มติศาลรธน.4/3ยกคำร้องไม่ยุบปชป.คดี258ล.

มติศาลรธน.4/3ยกคำร้องไม่ยุบปชป.คดี258ล.

มติศาลรธน.4/3ยกคำร้องไม่ยุบปชป.คดี258ล.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นำโดย นายนายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วย องค์คณะ ได้ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำวินิจฉัยที่อัยการสูงสุด ขอให้ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีข้อกล่าวหา การรับเงินบริจาค จำนวน 258 ล้านบาท จากบริษัท TPI โพลีน จำกัด (มหาชน) ผ่านทางบริษัท เมซไซอะฯ ในการเลือกตั้ง เมื่อปี 2548 ซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง หรือไม่ โดยหลังจากนัดพร้อมคู่กรณีครั้งแรก

ตุลาการเห็นว่า พยานหลักฐานที่ทั้ง 2 ฝ่าย นำมายื่นนั้น มีน้ำหนักเพียงพอให้พิจารณา และเริ่มอ่านคำวินิจฉัยทันที โดย ตุลาการ มีมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 3 ให้ยกคำร้องในคดีดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า นายทะเบียนพรรคการเมือง ยังไม่มีความเห็นให้ยุบพรรคในคดีนี้ ตามมาตรา 94 และ 95 ดังนั้น การที่ กกต. มีความเห็น เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ให้ส่งสำนวนให้ อัยการสูงสุด ยื่นยุบพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นการข้ามขั้นตอน โดย กกต. ไม่น่าจะมีอำนาจยื่นเรื่องให้ อัยการสูงสุด ยื่นยุบพรรคประชาธิปัตย์ได้ จึงมีมติให้ยกคำร้องในคดีดังกล่าว



ทั้งนี้ สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ออกเอกสารเผยแพร่คำวินิจฉัย ในกรณีที่ อัยการสูงสุด ร้องให้ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีข้อกล่าวหา การรับเงินบริจาค จำนวน 258 ล้านบาท ที่มีมติเสียงข้างมาก 4/3 ให้ยกคำร้องในคดีดังกล่าว โดยตุลาการที่มีเสียงข้างมาก ประกอบไปด้วย นายจรัญ ภักดีธนากุล นายจรูญ อินทจาร นายอนุรักษ์ มาประณีต และ นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ส่วน ตุลาการที่มีเสียงข้างน้อย ประกอบไปด้วย นายชัช ชลวร นายบุญส่ง กุลบุปผา และ นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี


ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมาย กล่าวภายหลัง ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 4 ต่อ 3 ยกคำร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ คดีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท ว่า แนวทางที่พรรคอาจจะยื่นฟ้องกลับ เพื่อขอให้ยุบพรรคเพื่อไทยนั้น ต้องเป็นการพิจารณาของพรรคว่า จะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไรหรือไม่ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับตน เพราะหลังคดีนี้ เสร็จสิ้น ก็ถือว่า หมดภารกิจแล้ว อีกทั้งก่อนหน้านี้ ทีมกฎหมายก็ไม่มีการหารือกันว่า จะฟ้องยุบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ แต่มีเพียงการพิจารณาแนวทางการต่อสู้คดีดังกล่าวเท่านั้น ส่วนจำเป็นจะต้องปรับปรุงกระบวนการของพรรค ในเรื่องของบัญชี ที่จะแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. หรือไม่นั้น ก็ต้องเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรค ที่จะพิจารณา

อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยคดีเสร็จนั้น ทีมกฎหมายก็ได้เดินทางกลับมายังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับสักการะ พระแม่พระธรณีบีบมวยผม ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook