นายกไม่ห่วงแดงเดินหน้าเลิกพรก.ก่อนปีใหม่

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และยังตั้งใจจะยกเลิก พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนปีใหม่ โดยมีการเตรียมแผนรองรับร่วมกัน ของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน. ซึ่งหากมีการเสนอมา ก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้หลังจากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว หากมีปัญหาเกิดขึ้น ก็อาจจะมีการใช้พระราชบัญญัติความมั่นคง เพื่อดูแลสถานการณ์ พร้อมตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. แทน พร้อมแสดงความมั่นใจว่า หากมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถดูแลสถานการณ์ได้ ไม่เป็นห่วงเรื่องตำรวจมะเขือเทศ เพราะทุกฝ่าย ต่างก็ต้องการให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย ส่วนการยุบสภานั้น ก็เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่จะตามมา โดยพิจารณาว่า สถานการณ์เป็นอย่างไร หากเป็นไปตามเงื่อนไข คือ เศรษฐกิจดีขึ้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ และบ้านเมืองมีความสงบ ก็ถึงเวลาเหมาะสมที่จะมีการยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ โดยคาดว่าอาจจะเป็นระหว่าง มี.ค. - เม.ย. ปีหน้า

ขณะเดียวกันนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ ยกคำร้องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์
กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ว่า อยากให้รอคำวินิจฉัยที่มีรายละเอียดความคิดเห็นทั้งหมดก่อน เหมือนกับกรณีเงินสนับสนุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ที่มีการทำคำวินิจฉัยในประเด็นข้อเท็จจริง ว่า พรรคไม่ได้กระทำความผิด ส่วนที่ นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ระบุว่า อาจจะพิจารณาส่งคำร้องยุบพรรคใหม่นั้น อยากให้กลับไปดูข้อกฎหมาย เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมือง นอกจากนี้ที่ผ่านมา นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ก็ไม่เคยมีการชี้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ทำผิด ดังนั้น กกต. ควรเคารพในคำวินิจฉัยศาล

อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบกรณีที่มีข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นยุบพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำว่า จะมีการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี อีกครั้ง หลังคณะกรรมการค่าจ้าง มีมติกำหนดตัวเลขค่าแรงขั้นต่ำวานนี้ ขณะที่ได้สั่งการให้ กระทรวงพาณิชย์ ดูแลการขึ้นราคาสินค้า เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพของประชาชน โดยยืนยันว่า การขึ้นค่าตอบแทน จะดำเนินการครอบคลุม ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนทุกกลุ่ม รวมถึงการขึ้นค่าตอบแทนให้กับฝ่ายนิติบัญญัติ หรือ นักการเมือง แต่เพื่อไม่ให้ถูกครหา ว่าเป็นการทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง ก็เป็นไปได้ ที่จะเขียนในบทเฉพาะการของกฎหมาย ที่จะไม่ปรับขึ้นเงินเดือนให้กับสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้

นายกฯ ยันยังไม่ได้รับรายงานจาก ก.มหาดไทย กรณีเช่าซื้อคอมฯ ชี้ มหาดไทย ต้องรับผิดชอบ หากเกิด
ความเสียหาย สั่งจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมขึ้นเงินเดือน อบต.ใหม่ เข้า ครม.สัปดาห์หน้า

นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวยืนยันว่า ยังไม่ได้รับรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับความคืบหน้า ในการดำเนินการเจรจากับบริษัท คอนโทรล ดาต้า ถึงปัญหาโครงการเช่าซื้อคอมพิวเตอร์ของกระทรวงมหาดไทย อย่างไรก็ตามยืนยันในจุดยืนเดิม ว่า กระทรวงมหาดไทย ต้องดำเนินการตามระเบียบของราชการ ในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยต้องบริหารจัดการสัญญาให้ถูกต้อง และต้องรายงานผลการตรวจสอบการทุจริต ทั้งนี้หากมีปัญหาฟ้องร้องค่าเสียหาย กระทรวงต้องรับผิดชอบ ส่วนการขึ้นค่าตอบแทนให้กับองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. โดยสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยทบทวนนั้น ล่าสุดทางกระทรวงได้รายงานมาแล้ว แต่ได้ขอให้ไปจัดทำข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ เกี่ยวกับภาระงบประมาณ ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า เพราะคณะรัฐมนตรี มีสิทธิ์ทบทวน และตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นการแลกเปลี่ยนกับการแก้กฎกระทรวงรองรับการทำบัตรสมาร์ทการ์ด
หรือ การขึ้นค่าตอบแทนให้กับ ส.ก. และ ส.ข.