หนุ่มเมืองพัทยาบีบแตรรถไล่โจ๋ถูกรุมกระทืบอ่วม

หนุ่มเมืองพัทยาบีบแตรรถไล่โจ๋ถูกรุมกระทืบอ่วม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 8 ม.ค.52 พ.ต.ต.เฉลิมศักดิ์ เถียรทองศรี สว.สส.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายและใช้อาวุธปืนยิงคนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณปากซอย 3 ถ.เลียบชายหาดพัทยา ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บทราบจากวิน จยย.รับจ้างที่อยู่ใกล้เคียงว่าพลเมืองดีนำตัวส่ง รพ.บางละมุง ไปก่อนหน้านี้

ตำรวจจึงตามไปตรวจสอบภายในห้องฉุกเฉินพบคนเจ็บ ทราบชื่อนายประสาน คร้ามไพบูลย์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 ม.1 แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กทม. อาชีพกุ๊กร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งย่านนาเกลือ ถูกอาวุธปืนลูกซองสั้นยิงกระสุนลูกโดดกระจายเต็มแผ่นหลัง นอกจากนี้ยังมีร่องรอยการถูกทำร้ายจนเป็นแผลตามร่างกายหลายแห่ง แต่เบื้องต้นอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

สอบสวนนายประสาน คนเจ็บ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุหลังจากเลิกงานได้ขับรถ จยย.กินลมไปตามถนนเลียบชายหาดพัทยา กระทั่งเกือบจะถึงปากซอย 3 มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 6 คน ขับรถ จยย. 4 คัน ลักษณะขวางทางอยู่ด้านหน้า ตนจึงบีบแตรเพื่อจะขอแซง แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ซึ่งแต่ละคนอายุไม่น่าจะเกิน 18 ปี และตัดผมสั้นเกรียนคล้ายนักเรียน จึงขับ จยย.ปาดหน้าให้ตนจอด แล้ววิ่งกรูเข้ามาใช้อาวุธแม่ไม้มวยไทยรุมทำร้ายตน หลังตั้งหลักได้จึงวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต แต่วิ่งไปประมาณ 10 เมตร 1 ในกลุ่มวัยรุ่น ได้ชักอาวุธปืนลูกซองสั้น ออกมายิงใส่จำนวน 1 นัดจนล้มลงกับพื้น หลังก่อเหตุได้พากันขับรถ จยย.หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พลเมืองดีที่ผ่านมาประสบเหตุจึงนำร่างตนส่ง รพ.ทันที

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า การที่กลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุน่าจะเกิดจากความคึกคะนอง เพราะจากการสอบถามคนเจ็บแล้วทราบว่าไม่รู้จักกับกลุ่มคนร้าย และไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน เบื้องต้นได้ลงบันทึกคำให้การไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะได้ทำการสอบปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติม เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ตะลุยข่าว : THE GREEN POLICE กองปราบฯ สู่ศตวรรษที่ 21

ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกสามารถระงับยับยั้งปัญหาอาชญากรรมให้ลดลงและควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้ ตรงกันข้ามกับประเทศไทย กลับมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และมีการกล่าวถึงในระดับนานาชาติว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook