บก.น.2รวบแล้วโจรฉกทอง1100บ.ออโรร่า3สาขา
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    https://s.isanook.com/sh/0/di/no-thumbnail-image.jpgบก.น.2รวบแล้วโจรฉกทอง1100บ.ออโรร่า3สาขา

    บก.น.2รวบแล้วโจรฉกทอง1100บ.ออโรร่า3สาขา

    2011-01-07T12:06:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้
    พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผกก.สส.บก.น.2 เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ตร.สายสืบ บก.น.2 ได้รวบตัวโจรปล้นชิงทองร้านทองออโรร่า 3 สาขาได้แล้ว โดยจับได้ 1 ราย เบื้องต้นสารภาพว่าทำคนเดียว และชิงทองในร้านออโรร่ามาแล้ว 3 สาขา คือร้านทองออโรร่าที่ห้างอิมพิเรียล ลาดพร้าว ได้ทองคำไปประมาณ 250 บาท ห้างทองออโรร่าสาขาโลตัส ลาดพร้าว ได้ทองคำไป 350 บาท และห้างทองออโรร่าสาขาบิ๊กซีอยุธยา ได้ทองคำไปกว่า 500 บาท และคนร้ายถูกยิงบาดเจ็บด้วย คนร้ายได้สารภาพอีกว่า ได้นำทองไปขายจนหมด และนำไปเล่นการพนันที่บ่อนฝั่งเขมร นอกนั้นก็แจกหญิงสาว ซื้อรถยนต์จนหมด มีเหลือติดตัวเพียงสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท เพียง 1 เส้น เท่านั้น โดย ตร.สามารถตามจับกุมตัวได้ที่ จ.เชียงใหม่ ตร.จะนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป

    ล่าสุดผบช.น. แถลงรวบตัวโจรปชิงร้านทองก่อนก่อเหตุซ้ำ สารภาพทำมาแล้ว 5 ครั้ง ได้ทองไปหลายร้อยบาท นำเงินเล่นการพนันจนหมด

    พล.ต.ท.จักทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมแแถลงผลการจับกุม นายสุพจน์ บุญเรืองรอด อายุ 28 ปี ชาว จ.สุโขทัย ผู้ต้องหาก่อเหตุปล้นร้านทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขาลาดพร้าว เป็นทองรูปพรรณ จำนวน 300 บาท เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางเป็นสร้อยของทองคำหนักรวม 5 บาท เงินสดอีก จำนวน 50,000 บาท อาวุธปืนปลอม ขนาดจุด 38 จำนวน 1 กระบอก และรถยนต์โตโยต้า โคโรล่า 1 คัน

    โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาแอร์พอร์ต จ.เชียงใหม่ ขณะที่เตรียมลงมือก่อเหตุปล้นร้านทอง ทั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธปืน จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าจะเลือกร้านทองออโรร่า เนื่องจากส่วนมากพนักงานเป็นผู้หญิงซึ่งง่ายต่อการชิงทรัพย์ โดยทำมาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง ในพื้นที่ กทม. และต่างจังหวัด ได้สร้อยคอทองคำน้ำหนักกรวม 600 บาท ทั้งนี้ยังเคยถูกเจ้าของร้านยิงมาแล้ว 1 ครั้ง

    พล.ต.ท.จักรทิพย์ ได้กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรย้อนหลังยังพบว่า ผู้ต้องหาติดคุกมาตั้งแต่อายุ 16 ปี ในคดีลักทรัพย์ และเข้าออกจากคุกแล้วจำนวน 6 - 7 ครั้ง อีกทั้งยังมีหมายจับในคดีต่างๆ อีก 4 คดี ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลอีกด้วย ซึ่งจะได้นำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป