของครอบครัวทำให้เธอไม่สามารถเข้ารับการปลูกถ่ายไตได้ ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน
โรคไตวายในคนรุ่นใหม่ สัญญาณอันตรายของสังคม
กรณีของเงิ่น ฮวา ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงรายเดียวเท่านั้น ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามระบุว่า ประเทศมีผู้ป่วยโรคไตเพิ่มขึ้นราว 8,000 รายต่อปี และมีประชาชนหลายล้านคนที่อยู่ในภาวะไตวายระดับต่าง ๆ โดยในนั้นประมาณ 26,000 คนต้องฟอกไตเป็นประจำ
ที่น่าตกใจกว่านั้นคือ จำนวนผู้ป่วยวัยหนุ่มสาวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ข้อมูลจากโรงพยาบาลเจิ๋อร่าย (Chợ Rẫy Hospital) ระบุว่า เพียงตั้งแต่ต้นปีจนถึงกลางเดือนมีนาคม 2024 แผนกไตเทียมมีผู้ป่วยเข้ารับการฟอกไตจำนวน 450 ราย และในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 35 ปีถึง 60 ราย คิดเป็น 15%
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคไตวาย
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลเจิ๋อร่าย ระบุว่า หนึ่งในสาเหตุหลักของภาวะไตวายที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มคนหนุ่มสาว คือการเพิ่มขึ้นของโรคเกี่ยวกับระบบเผาผลาญ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และเกาต์ ซึ่งโรคเหล่านี้มีแนวโน้มเกิดในคนอายุน้อยมากขึ้น และสามารถนำไปสู่ภาวะไตเสื่อม
นอกจากนี้ ยังมีโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น การติดเชื้อ สารตกค้าง นิ่ว หรือโรคทางพันธุกรรม เช่น โรคไตถุงน้ำ โรคแพ้ภูมิตนเอง (SLE) รวมถึงโรคที่มีผลต่อการทำงานของไตโดยตรง
วิถีชีวิตสมัยใหม่ก็เป็นปัจจัยเร่งสำคัญ ได้แก่
-
การบริโภคโปรตีนและไขมันสูงเกินไป
-
การนอนดึก ขาดการพักผ่อน
-
การรับประทานอาหารแปรรูปมาก
-
การใช้สารกระตุ้น สูบบุหรี่
-
ขาดการออกกำลังกาย
รวมถึงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การใช้ยาต่าง ๆ โดยไม่ปรึกษาแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ สมุนไพรไม่ทราบแหล่งที่มา หรืออาหารเสริมที่ไม่มีการรับรอง
ไตวายเรื้อรัง เป็นโรคเงียบที่อาจรู้ตัวช้าเกินไป มักมีพัฒนาการแบบค่อยเป็นค่อยไป และไม่แสดงอาการชัดเจนในระยะแรก ผู้ป่วยอาจเริ่มจากอาการทั่วไป เช่น คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ความดันโลหิตสูง หน้าบวม มือเท้าบวม เมื่อโรคลุกลามมากขึ้นจึงอาจต้องเข้ารับการรักษาแบบฉุกเฉินด้วยการฟอกไต
การป้องกันและแนวทางรับมือ ควรเริ่มจากการรักษาสุขภาพให้สมดุล, ควบคุมโรคประจำตัวให้ดี, หลีกเลี่ยงการใช้ยาและอาหารเสริมโดยไม่จำเป็น, ตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อค้นหาโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น หากตรวจพบเร็วและได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง จะสามารถชะลอการเสื่อมของไตและยืดคุณภาพชีวิตได้
- ถอดบทเรียน "เอ๋ ไพโรจน์" เสียชีวิต หมอรีบเตือน "อาการนี้ต้องระวัง" มันไม่ใช่กรดไหลย้อน!
- อุทาหรณ์ชีวิต หนุ่มอายุแค่ 27 ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ต้นเหตุคือ "เมนูโปรด" กินทุกคืนไม่เบื่อ!